5 หนุ่มมังกรจีน…เตลิดเข้าไทย อ้างถูกหลอกทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์กัมพูชา
5 หนุ่มมังกรจีนอ้าง…ถูกหลอกทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์กัมพูชา เห็นว่าผิดกฎหมาย พากันหลบหนีกลับประเทศบ้านเกิดซวยซ้ำถูกหลอกขายแรงงานเมียนมาร์ระหว่างทางถูกทิ้งที่ปั๊มน้ำมันในประเทศไทย
วันที่ 5 ตุลาคม 2565 เวลา 13:00 น.ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกำแพงเพชร ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจท่องเที่ยวกำแพงเพชร ดาบตำรวจเฉลิมพงษ์ ศรีศิล ผบ.หมู่.สทท.3 พร้อมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว สถานีตำรวจท่องเที่ยว 3 กก.3 บก.ทท.2 ออกปฏิบัติหน้าที่ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่เป็นภัยคุกคามต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ร่วมกันออกตรวจพื้นที่เขตรับผิดชอบสถานีขนส่งผู้โดยสารตำบลนครชุมอำเภอเมืองจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งมีกลุ่มหนุ่มชาวจีนนั่งบริเวณริมถนนข้างสถานีขนส่งผู้โดยสารมีพิรุธ เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปสอบถามและขอดูเอกสารหลักฐาน ปรากฏว่าทุกคนไม่มีหลักฐานแสดงต่อเจ้าหน้าที่จึงทำการควบคุมตัว ภายหลังทางว่าเป็นหนุ่มชาวจีน มณฑลซานซี อายุระหว่าง 18 ถึง 25 ปี
นายกิตติวรรธน์ ชูสุข อาชีพ ครู สอนภาษาจีน ร.ร.ทรัพย์สถิตย์ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษาสอบสวนในครั้งนี้ ได้ข้อมูลเบื้องต้นจาก นายลีฮงจุน อายุ 25 ปี ให้การว่าเดินทางออกจากประเทศจีนโดยมีเพื่อนหลอกว่าเคยทำงานเกี่ยวกับลอตเตอรี่ ส่วนพาสปอร์ตเดี๋ยวจะไปทำให้ที่ปลายทาง จึงลักลอบออกจากเมืองจีน เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2565 โดยเดินทางเท้า มาถึงเวียดนามโดยใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมงจากนั้นนั่งรถโดยสาร อีกสองวันสองคืนถึงจะถึงประเทศกัมพูชา โดยถูกยึดโทรศัพท์มือถือทั้งหมด เมื่อมาถึงประเทศกัมพูชาได้สองวันถึงรู้ว่าถูกหลอกมาให้ทำงานเกี่ยวกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ และให้พักอาศัยอยู่ชั้น 3 จึงวางแผนพากันหลบหนีบางคนล้มได้รับบาดเจ็บมีรอยถลอกที่แขน
จากนั้นมีคนนำพาขึ้นรถเก๋งหลบหนีภายหลังทราบว่ารถเก๋งคันดังกล่าวก็จะพาพวกตนไปขายแรงงานต่อที่ประเทศเมียนมาร์ และผ่านประเทศไทย และแวะปั๊มแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลบหนีออกมาจากแท็กซี่ได้สี่คน ภายหลังอีกคนหนึ่งจึงถูกทิ้งและพากันนั่งรถแท็กซี่มาที่สถานีขนส่งผู้โดยสารที่จังหวัดกำแพงเพชรและมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว โดยอ้างกับเจ้าหน้าที่ว่าจะไปขอความช่วยเหลือสถานทูตจีน
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามว่าได้รู้จักใครและทำไมถึงนัดหมายมาที่จังหวัดกำแพงเพชรก็ไม่สามารถตอบได้ และทั้งหมดพยายามจะสอบถามเจ้าหน้าที่ถึงขั้นตอนการจับกุมเพื่อที่จะขอกลับประเทศบ้านเกิดของตนซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงถึงขั้นตอนกระบวนการกฎหมายหลบหนีเข้าเมืองและจะต้องถูกดำเนินคดีในประเทศไทยก่อนถูกพักดันกลับไปสู่ประเทศของตนอีกครั้ง
อย่างใดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้แจ้งให้ ผู้ต้องหา ทราบว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 54 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ในข้อหา”เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยผู้ต้องให้การรับสารภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งผู้ถูกจับกุมว่าต้องถูกจับ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายให้แก่ผู้ถูกจับกุมทราบ จากนั้นนำตัวผู้ถูกจับกุม พร้อมบันที่กจับกุม นำตัวผู้ถูกจับกุมส่งเจ้าพนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย