คณะกรรมาธิการสภาฯ ฟันธงโครงการปลูกป่าสัก 25 ปี ตัดไม้ได้..!! หาแนวทางช่วยเหลือ
ปลูกป่าต้นสักตามโครงการของรัฐ ปลูกป่า 25 ปี ตัดไม้ไม่ได้”
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565 ที่ห้องประชุมกรรมาธิการชั้น4 อาคารรัฐสภา นายอนันต์ ผลอำนวย ประธานคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร และคณะได้เชิญผู้แทนเกษตรกร นำโดย นายหนูเวียง นวลพุ่ม ผญบ. ม.2 นายกิตติพงษ์ เหล่าลูกอินทร์ ผญบ.ม.5 นายเพียร พรานสอน นายเรืองเดช ร่วมชัยภูมิ และ นายบุญทัน วันชุรี เกษตรกร ต.สักงาม อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมเกษตรปลูกป่าสักของรัฐบาลแต่ยังไม่สามารถตัดไม้ออกแปรรูปจำหน่ายได้ ซึ่งมี นายพรชัย น้อยสวรรค์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกำแพงเพชรเข้าร่วมหารือในครั้งนี้ด้วย
ประธานคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ทางคณะกรรมาธิการได้เรียนเชิญผู้แทนเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเข้าร่วมโครงการปลูกป่าตั้งแต่ปี 2538 รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมป่าไม้และสำนักงานปฏิรูปที่ดินมาร่วมชี้แจงและรับทราบข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นปัญหาที่รัฐบาลและคณะกรรมาธิการกิจการสภาได้รับการร้องขอความช่วยเหลือในการแก้ปัญหาที่มิใช่จังหวัดกำแพงเพชรแต่เพียงอย่างเดียว
แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นคล้ายกันในหลายจังหวัด และเมื่อคณะกรรมาธิการได้รับทราบข้อเท็จจริงแล้ว จะได้สรุปผลส่งกลับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางแก้ไขหรือหาทางออกร่วมกัน ซึ่งบางส่วนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมาย คณะกรรมาธิการรัฐสภาได้รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นมายาวนานกว่า 25 ปีจากตัวแทนเกษตรกร ว่าสาเหตุที่เกษตรกรไม่สามารถตัดต้นสักเพื่อจำหน่ายได้นั้น มาจากเอกสารสิทธิ์ที่ใช้ปลูกป่าซึ่งเป็นเรื่องติดขัดทางด้านกฎหมาย ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของเกษตรกรหรือชาวบ้านที่ปลูกป่าสักเพราะขณะนั้นทางราชการเป็นผู้ดำเนินการรวมทั้งออกเอกสารรับรองต่างๆพร้อมกับรณรงค์ให้ชาวบ้านปลูกป่าโดยให้เงินอุดหนุนจากรัฐบาลไร่ละ 3,000 บาทด้วย
นายหนูเวียง นวลพุ่ม ตัวแทนเกษตรกรกล่าวว่า ที่ผ่านมาเกษตรกรที่ปลูกป่าเสียโอกาสในการรับเงินช่วยเหลือจากทางรัฐบาลมาหลายปีเพราะพื้นที่ปลูกป่าอยู่จนไม่สามารถปลูกพืชชนิดอื่นได้ ดังนั้นจึงฝากความหวังชีวิตของชาวบ้านในอำเภอคลองลานไว้กับผู้ที่เกี่ยวข้องให้ช่วยดำเนินการให้ชาวบ้านสามารถตัดไม้ออกได้เพื่อที่จะใช้พื้นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจอย่างอื่นต่อไป
หลังจากในที่ประชุมได้หารือถึงเหตุผลกันอย่างกว้างขวางจึงสรุปได้ว่าให้หน่วยงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทำแผนและขั้นตอนดำเนินงานต่างๆต่อไปอย่างไร แล้วนำมาแจ้งให้ที่ประชุมคณะกรรมาธิการได้รับทราบภายใน 2 เดือนพร้อมทั้งให้รายงานความคืบหน้าเป็นระยะซึ่งกระบวนการทั้งหมดน่าจะเสร็จสิ้นพร้อมให้ชาวบ้านสามารถตัดไม้สักออกจำหน่ายได้ภายใน 5-8 เดือนนี้