เอกชนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก กองข้าวเน่าเสีย 2,000 ตัน ร้องสื่อช่วยตรวจสอบ วอนหน่วยงานรัฐเช่าคลังมาขนออกไปเสียที
วันที่ 22 สิงหาคม 2566 เอกชนกำแพงเพชรให้เช่าคลัง แฉ!! หน่วยงานรัฐ ที่เช่าคลังเปิดประมูลข้าวให้เอกชนมาขน แต่ลำเลียงเแพาะข้าวดี ทิ้งข้าวที่เสียจากเหตุเพลิงไหม้ ค้างในพื้นที่ 20,000 กระสอบ หรือ 2,000 ตัน นาน 8 ปี จะทำลายทิ้งก็ไม่ได้ เพราะมีเจ้าหน้าที่มาเช็คสต๊อกข้าวคงเหลือไว้เป็นหลักฐาน ประจำปี ปีละ 2 ครั้ง คืองวดมีนาคม และงวดกันยายน ร้องสื่อช่วยตรวจสอบ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นดำเนินธุรกิจของบริษัท เป็นข้าวในโครงการรับจำนำข้าวสมัยรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” กลืนไม่เข้าคายไม่ออก หลังหน่วยงานรัฐปัดความรับผิดชอบ พยายามประสานชี้แจงด้วยเอกสารต่างๆแล้ว แต่ทางหน่วยงานรัฐ ก็ยังเพิกเฉยบ่ายเบี่ยงมาตลอด รู้สึกไร้ที่พึ่ง จึงได้ออกมาร้องกับสื่อ แฉถึงพฤติกรรมที่ไม่รับผิดชอบต่อทรัพย์สินของรัฐ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาครัฐและทางบริษัทได้รับความเสียหายต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือต่อการประกอบธุรกิจ
ผู้ประกอบการรายนี้ คือ นายมนต์ชัย รุ่งชาญชัย ประธานบริษัทสิงห์โตทองไรซ์ คอร์ปอเรชั่นจำกัด เลขที่ 99/1 หมู่ 2 ต.ธำมรงค์ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ไร้หนทางออกแล้ว จึงมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนเรียกร้องขอความเป็นธรรม สืบเนื่องมาจากที่องค์การคลังสินค้าหรือ อคส. มาเช่าคลังของบริษัทสิงห์โตทองฯ เมื่อปี 2557 ข้าวกองนี้ปกติแล้วจะอยู่ในคลังสินค้าหลังที่ A1 แต่เมื่อปี 2558 ประมาณเดือนพฤษภาคม ได้เกิดไฟไหม้ขึ้นในในคลังสินค้าทางองค์การคลังสินค้าได้มาขนย้ายข้าวออกจากคลัง กรณีที่เสียหายจากการดับเพลิงหรือไฟไหม้ก็ได้ขนย้ายมาไว้บริเวณหน้าคลังสินค้าแห่งนี้อยู่ประมาณ 4,000 ตันหรือ 4 หมื่นกระสอบ ณ เวลานั้น
ต่อมาทางบริษัทได้ทำหนังสือถึงองค์การคลังสินค้าหลายฉบับด้วยกัน ให้มาขนย้ายข้าวสารหน้าคลังสินค้าแห่งนี้เข้าไปเก็บภายในคลังสินค้าที่เกิดไฟไหม้เดิม ซึ่งมีการเคลียร์พื้นที่แล้ว แต่ องค์การคลังสินค้าได้บ่ายเบี่ยงตลอดเวลาและไม่เคยมาสนใจใยดีกับข้าวสารที่เป็นทรัพย์สินของภาครัฐ ซึ่งคิดเป็นมูลค่าแล้วไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท ณ เวลานั้น
ต่อมาเมื่อปี 2563 องค์การคลังสินค้าได้ประกาศขายเปิดประมูลเป็นข้าวพลังงาน ซึ่งเอกชนผู้ชนะการประมูลได้มาขนย้ายข้าว จำนวนนี้ออกจากคลังสินค้าเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2563 แต่ขนย้ายออกไปไม่หมด ขนย้ายออกไปบางส่วนคือในคลังหลัง A1 ขนย้ายออกไปทั้งหมด และ ณ เวลานั้นบริเวณหน้าคลังมีกองข้าวอยู่ประมาณ 4,000 ตันหรือ 40,000 กระสอบ ผู้ชนะการประมูลได้มาขนย้ายออกไปเพียงครึ่งเดียวประมาณ 20,000 กระสอบหรือ 2,000 ตัน
ขณะนี้ยังมีข้าวเน่ากองอยู่อีก 2,000 ตันหรือ 20,000 กระสอบ ซึ่งทางบริษัทได้ติดต่อประสานงานไปยังองค์การสินค้าอยู่ตลอดเวลา แจ้งว่าข้าวเน่าที่อยู่หน้าคลังสินค้าของบริษัท ฯ แห่งนี้ทำให้เสียภาพลักษณ์บริษัทฯ เป็นอย่างมาก ซึ่งเกิดเน่าเหม็นและมีลูกค้าที่มาเยี่ยมเยียน มาติดต่อซื้อขายกับบริษัทได้เดินเข้ามาเห็นกองข้าวทำให้บริษัทเสียภาพลักษณ์ในการค้าขายอย่างมาก
ในวันนี้ทางบริษัทขอวิงวอนเรียกร้องกับองค์การคลังสินค้าว่า ให้มาดำเนินการขนย้ายข้าวที่ อคส ได้ประมูลขายให้กับเอกชนผู้ชนะการประมูลไปแล้วแต่ผู้ชนะการประมูลไม่มาขนย้ายออกไป ประกอบกับข้าวสารบางส่วนในจำนวนนี้ องค์การสินค้าได้เบิกค่าสินไหมประกันภัย กรณีที่เกิดไฟไหม้ไปแล้วบางส่วน เป็นจำนวนเงินกว่า 10 ล้านบาท ก็ยังไม่รู้ว่าส่วนไหนเป็นซากของประกันภัย ส่วนไหนเป็นข้าวของ อคส. ที่ผู้ซื้อยังไม่มาขนย้ายออกไป
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหลักๆเลยก็คือทำให้ภาพพจน์ของบริษัทฯเสียหาย ปัจจุบัน องค์การคลังสินค้าก็ยังมาเช็คสต๊อก ในข้าวจำนวนนี้ปีละ 2 ครั้ง อคส.ก็รู้ดีว่าเป็นทรัพย์สินในความดูแลรับผิดชอบของ อคส. แต่ปรากฏว่า อคส. กลับเพิกเฉยไม่มาดูแลทั้งที่ข้าวสารจำนวนนี้เป็นทรัพย์สินของรัฐ ทำให้รัฐเสียหายกว่า 30 ล้านบาท ก็ขอวิงวอนให้สื่อมวลชนทุกท่านช่วยเป็นกระบอกเสียงเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องได้มาตรวจสอบองค์การคลังสินค้าที่เพิกเฉย ทิ้งทรัพย์สินของรัฐเกิดความเสียหายในครั้งนี้ด้วย ประธานบริษัทสิงห์โตทองไรซ์ คอร์ปอเรชั่นจำกัด กล่าวในที่สุด