“ฮั้วเฮงหลีฟาร์ม”แปลงนาพันธ์ข้าว RJ 33 “ชวนคุย ชวนคิด พิชิตโจทย์ข้าวไทย”

“ฮั้วเฮงหลีฟาร์ม” แปลงนา พันธ์ข้าวRJ 33 เปิดเวที แลกเปลี่ยนเรียนรู้การพัฒนาสายพันธุ์ข้าว

สถานีวิจัยรวมใจพัฒนาความรู้ ร่วมกับ ชาวนาวันหยุดได้จัดกิจกรรมเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับแปลงทดลองพันธุ์ข้าว RJ33 พร้อมกับเปิดเวที “ชวนคุย ชวนคิด พิชิตโจทย์ข้าวไทย” ที่ฟาร์ม“ฮั้วเฮงหลีฟาร์ม”ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.กำเเพงเพชร

นายสุภชัย ปิติวุฒิ ประธานกลุ่มชาวนาวันหยุด ผู้บริหาร ศูนย์แลกเปลี่ยนเรียนรู้ณ “ฮั้วเฮงหลีฟาร์ม” แปลงปลูกทดสอบเสถียรภาพพันธ์ุข้าว เชิญพิเศษ นายวุฒิชัย แตงทอง หัวหน้าสถานีวิจัยรวมใจพัฒนาความรู้ นายประยูร แตงทรัพย์ ประธานกลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์สามัคคีพันธุ์ข้าว รางวัลกลุ่มดีเด่นระดับประเทศ ปี 2567

นายสามารถ อัดทอง นายกสมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ข้าวไทย และ นายพณิช สบายเมือง โรงสีสนั่นเมือง บริษัท กำแพงเพชรเอ็กซ์ปอร์ต จำกัด ผู้บริหารโครงการโตไปด้วยกันสนั่นเมือง ร่วมสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ พร้อมกับกลุ่มเกษตรกรชาวนาที่สนใจในแต่ละอำเภอเข้าร่วมกิจกรรมร่วม 200 คน

นายสุภชัย ประธานกลุ่มชาวนาวันหยุด กล่าวถึงวัตถุประสงค์กิจกรรม เพื่อเป็นการเปิดบ้านแปลงนาพันธ์ข้าวที่เราทำการลงเมล็ดพันธุ์ที่ผ่านการวิจัยคือ พันธ์ข้าว RJ 33 ร่วมกับมูนิธิรวมใจพัฒนาความรู้ ซึ่งเป็นผู้ปรับปรุงพันธุ์ข้าวสายพันธุ์รวมใจ อาร์เจ33 ที่มีคุณสมบัติทั่วไปสูง ทั้ง ทรงก่อตั้งแต่ก็ดีลำต้นแข็งไม่ล้มหักง่ายความสูงประมาณ 115 เซนติเมตรจำนวนรวมต่อกอ 21 รวมการติดเมล็ดร้อยละ 70 ถึง 90 ค่าการสลายตัวในด่าง 7.0 และมีปริมาณอมิโลสต่ำร้อยละ 15.60 พร้อมมีความแข็งแรงต้านทานโรค ส่วนลักษณะเด่นคือ อายุเก็บเกี่ยวสั้นสามารถปลูกได้ทั้งปี มีศักยภาพในการให้ผลผลิตสูง คุณภาพหุงต้มรับประทานอ่อนนุ่ม วันนี้ได้เป็นทางเลือกให้แก่กลุ่มเกษตรกรได้พิจารณาในการตัดสินใจว่า แปลงนาข้าวที่เราจะลงทุนปลูกพันธ์ข้าวชนิดใด แต่ขณะนี้ยังไม่มีเปิดให้จองหรือว่าจำหน่ายเพราะเราต้องเอาไปขยายพันธ์ต่อ ก่อนที่จะเป็นการวางจำหน่ายต่อไป

นอกจากเป็นในเรื่องของพันธ์ข้าวเกษตรแล้ว สิ่งสำคัญก็คือเรื่องของความรู้ในการจัดการแปลงมีปัจจัยสองตัวคือ ยีนส์หรือว่าพันธุ์ข้าว กับเรื่องสิ่งแวดล้อมการดูแลจัดการเราก็ต้องทำควบคู่กันคือ พยามที่จะไปหาทานข้าวได้สูงโรคแมลงได้ดีประกอบอาการเรื่องของการจัดการแปลงและแปลงนาทำยังไงให้หนึ่งลดปัญหานาล่ม การประหยัดน้ำในการทำนา ลดแรงงานทำงานให้ง่ายขึ้น เพื่อจะส่งผลต่อการลดต้นทุนในการผลิต และสิ่งที่ตามมาคือผลกำไรที่จะเกิดขึ้นในแต่ละปี

นายพณิช โรงสีสนั่นเมือง บริษัท กำแพงเพชรเอ็กซ์ปอร์ต จำกัด เผยโดยทั่วไปแล้วเกษตรกรชาวนาไทยนั้นมักจะปลูกข้าวตามกระแสหรือปลูกสืบทอดต่อกันมา ผลผลิตการเก็บเกี่ยวของแต่ละปีมีทั้งกำไรและขาดทุนคละเคล้ากันไป แม้แปลงนาอยู่ใกล้เคียงกัน แต่ไม่ค่อยได้พูดคุยกันเท่าไหร่ แต่วันนี้วิวัฒนาการ ทุกอย่างเปลี่ยนไปมาก หากได้มีการรวมตัว พูดคุยแลกเปลี่ยนและกำหนดทิศทางในการพัฒนาคุณภาพการผลิตข้าวแต่ละปีทั้งปุ๋ย ยา รวมถึงการบริหารจัดการแปลงนาที่เป็นไปตามความต้องการของตลาดโลกแล้ว เชื่อว่าเกษตรกรจะได้รับการยกระดับคุณภาพข้าวที่นำไปสู่ผู้บริโภคที่มีคุณค่าต่อไป