ข่าวรอบชากังราวข่าวเด่นข่าวเศรษฐกิจคนเด่น ภูธรดังทำมาหากิน

มหากาพย์กองข้าวเน่าเสีย เข้าปีที่ 10 ยังไร้การเหลียวแลขนย้ายจากภาครัฐ โรงสีวอน ปปช.ช่วยตรวจสอบหาคนรับผิด

เจ้าของโรงสีใหญ่ภาคเหนือโวย….!! หน่วยงานรัฐ หรือ ปปช. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้ตรวจสอบความเสียหายกรณี อคส.ปธิเสธทิ้งกองข้าวเน่าเสียเข้าสู่ปีที่ 10 ไร้การเหลียวแลจากภาครัฐ

วันที่ 5 มกราคม 2568  มหากาพย์ข้าว ยังไม่จบ.ข้าวเน่าข้ามปี จากกรณีไฟไหม้คลังสินค้าให้เช่า A1 บริษัท สิงห์โตทองไร้ซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เมื่อ 2558 ต่อมาเมื่อปี 2563  (อคส.) ประมูลขายทั้งโกดัง รวมทั้งข้าวที่เสียหายระหว่างดับเพลิง ซึ่งถูกกองทิ้งไว้อย่างก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 แล้ว ยังเบิกประกันภัยไป 10 กว่าล้านบาท ปัจจุบันส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสต๊อกข้าวกองนี้ ปี 2 ละครั้ง  บริษัทฯทำหนังสือจี้ทวงถามหลายครั้งก็เพิกเฉย ล่าสุดทราบว่า (อคส.) ทำพิลึก ยกเลิกสัญญากับเอกชนผู้ประมูล ไม่ทราบว่าทำได้หรือไม่ และซากกองข้าวเหล่านี้ จะไปต่อยังไง จึงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง ปปช.ที่ทางบริษัทได้ยื่นเรื่องไป 2 ครั้ง ได้เร่งเข้ามาตรวจสอบ นอกจากนี้ บริษัทได้ยื่นหนังสือ ถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกรณีได้รับความเสียหายจากการกระทำขององค์การคลังสินค้า (อคส.) แต่ก็ยังเงียบเฉย

นายมนต์ชัย รุ่งชาญชัย ปธ.บ.สิงห์โตทอง โชว์เอกสารเบิกประกันภัยไป 10 กว่าล้านบาท

นายมนต์ชัย รุ่งชาญชัย ประธานกรรมการบริษัทสิงห์โตทองไรซ์คอร์ปอเรชั่นจำกัด เปิดเผยได้รับความเสียหายจากการรับฝากข้าวที่ ทำสัญญาเช่าคลังสินค้าไว้เมื่อปี 2557  มีปัญหายืดเยื้อเข้าสู่ปีที่ 10  อันอาจจะเกิดจากการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่หน่วยงานของภาครัฐบางคนที่มีอำนาจในขณะนั้น พร้อมได้พาดูกองข้าว คลังสินค้าให้เช่า A1  ที่บรรจุอยู่ในกระสอบป่านและถุงจัมโบ้ กองเรียงรายอยู่ด้านหน้าโกดังความยาวกว่ากว่า 200 เมตร สภาพข้าวกองข้าวเน่าเสียเสื่อมสภาพเห็นได้ชัดเชน มูลค่าความเสียหายประมาณ 50 ล้านบาท แม้ว่าทางบริษัทฯมีหนังสือถึง หลายฉบับเพื่อให้มาดำเนินการขนย้ายข้าวที่เน่าเสียหายออกจากพื้นที่บริษัทก็ยังเพิกเฉย

เรื่องราวเกิดนี้ขึ้น เมื่อปี 2557 (อคส.) เช่าคลังสินค้า เดือนพฤษภาคมปี 2558 มีเหตุไฟไหม้ในคลังหลัง A1 สร้างความเสียหายให้กับข้าวสารจำนวนหนึ่ง และทางเจ้าหน้าที่ อคส. พร้อมทั้งบริษัทประกันภัย ได้ร่วมกันตรวจสอบและขนย้ายข้าวออกมากองไว้ด้านนอกคลังประมาน 6,000 ตัน ข้าวสารจำนวนที่เสียหายนั้น (อคส.)ได้เบิกค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยไปแล้ว 10 กว่าล้านบาทเศษ ตามหนังสือที่ประกันภัยได้ทำหนังสือแจ้งมายัง(อคส.)

