พิธียิ่งใหญ่..วางศิลาฤกษ์สร้างศาลโป๊ยเซียนโจวซือ”ฮุ้ง เยื้อง ไท้”วิหารแปดเซียน
สมาคม-มูลนิธิในเครือ สมาคมพุทธมามกสงเคราะห์การกุศลแห่งประเทศไทย (เม่งเลี้ยง) มูลนิธิสว่างกำแพงเพชรธรรมสถาน วางศิลาฤกษ์สร้างศาลโป๊ยเซียนโจวซือ “ฮุ้ง เยื้อง ไท้” วิหารแปดเซียน แห่งแรกของจังหวัดกำแพงเพชร และจะยกเสาเอก วันพุธที่ 28 ธันวาคม 2565
วันศุกร์ที่ 9 กันยายน 2565 เวลา 09.39 น.นายเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานในพิธี วางศิลาฤกษ์สร้างศาลโป๊ยเซียนโจวซือ “ฮุ้ง เยื้อง ไท้” พร้อมด้วย นายวิสิทธิ์ ชวลิตนิติธรรม นายกสมาคมพุทธมามกสงเคราะห์แห่งประเทศไทย และ สมาคม-มูลนิธิในเครือ สมาคมพุทธมามกสงเคราะห์การกุศลแห่งประเทศไทย (เม่งเลี้ยง) นายเกียรติชัย จงมีความสุข ประธานมูลนิธิสว่างกำแพงเพชรธรรมสถาน ร่วมด้วย นวลจันทร์ แสงอุทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกำแพงเพชร, นายโชคชัย รักเกื้อ นายอำเภอเมืองกำแพงเพชร, นายธำรง อัศวสุธีรกุล ประธานคณะกรรมการมีส่วนร่วมสำนัรกงานอัยการจังหวัดกำแพงเพชร, นางรัชนี อัศวสุธีรกุล ผู้ช่วยนายกกาชาดฯ บริษัทธรรมรัตน์คอนกรีต จำกัด ห้างหุ้นส่วนสามเพชร, นายสุวรรณ ศุภกิจเจริญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสระแก้ว, นายแพทย์ปรีชา มุสิกุล อดีต สส.จังหวัดกำแพงเพชร, นายพิพัฒน์ จงมีความสุข ประธานสภาเทศบาลเมืองกำแพงเพชร, คหบดี เจ้าของธุรกิจร้านค้า ชาวไร่อ้อย เชื้อสายจีน และผู้มีจิตศรัทธาอันเป็นกุศล ร่วมพิธีกันอย่างพร้อมเพรียง ที่ ตำบลสระแก้ว อำเภอเมืองกำแพงเพชร
นายเกียรติชัย จงมีความสุข ประธานมูลนิธิสว่างกำแพงเพชรธรรมสถาน คณะกรรมการมูลนิธิฯ/กู้ภัยสว่างกำแพงเพชรเชิญ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร นายกสมาคมพุทธมามกะสงเคราะห์การกุศลแห่งประเทศไทย วางศิลาฤกษ์วิหาร “ฮุ้ง เยื้อง ไท้” หรือ วิหารแปดเซียน เป็นแห่งแรกของจังหวัดกำแพงเพชร
ในโอกาสนี้ นายเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร กล่าวว่าการสร้างศาลโป๊ยเซียนโจวซือ“ฮุ้ง เยี้ยง ไท้” หรือ วิหารแปดเซียน แห่งแรกของจังหวัดกำแพงเพชร ถือเป็นมงคลอันดีงามของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดกำแพงเพชร ที่มีศาสนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สวยงามในการปฏิบัติศาสนกิจ เพื่อเป็นจุดศูนย์รวมใจให้พวกเรามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีความรัก ความสามัคคี เสียสละ จัดกิจกรรมต่างๆเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม
