เทศบาลเมืองกำแพงเพชร ศึกษาดูงานสิ่งแวดล้อม–พัฒนาชุมชนต้นแบบ เพชรบุรี

วันที่ 19 สิงหาคม 2568 นายวุฒิชัย ศุภอรรถพานิช นายกเทศมนตรีเมืองกำแพงเพชร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล และคณะกรรมการชุมชน ได้เดินทางไปศึกษาดูงานที่ อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งถือเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมที่สำคัญของประเทศ

การศึกษาดูงานครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้าใจเชิงลึกและนำไปปรับใช้ในพื้นที่ โดยเฉพาะการน้อมนำ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้ในการดำเนินชีวิตจริง เพื่อให้ประชาชนในชุมชนเกิดการพึ่งพาตนเอง มีความเป็นอยู่ที่พอเพียงและยั่งยืน อีกทั้งยังได้ศึกษาระบบ การจัดการน้ำเสียอย่างเป็นระบบ ที่อุทยานฯ นำมาประยุกต์ใช้ ซึ่งสามารถใช้เป็นต้นแบบให้เทศบาลเมืองกำแพงเพชร นำไปพัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียในชุมชนได้อย่างเหมาะสม

นอกจากนี้ คณะศึกษาดูงานยังได้เรียนรู้การใช้ พลังงานแสงอาทิตย์ ในการผลิตไฟฟ้าเพื่อลดการพึ่งพาพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล ถือเป็นพลังงานทดแทนที่สะอาดและยั่งยืน รวมถึงการเรียนรู้ แนวทางการจัดการขยะมูลฝอยแบบครบวงจร ตั้งแต่การคัดแยก การรีไซเคิล การนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ ตลอดจนการกำจัดอย่างถูกวิธี ซึ่งสามารถลดปัญหาสิ่งแวดล้อมและสร้างรายได้เสริมให้แก่ชุมชน

สิ่งสำคัญอีกประการคือ การน้อมนำ พระราชดำรัสของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ มาประยุกต์ใช้ เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีให้กับชุมชนในการเคารพรักและเทิดทูนสถาบันหลักของชาติ ทั้ง ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

ภายหลังจากนั้น คณะฯ ได้เดินทางต่อไปยัง เทศบาลเมืองชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เพื่อศึกษาดูงานด้านการบริหารจัดการชุมชน โดยมี นางรัมภา จำลองราช ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม เป็นวิทยากรบรรยาย ถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ตรง เกี่ยวกับบทบาทของคณะกรรมการชุมชนในการมีส่วนร่วมพัฒนาท้องถิ่น การส่งเสริมอาชีพและสร้างรายได้ในชุมชน การจัดระบบสวัสดิการเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต รวมถึงการจัดการองค์ความรู้ของชุมชนอย่างเป็นระบบ เพื่อก้าวสู่การเป็น ชุมชนต้นแบบที่เข้มแข็งและยั่งยืน

การศึกษาดูงานครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาชุมชนเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างเทศบาลเมืองกำแพงเพชรและเทศบาลเมืองชะอำ เพื่อนำแนวทางที่ได้เรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาท้องถิ่นของตนเองให้ก้าวหน้าและยั่งยืนต่อไป.