ต่อมา ปี 2563 (อคส.)ประมูลขายทั้งโกดังรวมทั้งซากกองข้าวหน้าโกดังที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้  ให้เอกชนรายหนึ่ง ระบุเป็นข้าวชนิดเข้าสู่อุตสาหกรรม ที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์  (หรือเพื่อนำไปใช้เป็นพลังงาน ,ปุ๋ย) ผู้ประมูลขนย้ายข้าวในคลังหมดแล้ว ก็ได้ขนข้าวดีบางส่วนที่กองอยู่ด้านหน้าคลัง ที่ไม่ถูกไหม้แต่ได้รับผลกระทบจากน้ำดับเพลิงบางส่วน ยังเหลืออีกประมาณ 2,000 ตัน (ตามบัญชี เช็คสต๊อกประจำปีขององค์การคลังสินค้า) ตามภาพที่ปรากฎอยู่ขณะนี้

นายมนต์ชัย รุ่งชาญชัย เปิดเผยต่อว่า อ้างแปลกใจมากหลังทราบข่าวว่า (อคส.) ตอนนี้ได้อนุมัติยกเลิกการซื้อขายให้กับบริษัทผู้ชนะการประมูลไปแล้ว ตนเองมองดูว่าเป็นเรื่องที่ทำได้หรือไม่  จึงออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง มาตรวจสอบการทำงานของ (อคส.) เพราะว่าการทำสัญญาซื้อขายข้าวสารแล้วไม่สามารถที่จะยกเลิกให้กับภาคเอกชนได้ เพราะเมื่อทำสัญญาซื้อขายแล้วก็ต้องขนสินค้าออกไปให้หมด ยิ่งเป็นกรณีที่ซื้อขายในรูปแบบของอุตสาหกรรมพลังงานด้วยแล้ว ไม่มีทางใดที่จะยกเลิกได้เลย เพราะการประมูลซื้อเป็นชนิดใช้ทำพลังงาน จะถูกว่าทุกชนิด ที่รัฐได้นำมาประมูลขายออก คือชนิดที่ประมูลเป็นอุตสาหกรรมพลังงาน(ห้ามนำไปให้คนและสัตว์บริโภค) จะเอาไปใช้ผลิตเป็นปุ๋ย ผลิตเป็น เอทานอล หรือนำไปเผาเป็นพลังงานผลิตกระแสไฟฟ้าฉะนั้นจะไม่มีเหตุผลใดที่ยกเลิกให้กับผู้ประมูลได้ทุกกรณี  ขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบ กรณีการยกเลิกสัญญาซื้อขายข้าวให้กับภาคเอกชนในครั้งนี้ ด้วยว่าผู้บริหารท่านใดเป็นผู้ลงนามในขณะนั้น ขอให้ไปตรวจสอบ  ส่วนประเด็นที่สอง ที่เกิดความเสียหายในช่วงเวลานั้นกับผู้บริหารคนเดียวกัน ขณะนั้นบริษัทได้ทำหนังสือแจ้งขอให้ขนย้ายข้าวออกจากนอกคลังสินค้า ซึ่งกีดขวาง บริษัทขาดประโยชน์ในการใช้พื้นที่ และกองข้าวเน่ายังทำให้บริษัทเสียภาพลักษณ์ แต่ทำไมผู้บริหารคนดังกล่าวกลับทำหนังสือตอบกลับมาว่าไม่ใช่ข้าวขององค์การคลังสินค้า ข้าวอันนี้เป็นข้าวของบริษัท ที่บริษัทส่งคืนกรณีข้าวสารที่เหลือจากการบรรจุถุง คืนเข้าคลังแล้วเกิดเสื่อม กรณีรับคืนข้าวสารบรรจุถุงคืนเข้าคลังกลางนั้น จะมีบริษัทเซอร์เวย์เยอร์ และหัวหน้าคลัง ของ (อคส.)เป็นผู้ตรวจสอบคุณภาพและเป็นผู้รับผิดชอบคุณภาพข้าว จำนวนและปริมาณข้าวทั้งหมด ซึ่งคลังหลัง A1 นี้เป็นคลังสัญญาเช่า ผู้ให้เช่าไม่มีสิทธิ์ถือกุญแจประตูคลัง และไม่ต้องรับผิดชอบในส่วนของความเสียหายที่จะเกิดขึ้น หลังจากเซอร์เวย์เยอร์และหัวหน้าคลัง ได้รับมอบแล้ว บริษัทมีหนังสือถามไปอีกครั้ง ถ้าไม่ใช่ข้าวขององค์การคลังสินค้า ก็ขอให้  (อคส.)ตอบหนังสือยืนยันมาอีกครั้ง แต่คราวนี้ (อคส.) ตอบกลับมาใหม่ว่า ขอตรวจสอบอีกครั้ง จนปัจจุบันก็ยังไม่ได้คำตอบว่าจะมาขนย้ายเมื่อไหร่  แต่ในขณะระหว่าง 9 ปีเศษนั้น  (อคส.) จะมีการเช็คสต๊อกสินค้าคงเหลือประจำปี ปีละ 2 ครั้งในรอบเดือนเมษายน หนึ่งครั้ง และในรอบเดือนตุลาคม อีกหนึ่งครั้ง ถ้าไม่ใช่ข้าวของ (อคส.) แล้วทำไมจึงต้องมาตรวจสอบสต๊อกคงเหลือถึงปีละสองครั้งตามหนังสือการตรวจสอบสต๊อกคงเหลือ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ (อคส.) มาตรวจสอบสต๊อกคงเหลือตามบันทึกตรวจนับได้ประมาณ 20,000 กระสอบ มูลค่าความเสียหายก็ไม่ต่ำกว่า 30 กว่าล้านบาท อันนี้เป็นความเสียหายของภาครัฐ จึงขอวิงวอนให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ได้เข้ามาตรวจสอบความเสียหาย ซึ่งเป็นทรัพย์สินของรัฐและตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวด้วย

