รวบ..!! ทนายกำมะลอ อดีตพ่อค้าไก่หมุน “โป๊ะแตก” ปลอมเป็นทนายว่าความหลายคดี
วันที่ 5 ตุลาคม 2565 ตกเป็นข่าวดังใหญ่โตทั้งประเทศ ทนายกำมะลอ อดีตพ่อค้าไก่หมุน ปลอมเป็นทนาย โดยสวมรอยเลขทนายคนอื่น แถมยังรับว่าความด้วยกันหลายคดี ทนายกำมะลอคนนี้ บ้านอยู่เขตอำเภอเมืองกำแพงเพชร และถูกจับตัวดำเนินคดีฝากขังที่เรือนจำกำแพงเพชรแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว โป๊ะแตก เมื่อทนายกำมะลอรับว่าความคดีและแจ้งผู้เสียหายว่าคดีชนะ แต่ตรวจสอบคำพิพากษาของศาลกับไม่พบในสารบบ จึงถูกแจ้งความดำเนินคดีที่จังหวัดนครสวรรค์และประสานมายังจังหวัดกำแพงเพชร
พ.ต.ท.สุวิศ พิชอ่อน สารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร เผยเรื่องราวดังกล่าวเกิดจาก ผู้ต้องหาได้ รับว่าความให้ผู้เสียหายในคดีแพ่งในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ จากนั้นได้แจ้งผู้เสียหายว่าชนะคดีได้ให้ผู้เสียหายดูคำพิพากษาของศาล พร้อมเรียกรับเงินจากผู้เสียหายเป็นค่าดำเนินการ ต่อมาผู้เสียหายได้ตรวจสอบคำพิพากษาดังกล่าวปรากฏว่า ไม่มีคำพิพากษาในคดีดังกล่าวและไม่มีคดีดังกล่าวในสารระบบของศาลจังหวัดกำแพงเพชร จึงเข้าพบพนักงานสอบสวนที่จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อแจ้งความดำเนินคดี พร้อมประสานมายัง สถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร เมื่อทราบเรื่องดังกล่าวศาลจังหวัดกำแพงเพชร จึงได้ทางการทำการตรวจสอบเลขที่คดีซึ่งพบว่าไม่มีคดีดังกล่าวอยู่ในสารระบบคลองศาล และได้ทำการตรวจสอบรายชื่อทนาย ไม่พบปรากฏว่าผู้ต้องหาอยู่ในรายชื่อของสภาทนายความ โดยทราบว่าผู้ต้องหาได้ปลอมแปลงตั๋วทนาย เพื่อใช้ในการว่าความซึ่งสร้างความเสียหายให้กับศาลเป็นอย่างยิ่ง จึงได้แจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร และถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องหาถูกฝากขังอยู่ที่เรือนจำกลางจังหวัดกำแพงเพชรเรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางมาตรวจสอบที่บ้านของ นายพรเทพ (ขอสงวนนามสกุล) ทนายกำมะลอ หรือที่เรียกกันว่าทนายไก่หมุน เขตอำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร พบว่า เป็นบ้านปูนชั้นเดียว ประตูกระจกหน้าบ้านติดข้อความว่า รับว่าความทั่วราชอาณาจักร คดีแพ่ง-อาญา พร้อมกับเบอร์ติดต่อ ซึ่งก็ได้พบกับแม่ของทนายกำมะลอ และลูกสาว 7-8 ขวบ ของทนายปลอมคนนี้อีก 2 คน แม่เล่าให้ฟังว่าบ้านหลังเก่าเป็นมรดกตกทอด แต่เดิมที่บ้านขายของชำ จนพ่อแม่ของตนเองเสียชีวิตหมดแล้ว ก็ไม่สามารถต่อยอดอาชีพได้เนื่องจากขายของไม่ดี จึงหันไปประกอบอาชีพทำไม้ ทำเฟอร์นิเจอร์ ส่วนลูกชายก็ส่งไปเรียนหนังสือ ตนเองก็ป่วยหลายโรคและเดินไม่ได้ ในที่สุดลูกชายเรียนจบแล้วบอกว่าทำงานอยู่ที่จังหวัดนครสวรรค์รู้ว่าเป็นทนาย ซึ่งตอนเรียนหนังสือลูกชายอยากเป็นตำรวจมาก
และหลังจากกลับมาจากนครสวรรค์ไม่มีงานทำ ลูกชายก็เอารถกระบะที่มีอยู่ไปเข้าไฟแนนซ์ แล้วลงทุนขายไก่หมุน โดยเร่ขายไปตามอำเภอต่างๆ ขายได้ไม่นานก็ขาดทุน รถถูกยึกเหลือมอเตอร์ไซด์ แล้วเปิดสำนักงานทนายความอยู่ที่บ้านประมาณ 2 ปี พอจุนเจือครอบครัวและเป็นเสาหลักของบ้าน ส่วนภรรยาของลูกชายก็เลิกรากันไปนานแล้วตั้งแต่ลูกสาวอย่างเล็กๆ เมื่อประมาณวันที่ 2 ที่ผ่านมาก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมลูกชาย ซึ่งก่อนก็ได้ขอร้องให้ปล่อยตัวได้ไหม แม่ของทนายกำมะลอร่ำไห้ไม่หยุด ความรู้สึกเสียใจ ที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นซึ่งตนเองไม่รู้มาก่อนว่าลูกชายทำอะไรบ้าง ก็ไม่เคยบอก จึงอยากจะฝากไปถึงลูกชายว่าคิดถึงลูกมากร้องไห้ทุกวัน หากติดคุกแทนได้ก็จะทำ เพราะไม่มีใครเลี้ยงหลานทั้ง 2 คน ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง อบต.คณฑี และบ้านพักเด็กฯได้เข้าตรวจสอบในเบื้องต้นเพื่อให้การช่วยเหลือตามหน้าที่แล้ว
อย่างไรก็ตามในคดีนี้ผู้เสียหายที่เกี่ยวข้องกับอาชีพทนายและผู้เสียหายทางคดี ได้ทยอยแจ้งความ ดำเนินคดีกับทนายกำมะลอ ท่านนี้ที่สร้างความเสียหายเสื่อมเสียให้กับวงการทนาย อย่างต่อเนื่อง