ย้อนรอย แผ่นดินพระเจ้าลิไท ถึง นบพระ-เล่นเพลง 2566
ย้อนรอย …. สมัยแผ่นดินพระเจ้าลิไท หรือพระเจ้าทรงธรรม แห่งกรุงสุโขทัย เป็นสมัยที่ศาสนาพุทธเจริญรุ่งเรืองมาก มีการประกาศเผยแพร่พระพุทธศาสนาไปทั่วทุกแห่ง จากศิลาจารึกนครชุมที่พบในจังหวัดกำแพงเพชร ทำให้ทราบว่าได้ อัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ จากประเทศศรีลังกา มาบรรจุไว้ในองค์เจดีย์ที่วัดพระบรมธาตุเจดีย์ยาราม ตำบลนครชุม อำเภอเมืองกำแพงเพชร
พร้อมทั้งได้นำ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ มาปลูกไว้ที่ด้านหลังองค์เจดีย์ด้วย ซึ่งยังคงปรากฏให้เห็นตราบเท่าทุกวันนี้ และเป็นประเพณีของชาวไทยในสมัยโบราณ เมื่อถึง วันเพ็ญเดือน 3 หรือ วันมาฆบูชา เจ้าฟ้า เจ้าแผ่นดิน ก็จะนำผู้ครองนครเจ้าเมืองน้อยใหญ่ พร้อมทั้งเหล่าไพร่ฟ้าข้าราชบริพารและประชาชน จัดตกแต่งเป็นขบวนพยุหยาตราพากันไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดพระบรมธาตุนครชุม เป็นประจำเรียกสั้น ๆ ว่า พากันไป “นบพระ”
และเนื่องจากการเดินทางในสมัยก่อนเป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องเดินทางด้วยเท้า พาหนะก็มีแต่ช้าง ม้า วัว ควาย และเกวียนเท่านั้น กว่าจะเดินทางไปถึง และนมัสการพระบรมธาตุเสร็จเรียบร้อยก็มืดค่ำ จึงจำเป็นต้องนอนค้างพักแรมกันในบริเวณวัด ต่อจากนั้นรุ่งเช้าของอีกวันจึงจะกลับ และก็เป็นธรรมดาของชาวไทยทั่วไป ซึ่งมีอารมณ์ศิลปินประจำใจเมื่อมาอยู่ร่วมกันจำนวนมาก ๆ จึงจัดให้มีการแสดงละเล่นต่าง ๆ ประกวดประชันแข่งขันกันตามขนบธรรมเนียมประเพณีของแต่ละหมู่บ้านเรียกกันว่า “เล่นเพลง”
ปี พ.ศ.2526 จังหวัดกำแพงเพชรรื้อฟื้นจัดงานประเพณีขึ้นมาใหม่ชื่อว่า “งานประเพณีนบพระ-เล่นเพลง” เพื่อเป็นการอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้พบเห็น และถือเป็นแบบอย่างและปฏิบัติสืบต่อกันไปตราบนานเท่านาน เพื่อสืบสานอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมและประเพณี ถ่ายทอดไปสู่ชนรุ่นหลัง ส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดกำแพงเพชร
เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2566 จังหวัดกำแพงเพชร เปิดงานนบพระ – เล่นเพลง ส่งเสริมการท่องเที่ยว ผู้ว่าฯขึ้นช้างนำริ้วขบวนแห่ไปไหว้พระบรมธาตุที่มีอายุ 666 ปี ขณะที่พุทธศาสนิกชนสตรีกว่า 800 คน สวมชุดขาวรำถวายบูชาเนื่องในวันมาฆะบูชา
โดยจำลองเหตุการณ์ขบวนพยุหยาตราพญาลิไทย้อนยุค นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ได้ขึ้นช้างสมมุติตนเป็นพระมหาธรรมราชาที่ 1 หรือพญาลิไท และ องค์สมมุติพระมเสสี นางกาญจนี รุจนเสรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกำแพงเพชร นำขบวนช้าง ขบวนหลวง ขบวนพุทธบูชา ขบวนศิลปวัฒนธรรมและขบวนไพร่ฟ้า ซึ่งแต่ละอำเภอได้จัดส่งริ้วขบวนแต่งกายย้อนยุค นั่งช้าง 16 เชือก ร่วมเดินขบวน เป็นขบวนที่ยิ่งใหญ่ยาวนับกิโลเมตร ขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำปิงไปยังวัดพระบรมธาตุ ตำบลนครชุม อำเภอเมืองกำแพงเพชร
จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่มาแต่โบราณควบคู่กับเมืองสุโขทัย มีโบราณสถาน โบราณวัตถุ ที่เป็นมรดกอันล้ำค่าของชาวจังหวัดกำแพงเพชร และชาวไทย จนองค์การยูเนสโก ได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ได้รักษาวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมสืบทอดต่อเนื่องกันมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อเป็นการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมอันเก่าแก่และเป็นการอนุรักษ์ขนบธรรมเนียม ประเพณีอันดีงามของชาวจังหวัดกำแพงเพชร ไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้พบเห็นเป็นแบบอย่าง และถือปฏิบัติสืบต่อกันไป
การจัดประเพณีงานนบพระเล่นเพลง จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อสืบทอดประเพณีอันดีงาม ให้อนุชนรุ่นหลังได้ระลึกถึง คุณค่าของความเป็นเมืองพระพุทธศาสนาที่รุ่งเรือง และถือเป็นโอกาสให้พี่น้องชาวจังหวัดกำแพงเพชรและนักท่องเที่ยว ได้ร่วมทำพิธีนบพระบรมธาตุ รดน้ำนมสักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์ และร่วมเวียนเทียน ในวันเพ็ญเดือนมาฆะหรือวันมาฆะบูชา เป็นการสร้างบุญกุศลร่วมกัน และหล่อหลอมความสามัคคีของประชาชน ซึ่งเชื่อกันว่าใครที่ได้มานมัสการพระบรมธาตุ และพระศรีมหาโพธิ์จะเป็นผู้มีบุญ ดังข้อความในศิลาจารึกนครชุม หลักที่ ๓ ว่า “ผู้ใดไหว้นบกระทำบูชาพระศรีรัตนมหาธาตุ และพระศรีมหาโพธิ์ไซร้มีผลอานิสงส์พร่ำเสมอ ดังได้นบพระผู้เป็นเจ้า”
นอกจากนี้ เนื่องในโอกาสที่เจดีย์พระบรมธาตุมีอายุ 666 ปี พุทธศาสนิกชนชาวกำแพงเพชรที่เป็นสตรีกว่า 800 คนได้นุ่งขาวห่มขาวร่ายรำถวายเป็นพุทธบูชาเนื่องในวันมาฆบูชา และพระราชวชิรเมธี เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร ได้ร่วมกับประชาชนประกอบพิธีเดินเวียนเทียนรอบพระบรมธาตุ
ทั้งนี้ เนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชา จังหวัดกำแพงเพชร จึงเชิญชวนนักท่องเที่ยว ชมงานประเพณีนบพระ-เล่นเพลง ประจำปี พ.ศ .2566 ซึ่งจะมีงานถึงวันที่ 12 มีนาคม 2555 ณ บริเวณสนามหน้าเมืองหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองกำแพงเพชร และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร และแวะไหว้เจดีย์พระบรมธาตุเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตน สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดกำแพงเพชร ร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจัดกิจกรรมมัจฉากาชาด ขาดทุนคือกำไรของพี่น้องประชาชนคุ้มค่ากับเงินทุกบาททุกสตางค์