ข่าวท้องถิ่น กำแพงเพชรข่าวรอบชากังราวข่าวอาชญากรรมข่าวเด่นคนช่วยคน

เศร้า…พี่น้องสองสาว ตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถูกตุ๋นสูญเงินไปกว่า 7 ล้านบาท 

เหตุการณ์นี้ คนน้องโดนก่อน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างว่าเป็นเครือข่ายของโทรศัพท์ ค่ายดัง แจ้งให้ทราบว่ามีคนร้ายแอบไปเปิดเบอร์ทำธุรกรรมทางการเงินจะคดีถูกฟอกเงินและหลอกให้โอนเงินไปตรวจสอบเลยโดนไป 560,000 บาท

ถัดมาพี่สาวสงสารจึงเข้า app กู้เงิน 1 ล้านหวังจะมาช่วยน้อง และถูกหลอกล่อให้โอนเงินไปเพื่อปลดบัญชี จะทำให้กู้เงินได้ จึงหลงกลนำเงินทางธุรกิจการค้าและของแม่โอนไป 21 ครั้ง สูญเงินไปกว่า 7 ล้านบาท 

วันที่ 11 มิถุนายน 2561 ผู้สื่อข่าว และทีมงาน ส.ส. ไผ่ ลิกค์ กำแพงเพชรเขต 1 ได้รับการร้องเรียน ว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงินไปกว่า 7 ล้านบาท และได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท. สุวิทย์ พิศอ่อน สารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร พร้อมหลักฐานการแชทสนทนาผ่านทางไลน์และเบอร์โทรศัพท์พร้อมทั้งรูปภาพโปรไฟล์มีทั้งชายและหญิงที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์นำมาหลอกเหยื่อไว้เป็นหลักฐานแล้ว

โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 17.30 น. นางสาวกิ๊บ นามสมมุติอายุ 34 ปี ชาวตำบลนครชุม อำเภอเมืองกำแพงเพชร ได้รับโทรศัพท์จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดยอ้างว่าเป็นเครือข่ายของโทรศัพท์ค่ายดัง แจ้งว่ามีคนแอบอ้างเป็นตนนำบัตรประชาชนไปเปิดซิมโทรศัพท์ ซึ่งจะทำให้ตนได้รับความเสียหายถูกดำเนินคดีฟอกเงิน จะต้องไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เป็นหลักฐาน โดยระบุให้ไปแจ้งที่สถานีตำรวจภูธรขอนแก่น ซึ่งตนได้ตอบกลับไปทางโทรศัพท์ว่าไม่ได้อยู่จังหวัดขอนแก่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์แจ้งว่าสามารถโอนสายให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางขอนแก่นได้ ต่อจากนั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้โอนสายให้กับตำรวจที่อ้าง ซึ่งตำรวจที่อ้างก็บอกว่าสะดวกไหมที่จะแอด Line คุยกัน  ตนโดนข่มขู่และเกิดความกลัว เหตุการณ์มันกระชั้นชิดรวดเร็วจนไม่สามารถวิเคราะห์ตัดสินใจอะไรได้ จึงรีบตอบกลับไปว่าสะดวก

จากนั้นก็คุยกับทาง แอด Line  พูดคุยกัน โดย Video Call เห็นหน้าเห็นตากันด้วย เป็นการสร้างความเชื่อถือซึ่งตนก็หลงเชื่อ ระหว่างคุยก็ไม่ได้เห็นหน้ากันตลอดแต่ก็ไม่ได้วางสาย ยังคง Call กันต่อเนื่องจากนั้นก็ถูกขอหมายเลขบัตรประชาชน ซึ่งตนก็หลงเชื่อให้ไปโดยคนร้ายแจ้งว่าจะนำไปเช็คประวัติ

หลังจากนั้นคนร้ายก็แจ้งว่าน้องรู้ไหมว่าน้องมีประวัติ คดีการฟอกเงิน แล้วจากนั้นก็ส่งภาพใครก็ไม่รู้แจ้งมาว่าคนนี้เป็นคนร้ายน้องรู้จักไหม เขาฟอกเงินผ่านบัญชีธนาคารของน้อง ตนก็ตกใจคอลเซ็นเตอร์ก็ถามว่ามีกี่บัญชี กี่ธนาคาร ให้ส่งเงินมาตรวจสอบผ่าน ปปง.ถ้าหนูบริสุทธิ์จริงไม่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินก็จะโอนเงินคืนให้  ตนเกรงว่าจะถูกดำเนินคดี หลงเชื่อโอนให้คนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 5 ครั้ง รวมเงินจำนวนทั้งหมด 560,000 บาท หลังจากโอนเงินไปได้สักครู่ตนเองก็ถูกเด้งออกจาก LINE ทันทีจึงรู้ว่าถูกหลอกจึงแจ้งหมายเลข 1441 ทำการ ระงับ อายัดบัญชี พร้อมแจ้งตำรวจให้ติดตามดำเนินคดีกับคนร้ายแก๊งค์นี้

