ผู้ว่าฯทำบุญปีใหม่รับพร สัมโมทนียกถา พระพรหมวัชรวิสุทธิ์ เจ้าคณะภาค 4
ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร นำหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ/ภาคเอกชน ประชาชนชาวกำแพงเพชร ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ถวายแด่พระสงฆ์ 160 รูป เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ต้อนรับพุทธศักราช 2568
วันพุธที่ 1 มกราคม 2568 เวลา 07.30 น. นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานในงานประเพณีทำบุญตักบาตรวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2568 ณ บริเวณสวนสาธารณะสิริจิตอุทยาน โซนบี ลานน้ำพุ 12 ราศี (ริมปิง) ซึ่งเทศบาลเมืองกำแพงเพชรเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น โดยมี นางกาญจนี รุจนเสรี ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดกำแพงเพชร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกำแพงเพชร นางสาวสุพัตรา คล้ายทิม, นายอนุชา พัสถาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร และหัวหน้าส่วนราชการ เทศบาลเมืองกำแพงเพชร หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนประชาชนชาวกำแพงเพชรกว่า 2,000 คน นำข้าวสาร อาหารแห้ง และน้ำดื่มร่วมทำบุญตักบาตรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ต้อนรับปีพุทธศักราช 2568 อย่างเนืองแน่น
พระพรหมวัชรวิสุทธิ์ เจ้าคณะภาค 4 เจ้าอาวาสวัดคูยาง เป็นประธานสงฆ์ กล่าวสัมโมทนียกถา ให้ไว้เป็นข้อคิด เตือนสติข้าราชการ และประชาชนที่มาร่วมทำบุญ ให้เข้าใจคนจะได้บริวาร เข้าใจงานจะได้ผลสัมฤทธิ์ เข้าใจชีวิตจะได้ความสุข เข้าใจความทุกข์จะเข้าใจ ธรรมะ
ฉะนั้นเราหนีทุกข์ไม่ได้ต้องอยู่กับเขา ถ้าแม้ไม่มีเขาเราจะไม่มีบันไดไต่ไปสู่ความสุขแน่นอน เพศภัยอันตรายเราก็ไม่อยากจะพบไม่อยากจะมี แต่จะไม่มีได้ก็ต้องอาศัยธรรมะ คือ ความไม่ประมาท มีสติรู้ตัว ทั่วพร้อมอยู่ตลอดเวลา “สติมาปัญญาเกิด สติเตลิดก็จะเกิดปัญหา ” หายโรคภัยไข้เจ็บ ท่านบอกว่าลาภทั้งหลายไม่มีอะไรใหญ่ไปกว่า ความไม่มีโรค ใครที่มีโรคภัยไข้เจ็บน้อย ถือว่าเป็นบุญใหญ่เราจึงไม่อยากประสบพบกับโรคภัยไข้เจ็บ แต่พระพุทธศาสนาสอนว่าร่างกายของเรานั้นเป็นแหล่งรัง แห่งฉะนั้นเราหนีไม่ได้แน่นอน แต่เราจะปฏิบัติตัวมีพฤติกรรมประจำวันอย่างไรให้โรคภัยไม่เข้าใกล้หรือไม่อยากรบกวน ขึ้นอยู่ที่พฤติกรรมการรับประทาน การดำรงชีวิตของเรานั้นเป็นส่วนหนึ่งถ้าแม้ว่าทุกข์รสหมดภัย หายโรคก็จะเป็นโชคเป็นชัย เป็นพรปีใหม่ของสาธุชนทั้งหลายที่ร่วมทำบุญตักบาตร