ข่าวรอบชากังราวข่าวอาชญากรรมข่าวเด่นข่าวเศรษฐกิจคนเด่น ภูธรดัง

“บอสหรั่ง”สิงห์โตทองเผย..ข้าวอายุ 10 ปี ดูแลดีนำมาปรับปรุงหุงกินได้ ส่วนข้าวทิ้งเน่าในโรงสี ยื่น รมต.จี้ อคส.รับผิดชอบ

“บอสหรั่ง” สิงห์โตทอง เจ้าของโรงสีดังกำแพงเพชร เผยข้าวอายุ 10 ปี ถ้าดูแลอย่างดี นำมาปรับปรุงหุงกินได้ ส่วนที่มีปัญหาคือ อคส. เพิกเฉยไม่มาดูแลข้าวทิ้ง 9 ปีให้เน่าเสียอยู่ในโรงสี  บริษัทยื่นหนังสือให้รัฐมนตรีภูมิธรรม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี กระทรวงพาณิชย์ ช่วยจี้ อคส. มารับผิดชอบ

วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ บริษัทสิงห์โตทองไรซ์คอปอเรชั่น จำกัด ตำบลธำรงค์  อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ของ นายมนต์ชัย​ รุ่งชาญชัย (“บอสหรั่ง” สิงห์โตทอง)  ที่รับซื้อขายข้าวเปลือกและแปรรูปข้าวส่งออกจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศ พร้อมทั้งยังมีโกดังให้เช่า 15  หลัง บริเวณที่หน้าโกดังคลังสินค้าหลัง A1 หรือที่เรียกกันว่าโกดังเก็บข้าว 

มีกองข้าวความยาว 300 เมตรความสูงของกองข้าวประมาณ 3 ถึง 5 เมตรและสภาพของกองข้าว ถูกวางทิ้งไม่เป็นระเบียบ  มีข้าวที่บรรจุอยู่ในกระสอบและ บรรจุอยู่ในบิ๊กไบค์ เมล็ดข้าวแตกออกจากกระสอบที่ผุพังและข้าวบางกองก็มีสภาพเน่าเสีย จากการถูกน้ำฝนที่สาดเข้ามา หรือมีนกมาถ่ายมูลทิ้งไว้ ทำให้ข้าวเน่าเสียและข้าวกองนี้ถูกทิ้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 รวมระยะเวลา 9 ปี  สภาพของข้าวกองนี้เป็นข้าวที่เสียหายหมดสภาพที่จะนำไปรับประทานได้เนื่องจากว่าไม่ได้ถูกจัดเก็บอย่างดีและไม่มีการดูแลคุณภาพข้าวได้ตาม มาตรฐาน ข้าวจึงอยู่ในสภาพที่นำไปแปรรูปเป็นอาหารสัตว์หรือแปรรูปเป็นพลังงานได้เท่านั้น

ส่วนกรณีที่กำลังถกเถียงกันว่าข้วอายุ 10 ปีรับทานได้หรือไม่นั้น…??? 

“บอสหรั่ง” สิงห์โตทอง เปิดเผยว่า..ความเห็นของตนที่ทำโรงสีมานานกว่า 30 ปีบอกว่า การที่จะนำข้าวที่มีอายุ 10 ปีมารับประทานได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการดูแลคุณภาพข้าวสาร หากเป็นข้าวที่ได้รับการดูแลจัดเก็บอย่างถูกต้องและดูแลเรื่องของคุณภาพข้าวที่ได้รับตามมาตรฐาน  เช่นอยู่ในโกดังที่มิดชิด มีอากาศถ่ายเทอ บรมยา ดูแลคุณภาพข้าว อย่างต่อเนื่อง ข้าวก็สามารถนำมาปรับปรุงใหม่ นำมารับประทานได้ แต่หากดูแลไม่ดี สภาพข้าวก็จะมีทั้งกลิ่นทั้งสี ที่ไม่น่ารับประทาน ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการดูแลรักษาคุณภาพข้าวของแต่ละพื้นที่แต่ละแห่งนั่นเอง

กองข้าวที่อยู่ในโรงสีเน่าเสียมีความเป็นมาอย่างไร…???

สำหรับกองข้าวที่ทิ้ง ไม่ได้รับการเหลียวแล อยู่ที่หน้าโกดังเก็บสินค้าของโรงสีสิงห์โตทองไร้คอร์ปอเรชั่นจำกัด จังหวัดกำแพงเพชรแห่งนี้ นายมนชัยเปิดเผยว่า เมื่อปี พ.ศ. 2554 โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลในยุค รัฐบาลของ สน.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (อคส.) หรือองค์การคลังสินค้า ได้นำข้าวมาฝากเช่าที่โกดังแห่งนี้และเมื่อปี พ.ศ. 2558 เกิดเหตุไฟไหม้กลางกองข้าวในโกดัง หลังจากระงับไฟได้แล้วข้าวบางส่วน อคส. และเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัย ได้มาตรวจสอบและคัดแยกข้าวเคลื่อนย้ายออกมาไว้ที่หน้าโกดัง ในกรณีนี้ทาง อคส. ได้รับค่าสินไหมจากบริษัทประกันภัยไปกว่า 10 ล้านบาท

ต่อมา อคส.ได้เปิดประมูลข้าวในโกดังเมื่อปี พ.ศ.2562 และผู้ชนะประมูลได้มาเคลื่อนย้ายเข้าภายในโกดังและที่หน้าโกดังเป็นข้าวดีบางส่วนออกไป ยังคงเหลือข้าวอีกกว่า 3,000 ตัน ถูกกองทิ้งไว้ ทางบริษัทได้ส่งหนังสือแจ้ง อคส.หลายครั้ง แต่กลับปฏิเสธเข้ากองนี้  แต่ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสต๊อก คงเหลือประจำปี ปีละสองครั้ง ทางผู้ประกอบการโรงสีได้ร้องขอให้ทาง อคส. มาขนข้าวออกจากพื้นที่เนื่องจากไม่สามารถใช้ประโยชน์ในการประกอบการได้แต่หากได้รับการเพิกเฉย ทางบริษัทจึงอยู่ในระหว่างฟ้องร้องต่อศาลเรียกค่าเสียหายต่อศาลปกครองกลาง ขณะเดียว นายมนต์ชัย ได้มีหนังสือยื่นหนังสือ ถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกรณีได้รับความเสียหายจากการกระทำขององค์การคลังสินค้า (อคส.)

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า