ไฟป่าลุกโชน ไหม้เขาลับงา นาบ่อคำ ผู้ว่าฯกำชับมาตรการวบคุมการเผาอย่างเด็ดขาด
วันเสาร์ที่ 25 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งมีไฟป่ากำลังลุกไหม้ อยู่บนยอดเขาและลุกลามไหม้ใบไม้ต้นหญ้าส่งเสียงดังลามมาจนถึงตีนเขา กลุ่มควันลุกโชนแดงจ้า โดยเหตุเกิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงก่อน 22:00 น.ที่เขาลับงา ตำบลนาบ่อคำ อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ห่างจากตัวเมืองกำแพงเพชรประมาณ 13 กิโลเมตร
จากสภาพดังกล่าวคาดว่าไฟป่าจะไหม้เป็นทางยาวช่วงถนนตัดผ่านระหว่างตำท่าขุนรามกับ ตำนาบ่อคำและวอดไปในที่สุด ส่วนความเสียหายเบื้องต้นไม่สามารถรุบะได้ว่ากินพื้นที่ป่าไปเท่าไหร่ นอกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้ามาตรวจสอบว่าสาเหตุของการเกิดไฟในครั้งนี้ จากฝีมือมนุษย์หรือเกิดจากธรรมชาติ
นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เปิดเผยว่า ตามที่กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติแจ้งว่า รัฐบาลมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ที่ปัจจุบันมีค่าเกินมาตรฐาน โดยเฉพาะภาคเหนือ และได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเร่งแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังโดยเร่งด่วน โดยให้ถือปฏิบัติตามข้อสังการโดยเคร่งครัด และยกระดับมาตรการควบคุมการเผา ซึ่งจังหวัดกำแพงเพชรพิจารณาแล้ว เพื่อให้การป้องกันและลดผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเป็นไปตามข้อห่วงใยของรัฐบาล จึงให้ดำเนินการตามแนวทางของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ดังนี้
- ให้ยกระดับการดำเนินการมาตรการควบคุมการเผาในพื้นที่อย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะในพื้นที่ทางการเกษตร โดยให้อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมกับหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้มงวด กวดขัน และบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อควบคุมการเผาเพื่อลดผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จากแหล่งกำเนิดต่าง ๆ อาทิ การเผาในที่โล่ง การลักลอบเผาป้า ฯลฯ และกรณีพบการเผาในพื้นที่ให้ดำเนินการยับยั้งการเผาในทันทีและบังคับมาตรการทางกฎหมายในการห้ามเผาอย่างเด็ดขาด
- ให้ยกระดับมาตรการการลดผลกระทบต่อประชาชน โดยให้หน่วยงานด้านสาธารณสุของค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ออกหน่วยให้บริการประชาชนและสร้างการรับรู้ ให้ทราบคำแนะนำข้อปฏิบัติที่ถูกต้องในการป้องกันกันตนเอง โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเสี่ยง ทั้งผู้สูงอายุ ผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ เด็กและเยาวชนในสถานศึกษาหรือศูนย์เด็กเล็ก ผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง ตลอดจนให้จัดหาอุปกรณ์ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จัดเตรียมพื้นที่ปลอดภัย (Safety Zone) ห้องปลอดฝุ่น
คลินิกมลพิษ ฯลฯ ไว้บริการประชาชนอย่างเพียงพอและเหมาะสม สำหรับอำเภอให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ทราบและดำเนินการต่อไป