โบราณอาจารย์ท่านสอนไว้ว่า อดีตเป็นครู อยู่กับปัจจุบัน ทันอนาคต เราอยู่ในโลกนี้ต้องนึกถึงเมื่อวานด้วยคืออดีตเราต้องนำอดีตมาเป็นครู ไม่มีครูที่ไหนหรอกจะคอยสอนคอยสั่ง คอยดูแลเราเท่ากับตัวเราเอง ฉะนั้นเราต้องนำอดีตพฤติกรรมของชีวิตนั้นมาเป็นครู สิ่งใดพลาดก็อย่าไปทำ สิ่งใดใช่ก็จงทำต่อไป อยู่กับปัจจุบันสำคัญที่สุดเลย เราต้องรักตน รักคน รักงาน ปัจจุบันนี้เราต้องรักตนเองต้องรู้จักดูแลตนเอง อย่ารักคนอื่นจนลืมรักตัวเราเอง ถ้าเรามีรักสามรักนี้ชีวิตของเราก็จะดี เราต้องรักคนด้วยเพราะว่าเราอยู่กับคน รักตัวรักตนเพียงคนเดียวไม่ได้ เราต้องเผื่อแผ่มีน้ำใจกับคนทั้งหลายด้วย รักงานสำคัญที่สุดเลย ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน งานเป็นเครื่องวัดค่าของคน
ฉะนั้นคนที่มีงานมากจึงเป็นคนมีค่ามาก อย่าเบื่องานอย่าท้องาน อย่าหนีงาน เห็นงานและให้คันไม้คันมือ ถ้าเป็นอย่างนี้ ชีวิตปีใหม่หรือปีไหนไหน ก็ต้องดีแน่นอน อนาคตเราต้องวางแผนในวันข้างหน้าพอสมควร เพราะว่าโลกเราเปลี่ยนแปลงพัฒนาการไปเร็วมาก แม้ว่าเราย่ำอยู่กับที่ไม่มีวิสัยทัศน์ เราตกยุค ตกขบวนอยู่โลกนี้ได้ยาก ฉะนั้นเราต้องรู้เท่ารู้ทัน รู้กันรู้แก้ ในอนาคตเอาไว้ด้วย ที่จริงแล้วการแสวงหาความรู้ในปัจจุบันนั้นไม่อยาก เคยให้ข้อคิดฝากข้อคิดกับหลายหลายท่านเอาไว้ว่า เดี๋ยวนี้เรามีเพื่อน เรามีครูอยู่กับตัว คือ มือถือคือมหาวิทยาลัย เค้าเล่นที่มีทุกศาสตร์ประหยัด ไม่จำกัดการเวลา สถานที่ ฉะนั้นเราต้องใช้ปัจจัยที่ 5 ของท่านทั้งหลายให้เป็นประโยชน์แก่การดำเนินชีวิตของเรา ในปีและปีต่อๆ ไป
ท้ายที่สุดนี้ขอเอารัตนตรัย คือพระพุทธประสงค์บุญกุศลที่ทุกท่านสร้างอบรมมาในอดีตตั้งใจกระทำอยู่ขนาดนี้และมีปณิธานในอายุ รู้จักคิดดีทำดีพูดดีต่อไป ขอจงมารวมกันเป็นเดชะภารวปัจจัย ดลบันดาลให้ท่านทั้งหลาย พร้อมด้วยครอบครัวจงประสบพรอันประเสริฐเวลา 7 ประการ คือขอจงเจริญทรัพย์เจริญศรีเจริญยศเจริญเจริญเจริญและเจริญสุขกายสบายใจตลอดปีตลอดไปโดยทั่วกันทุกท่านเทอญ
และโอกาสวันสำคัญนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ก็ได้กล่าวคำอวยพรเป็นบทคำกลอนเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2567 มอบให้ประชาชนทุกคนที่มาร่วมงาน และที่ไม่ได้มา ปีที่ผ่านมาพวกเราผ่านประสบการณ์ ผ่านบทเรียนในชีวิต หลายอย่างขออวยพรให้สุขสันต์วันปีใหม่ ขออวยชัยให้สุขีสุขสรรค์สร้าง เริ่มต้นใหม่ด้วยสิ่งใหม่ที่ผ่านมา ฝึกให้บริสุทธิ์ประดุจดวงแก้วที่ใฝ่หา พบตลอดปีทุกเวลา อวยพรให้สมหวังอย่างตั้งใจสวัสดีปีใหม่