ศาลโป๊ยเซียนโจวซือ “ฮุ้ง เยื้อง ไท้” หรือ วิหารแปดเซียน เทพเจ้าหลายองค์ แปดเทพเป็นเทพเจ้า ที่ชาวจีนนับถือมาช้านาน นับเป็นหนึ่งในบรรดาเซียนนับร้อย ๆ องค์ของจีน ในสังคมไทยเซียนทั้งแปดประกอบด้วย หลี่ขาเหล็ก, จงหลี ฉวน, พระมาตุลาเฉา, ปราชญ์หัน เซียง, นางฟ้าเหอ, หลัน ไฉ่เหอ, อาวุโสจัง กัว, และ ลหฺวี่ ต้งปิน ในภาจีนกลาง ฮกเกี้ยน กวางตุ้ง และจีนแต้จิ๋ว ชื่อของเซียนทั้งแปดมีการเรียกแตกต่างกัน ชาวจีนเชื่อว่าเซียนทั้งแปดองค์นี้เป็นผู้อำนวยโชคลาภและความร่ำรวย ซึ่งแต่ละองค์มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์แตกต่างกันไป
ในพิธีเก็บศพไร้ญาติและล้างป่าช้าพิธีกรรมตามขั้นตอนหลายพิธี คณะกรรมการจะได้อัญเชิญเทพเจ้าแปดเซียนประทับทรง เป็นประธานประกอบพิธีกรรมเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผืนแผ่นดินบ้านเมืองสืบไป
นายเกียรติชัย จงมีความสุข ดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิสว่างกำแพงเพชรธรรมสถาน ระหว่างปี พศ.2564 ถึงปีพศ.2566 และคณะกรรมการได้ปฏิบัติหน้าที่สานต่อเจตนารมณ์ของมูลนิธิ มีวัตถุประสงค์ และภารกิจทำหน้าที่ออกช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย ช่วยคนยากจน สนับสนุนหน่วยงานราชการ สนับสนุนกิจการ งานประเพณีสำคัญของจังหวัดกำแพงเพชร ร่วมมือกับองค์กรอื่นๆเพื่อสาธารณประโยชน์ จนถึงศพไม่มีญาติ บริจาคโลงศพ และมีหน่วยกู้ภัยสว่างกำแพงเพชรธรรมสถาน คอยช่วยเหลือสังคมทั้งจังหวัด อันเป็นประโยชน์ต่อสังคม และมูลนิธิยังเป็นศูนย์กลางของชาวไทยเชื้อสายจีนหลักของเมืองกำแพงเพชร ปัจจุบันมูลนิธิสว่างกำแพงเพชรธรรมสถานตั้งอยู่ ถนนเจริญสุข ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร
ประวัติ ที่มามูลนิธิกำแพงเพชรสงเคราะห์หรือ มูลนิธิสว่างกำแพงเพชรธรรม สถานชื่อเดิม มูลนิธิกำแพงเพชรสงเคราะห์ ในปี พ.ศ. 2510 เริ่มก่อตั้งเป็นชมรมชื่อว่า “หะแจ่งเซีย” มีความหมายแปลว่า รวมพลังมวลชน มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเจ้าทุกข์ (เจ้าภาพ)จัดงานฌาปนกิจ และจัดงานมงคลสมรส ในขณะนั้นองค์กรเอกชน มีคณะกรรมการจัดงานงิ้วประจำปีเท่านั้น ชมรม “หะแจ่งเซีย” จึงเป็นองค์กรเอกชน คณะที่สองของเมืองกำแพงเพชร ที่ตั้งขึ้นโดยผู้อาวุโสคนจีน 10 ท่าน