เอกสาร หลักฐาน ตรวจสต๊อกข้าวกองนี้ ปี 2 ละครั้ง ของ (อคส.)

กรณีทั้งหมดนี้ส่งผลต่อบริษัทขาดประโยชน์ในการใช้สอยพื้นที่ และยังเสียภาพลักษณ์ของบริษัทอึกด้วย เนื่องจากคู่ค้าจากต่างประเทศเดินทางมา เยี่ยมชมโรงงาน เห็นข้าวที่กองเน่าเสียหายอย่างนี้ ทำให้บริษัทเสียภาพลักษณ์อย่างยิ่งอันนี้เราได้ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายต่อศาลปกครองกลางไปแล้ว ปัจจุบันบริษัทสิงห์โตทอง ฯ ได้ยื่นฟ้ององค์การคลังสินค้าต่อศาลปกครองกลาง จำนวน 8 คดีด้วยกัน มูลค่าความเสียหายจำนวน 1,030 ล้านบาทเศษ

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายมนต์ชัย รุ่งชาญชัย ทำหนังสือร้องถึง ปปช.ประจำจังหวัดกำแพงเพชร ไปแล้วสองครั้ง เพื่อขอให้ลงพื้นที่มาตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุด้วย ได้มีหนังสือยื่นถึง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกรณีได้รับความเสียหายจากองค์การคลังสินค้า (อคส.) จนถึงขณะนี้เรื่องก็เงียบอยู่ 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า