ข่าวรอบชากังราวข่าวอาชญากรรมข่าวเด่นคนเด่น ภูธรดัง

มุทิตาสักการะ พระครูวชิรปัญญากร (อำนวย) ปัญญาวโร เจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร

วันที่ 28 มิถุนายน 2568 เวลา 15.30 น. ณ ศาลาวชิรปัญญากรสามัคคีธรรม วัดบ่อสามแสน ตำบลหนองปลิง อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร ได้มีพิธีต้อนรับและแสดงมุทิตาสักการะแด่ พระครูวชิรปัญญากร (อำนวย) ปัญญาวโร เจ้าอาวาสวัดบ่อสามแสน ในโอกาสที่ได้รับพระบัญชาจาก สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร อย่างเป็นทางการ

พิธีครั้งนี้จัดขึ้นอย่างสมเกียรติ โดยมี นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน และพุทธศาสนิกชนจากจังหวัดกำแพงเพชรและพื้นที่ใกล้เคียงเข้าร่วมอย่างคับคั่ง เพื่อร่วมแสดงมุทิตาจิตแด่พระเถระผู้ได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่ปกครองคณะสงฆ์ในจังหวัด

การแต่งตั้งครั้งนี้เป็นไปตามพระบัญชาที่ 9/2568 ซึ่งอาศัยอำนาจตามกฎมหาเถรสมาคมและพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ โดยให้ พระครูจิรปัญญาภรณ์ (อำนวย) ซึ่งดำรงตำแหน่ง รองเจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร ขึ้นดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน 2568

พระพรหมวัชรสุทธิ์ให้โอวาท “ตำแหน่งคือโอกาส ไม่ใช่เครื่องอวด” ในพิธีมุทิตาจิตเจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชรรูปใหม่

พระพรหมวัชรสุทธิ์ได้เน้นย้ำว่า ตำแหน่งหน้าที่มาพร้อมกับอำนาจและภาระที่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง โดยกล่าวว่า “ตำแหน่งนั้นไม่ได้มีไว้เพื่อโอ้อวด แต่มีไว้เพื่อทำงาน หากทำงานให้เป็นตำนาน ตำแหน่งนั้นก็จะมีคุณค่าที่ยั่งยืน”

พร้อมกันนี้ ยังให้ข้อคิดว่า “ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน ค่าของงานอยู่ที่การทำความดี และค่าของความดีอยู่ที่การมีศีลธรรม” พร้อมเปรียบเปรยว่า ผู้ดำรงตำแหน่งควร “อยู่สูงให้นอนคว่ำ อยู่ต่ำให้นอนหงาย” หมายถึงการรู้จักถ่อมตนและเข้าใจบทบาทของตนเอง

พระพรหมวัชรสุทธิ์ยังกล่าวถึงความเสียสละของผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง โดยเปรียบเทียบว่า “เจ้าคณะอำเภออาจต้องอดทนแค่ 50 แต่เจ้าคณะจังหวัดต้องอดทน 100” พร้อมแสดงความชื่นชมในความมานะอดทนของพระครูวชิรปัญญากรที่ได้รับตำแหน่งใหม่นี้ว่า “ท่านได้สร้างงานและความดีมาโดยตลอด และต่อจากนี้ก็จะมีภารกิจที่มากขึ้น แต่การทำงานเพื่อศาสนาเช่นนี้ เป็นงานที่มีเกียรติ มีค่า สมตำแหน่ง สมหน้าที่”

พระพรหมวัชรสุทธิ์กล่าวถึง หลักการปกครองที่ดี ไม่ว่าจะในคณะสงฆ์หรือบ้านเมือง ว่าต้องตั้งอยู่บน 3 วัตถุประสงค์หลัก ได้แก่ เพื่อความสงบเรียบร้อย เพื่อความเจริญงอกงาม เพื่อความปรองดองสามัคคี หากการปกครองใดเป็นไปตามหลักการทั้งสามนี้ จะนำมาซึ่งความมั่นคงและไร้ปัญหา

ท่านยังเน้นย้ำถึงการทำงานร่วมกันในหมู่สงฆ์ว่า “งานคืออาหารของสมอง งานคือเครื่องวัดค่าของคน” พร้อมกล่าวให้กำลังใจแก่คณะสงฆ์จังหวัดกำแพงเพชรว่า หากทุกรูปทุกคนมีใจรักงาน มีความสามัคคี การทำงานก็จะเต็มไปด้วยความสุขและสนุกในการรับใช้พระศาสนา

ในช่วงท้าย พระพรหมวัชรสุทธิ์ ในนามคณะสงฆ์ภาค 4 ได้แสดงมุทิตาจิตและอนุโมทนาแด่เจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชรรูปใหม่ พร้อมขอบคุณเจ้าคณะสังฆาธิการ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ตลอดจนศรัทธาสาธุชนและญาติโยมที่ร่วมให้เกียรติในงานต้อนรับพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชในครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียง

ในพิธี พระพรหมวัชรสุทธิ์ เจ้าคณะภาค 4 เจ้าอาวาสวัดคูยาง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ กล่าวสัมโมทนียกถาให้ข้อคิดแก่ผู้เข้าร่วมงานว่า

“ตำแหน่งนั้นอยู่ไม่นาน แต่หากทำให้เป็นตำนาน จะคงอยู่ให้อนุชนได้เรียนรู้… ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน งานคืออาหารของสมอง”

ทั้งนี้ พระครูวชิรปัญญากร (อำนวย) ถือเป็น เจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชรรูปที่ 9 โดยได้รับความคาดหวังจะสามารถนำพาการพัฒนาด้านพระพุทธศาสนาให้ก้าวหน้ามั่นคง พร้อมสร้างความปรองดอง สามัคคี และความเจริญรุ่งเรืองแก่คณะสงฆ์และสังคมในจังหวัดกำแพงเพชรต่อไป

“การปกครองใดหากมีความสงบเรียบร้อย ความเจริญงอกงาม และความสามัคคี ย่อมนำพาสู่ความสำเร็จ” — พระพรหมวัชรสุทธิ์

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า