ประกอบไปด้วย นายวิเชียร สุวรรณรัตน์/นายเก่งเม้ง แซ่ลี้/ นายกาฝั้น แซ่กอ /นายหงำ มหบุญพาชัย/ นายหวุนโป๊ย แซ่ตั้ง /นายยุ่นหมิน แซ่ตั้ง/นายงี่หวน แซ่ตั้ง /นายปัด แซ่ลิ้ม /นายหวุนกิ้ม แซ่ลิ้ม/นายสำราญ มหบุญพาชัย และมีสมาชิกเข้ามาสมทบกันต่อๆมาและได้ดำเนินภารกิจตามวัตถุประสงค์จนถึงปี พ.ศ. 2513 คณะทำงานมีความเห็นว่าอยากจะเลิกดำเนินการ เพราะมีคนช่วยทำงานน้อย
ต่อมา นายสำราญ มหบุญพาชัย จึงได้หารือกับผู้สนับสนุนที่ได้ก่อตั้งชมรม ตั้งเป็นคณะทำงานโดยแบ่งเป็น /ฝ่ายเสมียน/ ฝ่ายจัดซื้อ /ฝ่ายไฟฟ้า /ฝ่ายพ่อครัว /โดยที่ไม่มีเบี้ยเลี้ยง ค่าตอบแทนใดใด มอบหมายงานตามหน้าที่ ทุกคนเห็นชอบ และได้ดำเนิน กิจกรรมต่อเนื่องกันมา เป็นที่นิยมชมชอบของประชาชน เมื่อเจ้าภาพเชิญไปช่วยจัดงาน ก็ได้บริจาคเงินเข้าชมรม ในปี พ.ศ. 2515 จึงได้จัดซื้อชุดผ้าม่านที่ตบแต่งงานศพหนึ่งชุด และผ้าม่านถึงประตูบ้านงานมงคลสมรสหนึ่งผืน ให้บริการกับงานฌาปนกิจและงานมงคล
ในปีพ.ศ. 2519 นายกาฝั้น แซ่กอ ได้ให้ชมรม หะแจ่งเซีย ใช้อาคารตึก ซอย กอโชคชัย ที่สร้างไว้หลายห้องแต่ยังไม่มีใครอยู่ เป็นที่ตั้งสำนักงานชั่วคราว โดยไม่เก็บค่าเช่าค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาแต่อย่างใด
ขณะเดียวกันชมรมได้เห็นควรจัดตั้งการบริหารเป็นรูปคณะกรรมการ จึงได้เชิญ นายพี ผาณิชพิเชษฐ์วงศ์ เจ้าของโรงงานน้ำตาลมิตรสยาม มาเป็นประธานคณะกรรมการ และมีรองประธาน /เหรัญญิก ผู้ช่วยเหรัญญิก /เลขาจีน /เลขาไทย /ธุรการ/ และคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ /รวมทั้งมติที่ประชุมได้จ้างครูมาฝึกดนตรีให้กับเด็กเด็ก เพื่อใช้ในพิธีเคารพศพ และงานมงคลอื่นๆ /มีพิธีกรและวิธีการในพิธีเคารพศพ ตามประเพณีจีน/ และให้เสาะหาที่ดินที่เหมาะสมในการก่อตั้ง ฌาปนสถานสาธารณะและที่ตั้งสำนักงานใหญ่ เพื่อสะดวกและประโยชน์ในการประสานจัดการต่างๆ เนื่องจากตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 ถึงพ.ศ. 2519 มีความยากลำบากในการเดินทางนำศพไปฌาปนกิจ ยังจังหวัดนครสวรรค์และสระบุรี
ต่อมาได้จัดซื้อที่ดินทำฌาปนสถานได้สำเร็จ คณะกรรมการได้ช่วยกันสมทบเป็นกองทุน ในนามของนายสำราญ มหบุญพาชัย แล้วมอบที่ดินโอนต่อให้กับมูลนิธิฯ เป็นเจ้าของดูแลจัดสรรต่อไป โดยนายสำราญมีหน้าที่ เป็นหัวหน้าสุสานผู้บุกเบิกทำแผนและผัง ในปี พ.ศ. 2521 นายไถ่มุก เซี่ยงคิ้ว ทำฮวงซุ้ยเป็นหลังแรก
วันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2543 ได้ดำเนินการขออนุญาตให้จัดตั้งฌาปนสถานสาธารณะ เป็นไปตามกฎหมาย โดยใช้ชื่อสุสานว่า สุสานมังกรทอง ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ตำบลลานดอกไม้ตก อำเภอโกสัมพีนคร จังหวัดกำแพงเพชร