ส่วนพี่สาวของเหยื่อรายนี้ นางสาวเก๋ นามสมมุติ  อายุ 35  ปี ก็ตกเป็นเหยื่ออีกรายและถูกต้อง Call Center หลอกต้มตุ๋น หลอกเอาเงินที่ลูกค้าโอนมาสั่งสินค้าไปจำหน่าย สูญไปอีกกว่า 7 ล้านบาท ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 และวันที่ 3 ,มิถุนายน 2567 ติดต่อกัน นางสาวเก๋ พอรู้เรื่องน้องสาวก็หาทางช่วยเหลือด้วยการเข้าไปในแอพสินเชื่อออนไลน์กรุงศรีไอซิน เพื่อที่จะขอกู้วงเงิน 1 ล้านบาท ผ่านไป 2 วัน App ติดต่อผ่านช่องทาง Line กลับมาว่าวงเงินนี้อนุมัติผ่านแล้ว จะต้องผ่อนจำนวน 36 งวด งวดละ 30,000 บาท และแจ้งรายละเอียดเชิงบังคับข่มขู่ให้หวาดกลัวว่า หากมีการยกเลิกสัญญาการกู้จะผิดกฎหมาย และเสียดอกแสนกว่าบาท  หลังตนตอบตกลงก็เข้าไปกดเงินแต่ไม่สามารถเบิกเงินออกมาได้ แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกล่อว่าไม่เคยเจอปัญหาแบบนี้ และแจ้งเหยื่อว่ากรอกข้อมูลหมายเลขบัญชีผิด และขอปรึกษาผู้จัดการก่อน จากนั้นแจ้งกลับมาว่าต้องโอนเงินไปปลดล็อคหมายเลขบัญชี จำนวน 246,267 บาท และหลอกให้โอนเงินไปอีกหลายครั้ง โดยมีวิธีการ อ้างว่า ต้องขอรหัส otp บ้าง  เราทำรายการซ้ำหลายครั้งบ้าง  ซึ่งเป็นระบบ AI ทำให้ต้องเข้าไปปลดล็อคหลายชั้น ซึ่งตนก็ต้องการเงินของตนคืนด้วยทำให้ต้องโอนเงินไปครั้งละ 200,000 บาทถึง 1 ล้านบาท จำนวนทั้งสิ้น 21 ครั้งรวมเป็นเงินทั้งหมด 7,790 ,679 บาท ตนโอนไปจนเงินหมดในบัญชี จึงลองโทรไปปรึกษาที่ Call Center  1572 ของกรุงศรี จึงรู้ว่าตอนนั้นถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์เข้าแล้ว จึงได้แจ้งเลขที่บัญชีที่โอนเงินไปให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งหมด กับธนาคารเพื่อที่จะทำการอายัดบัญชีทั้งหมดไว้ ก่อนที่จะนำความเข้าแจ้งกับตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร

ในระหว่างที่กำลังสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้เสียหายอยู่นั้น ปรากฏว่าแก๊งคอลเซนเตอร์  ได้โทรศัพท์เข้ามา ทำเสียงใสๆ เหมือนเจ้าหน้าที่ธนาคาร พูดจาหว่านล้อม หลอกล่อขอเงิน 4 แสนบาท เป็นการตอบแทนที่จะช่วยเหลือเหยื่อให้ได้เงินกลับคืนมาบางส่วน ผู้เสียหายอ้างว่าตนไม่สามารถโอนเงินได้แล้วเพราะเงินในบัญชีถูกโอนไปจนหมดและเงินที่มีก็ไม่สามารถทำธุรกรรมได้เนื่องจากบัญชีถูกอายัดไว้ มีเพียงเงินสด แก๊งคอลเซนเตอร์  ได้นัดหมายให้ผู้เสียหายนำเงินสดไปมอบให้ย่านพระราม 3 กรุงเทพมหานคร โดยจะพยามช่วยผู้เสียหายให้ได้เงินคืนแน่นอน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้บันทึกหลักฐาน และกระจายงานไปยังหน่วยที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งติดตามหาตัวตนของกลุ่มมิจฉาชีพ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ทางออนไลน์  เส้นทางการเงิน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้สองพี่น้องพี่มีอาชีพขายสินค้าเบ็ดเตล็ด ได้รับผลกระทบจากความเดือดร้อน นอกจากเป็นเงินของแม่และของลูกค้าที่โอนมาสั่งซื้อสินค้าเบ็ดเตล็ดไปจำหน่ายแล้ว ยังจะต้องนำโฉนดที่ดินไปประกันสินค้าสร้างความเชื่อมั่นให้กับธุรกิจตน  จึงขอเตือนภัยครั้งนี้ให้เป็นอุทาหรณ์กับคนที่จะหลงไปเป็นเหยื่อกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้โปรดระมัดระวังและตั้งสติตัดสินใจให้ดีๆ ที่จะให้ความลับหมายเลขบัญชีหรือตอบตกลงใดๆกับธุรกิจธุรกรรมทางการเงินกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทางออนไลน์

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า