นักธุรกิจ–พ่อค้าห้างร้านเมืองกำแพงเพชร

สมทบทุนบูรณะศาลหลักเมือง

ศูนย์รวมใจคู่บ้านคู่เมือง

ศรัทธาชาวเมืองกำแพงเพชร..! นักธุรกิจ พ่อค้า และเจ้าของกิจการห้างร้านในจังหวัดกำแพงเพชร ต่างพร้อมใจร่วมบริจาคเงินจำนวนมาก มอบให้กับ คุณกาญจนี รุจนเสรี ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อสมทบทุนการบูรณะปรับปรุง ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองกำแพงเพชร ซึ่งยังขาดงบประมาณอีกกว่า 2 ล้านบาท การบูรณะครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่ประชาชนทุกท่านจะมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง

การปรับปรุงศาลหลักเมืองครั้งนี้ ครอบคลุมการก่อสร้างโครงหลังคา เสา ลวดลายประดับตกแต่ง และพื้นที่สำหรับประกอบพิธีทางศาสนา รวมถึงงานบุญต่าง ๆ ทั้งนี้ การดำเนินงานสอดคล้องกับช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ที่เข้ามาดูแลบูรณะ เศียรเจ้าพ่อหลักเมืองและเสาหลักเมือง ควบคู่กัน เพื่ออนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม สืบสานศรัทธา และเอกลักษณ์วัฒนธรรมของจังหวัดกำแพงเพชรให้คงอยู่คู่เมืองต่อไป

นอกจากด้านความสวยงามแล้ว การบูรณะศาลหลักเมืองยังเป็นการ สร้างศรัทธาและความภาคภูมิใจให้ชาวกำแพงเพชร เพราะศาลนี้ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจ เป็นสถานที่สักการะและทำบุญอันศักดิ์สิทธิ์ เปิดโอกาสให้ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมและส่งต่อคุณค่าทางจิตใจให้ลูกหลานรุ่นต่อไป ผู้สนใจสามารถร่วมบริจาคสมทบทุนได้ที่

ธนาคารออมสิน ชื่อบัญชี แม่บ้านมหาดไทยจังหวัดกำแพงเพชร เลขที่บัญชี 020 410 167660

ประวัติศาลหลักเมืองกำแพงเพชร
ศาลหลักเมืองจังหวัดกำแพงเพชรมีอายุกว่า 700 ปี สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไท) เดิมเป็นเสาศิลาแลงสูงราว 2 เมตร โผล่พ้นดินประมาณ 1 เมตร และมีเศียรเทพารักษ์อยู่บนยอด ต่อมาชำรุดหลายครั้งในแต่ละยุค มีการบูรณะโดยเฉพาะในปี พ.ศ. 2472 และ 2488 จนกลายเป็น ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ที่ชาวกำแพงเพชรและจังหวัดใกล้เคียงเคารพนับถือ เชื่อว่าช่วยปัดเป่าอุปสรรคและเสริมความมั่นคงในชีวิต

ในปี พ.ศ. 2526 นายเชาวน์วัศ สุลดาภา ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ได้ดำเนินการบูรณะศาลหลักเมืองที่ทรุดโทรม โดยมอบหมายให้ นายประมวล รุจนเสรี รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปรับปรุงเป็นอาคาร จัตุรมุขคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด 17.5 x 17.5 เมตร สูง 19 เมตร ใช้เงินบริจาคจากประชาชน ต่อมาปี พ.ศ. 2527 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เสด็จประกอบพิธีเจิมเสาหลักเมือง และเชิญหลักเมืองพร้อมเศียรเทพารักษ์

ในปี พ.ศ. 2550 เสาหลักเมืองเกิดความชำรุด นายเกียรติชัย ติรณศักดิ์กุล นายกเทศมนตรีเมืองกำแพงเพชรขณะนั้น จึงประสานกรมศิลปากรบูรณะต้นเดิม และสร้างเสาจำลองสำหรับประชาชนใช้ปิดทองและสรงน้ำ พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์รอบศาลให้สอดคล้องกับบริบทเมืองเก่า

ต่อมาในปี พ.ศ. 2556 นายชัยวัฒน์ ศุภอรรถพานิช นายกเทศมนตรีเมืองกำแพงเพชร ขณะนั้น ดำเนินการบูรณะเสาหลักเมืองและศาลหลักเมืองอีกครั้ง โดยมีพ่อค้าและประชาชนร่วมบริจาคสร้าง ศาลาสักการะ และระบบกระจายเสียงถวายศาลหลักเมือง ปัจจุบันศาลปรับปรุงเป็นอาคารจัตุรมุขพร้อมเขตปริมณฑล ก่อสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก พื้นหินอ่อน และทรายล้างสีศิลาแลง

ในปี พ.ศ. 2568 เสาหลักเมืองมีรอยแตกร้าว ผิวทองสมุกหลุดล่อน และใบหน้าของเจ้าหมื่นขุนศรีวรจักรเกิดการชำรุด นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร (บุตร) นายประมวล รุจนเสรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปี 2526  ได้ดำเนินการบูรณะเศียรเจ้าหมื่นขุนศรีวรจักร เสาหลักเมือง และศาลหลักเมืองอีกครั้ง โดยมี นายสาโรจน์ แสงสี นายช่างศิลปกรรมทักษะพิเศษ และนายเกียรติศักดิ์ ศิลป์ประดิษฐ์ หัวหน้ากลุ่มงานช่างแกะสลักและช่างไม้ประณีต พร้อมบุคลากรกลุ่มประณีตศิลป์ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร เข้าร่วมดำเนินการ

การบูรณะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองในครั้งนี้จึงไม่เพียงเป็นการฟื้นฟูสถาปัตยกรรมและความงดงาม แต่ยังเป็นการ สืบสานศรัทธาและเอกลักษณ์วัฒนธรรมของชาวกำแพงเพชร ให้คงอยู่คู่เมืองตลอดไป พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกคนได้ร่วมบุญและเป็นส่วนหนึ่งในการรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่านี้ // พิพัฒน์ จงมีความสุข เรียบเรียง /สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร ผู้สื่อข่าว KPPNEWS รายงาน