ปี พ.ศ.2522 คณะกรรมการได้ดำเนินการเพื่อจดทะเบียนเป็นมูลนิธิฯอย่างถูกต้องตามกฎหมายและแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ.2523 ชื่อว่ามูลนิธิกำแพงเพชรสงเคราะห์ มีวัตถุประสงค์ /ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยวาตภัย/อัคคีภัย/ช่วยเหลือผู้ยากจน/หรือผู้ที่ได้รับความทุกขเวทนา ร่วมมือกับองค์กรการกุศลอื่นๆ เพื่อสาธารณประโยชน์/ไม่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่ประการใด/ช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุท้องถนนและอื่นๆ
ปี 2528 นายชาญ พันธุมรัต ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานเปิดที่ทำการมูลนิธิกำแพงเพชรสงเคราะห์อย่างเป็นทางการ ขณะนั้นนายนิทัศน์ ชิวารักษ์เป็นประธานมูลนิธิฯ ต่อมาได้ย้ายไปอยู่จังหวัดนครสวรรค์ในปีพ.ศ 2532 กรรมการได้เลือก นายสำราญ มหบุญพาชัยเป็นประธานมูลนิธิฯ(ชุดเล็ก)และประธานจัดงานงิ้วแห่เจ้าในปี พ. ศ. 2534 และเป็นปีที่ตั้งคณะกรรมการเก็บศพไร้ญาติ จึงได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมพุทธมามกสงเคราะห์การกุศลแห่งประเทศไทย(เม่งเลี้ยง)พร้อมทั้งอัญเชิญเทพเจ้าโป๊ยเซียนโจวซือประทับทรงตั้งชื่อมูลนิธิกำแพงเพชรสงเคราะห์ใหม่ชื่อว่ามูลนิธิสว่างกำแพงเพชรธรรมสถาน และได้ดำเนินการพิธีจัดงานเก็บศพไร้ญาติ 64 วันกว่า 100 ป่าช้า
ในปี พ.ศ 2536 พ่อค้าในจังหวัดกำแพงเพชรได้เรียกร้องให้มูลนิธิสว่างกำแพงเพชรธรรมสถานจัดตั้งหน่วยกู้ภัย และได้ขออนุญาตกรมไปรษณีย์จัดตั้งสถานีวิทยุสื่อสารที่ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อใช้สื่อสารในการกู้ภัยในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชรซึ่งมีอาสาสมัครกู้ภัยกระจายอยู่ตามอำเภอต่างๆจำนวนนับร้อยนาย
ทำเนียบ ประธานมูลนิธิฯ
- นายพี ผาณิชพิเชษฐวงศ์ ประธานมูลนิธิฯท่านแรก
- นายนิทัศน์ ชิวารักษ์ ประธานมูลนิธิฯท่านที่สอง
- นายสำราญ มหบุญพาชัย ประธานมูลนิธิฯท่านที่สาม
- นายสุขี เลาหพิบูลรัตนา ประธานมูลนิธิฯท่านที่สี่
- นายปฐมภพ ปราการชัยนคร ประธานมูลนิธิฯท่านที่ห้า
- นายทศพล จงจิตรสุขวิทยา ประธานมูลนิธิฯท่านที่หก
ปัจจุบัน นายเกียรติชัย จงมีความสุข ดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิสว่างกำแพงเพชรธรรมสถาน ระหว่างปี พศ.2564 ถึงปีพศ.2566 / ค้นหาข้อมูล เรียบเรียงโดย นายพิพัฒน์ จงมีความสุข นักข่าว / kppnews รายงาน