ศึกสองล้อ“ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All”สนาม 3 ชิงถ้วยพระราชทาน

การแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และการแข่งขันจักรยาน “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2565 สนามที่ 3 ที่จังหวัดกำแพงเพชร

โดยพิธีเปิดการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ได้รับเกียรติจาก นายสุนทร รัตนากร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันร่วมกับ พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ร่วมในพิธี ณ บริเวณสนามหน้าเมือง อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ มีการถ่ายทอดทางเฟซบุ๊กไลฟ์ Thaicycling Association ปรากฏว่ามียอดผู้ชมรวมกันกว่า 25,000 วิว พร้อมทั้งผู้ชมต่างชาติจาก ลาว, กัมพูชา, ฟิลิปปินส์ และเมียนมา ร่วมรับชมด้วย

นายกสองล้อไทย เจ้าของฉายา “หมึกต้นแบบ” เปิดเผยว่า ขอชื่นชมจังหวัดกำแพงเพชรว่ามีการบริหารจัดการได้ดีมาก การประสานงานกับองค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในจังหวัด ภายใต้การนำของ ท่านเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ทุกอย่างออกมาเป็นระบบ มีผู้เข้าร่วมการแข่งขันจำนวนมาก ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว เนื่องจากเส้นทางแข่งขันผ่านอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร และผ่านแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกหลายแห่ง รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีความคึกคัก และเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนชาวจังหวัดกำแพงเพชรได้หันมาออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน

พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า สำหรับการแข่งขันจักรยาน “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” ที่มีขึ้นในวันอาทิตย์ มีเสียงเรียกร้องจากบรรดานักปั่นอยากให้แบ่งเป็นรุ่นกลุ่มอายุ ปัจจุบันเราแบ่งเป็นรุ่น AV30, รุ่น AV35 และรุ่น AV40 ทั้งชายและหญิง ซี่งเป็นการแบ่งตามความเร็วของการปั่น แต่แข่งขันรวมกันหมดทุกกลุ่มอายุทั้งเยาวชน, ประชาชน และนักปั่นที่สูงวัย ดังนั้นนักปั่นจึงอยากให้แบ่งตามรุ่นอายุเหมือนเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันในปี 2566 โดยจะมีการเพิ่มถ้วยให้ตามรุ่นอายุในแต่ละ AV แต่สำหรับสนามสุดท้ายที่เขื่อนกระเสียว อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ระหว่างวันที่ 17-18 กันยายน จะยังคงแข่งขันในรูปแบบเดิมไปก่อน

ดังนั้นขอให้นักปั่นในแต่ละกลุ่มอายุเตรียมตัวแข่งขันรูปแบบใหม่ในปีหน้า “ในช่วงปลายปีนี้ สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะประกาศโปรแกรมการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทยทุกประเภทจำนวน 28 สนาม เรายังคงเดินหน้าจัดการแข่งขันครบทุกสนามเหมือนเดิม ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือเราได้นักกีฬามาเป็นตัวเลือกเพิ่มมากขึ้นในการตัดเลือกขึ้นมาเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย เนื่องจากการแข่งขันจักรยานระดับนานาชาติบางรายการกำหนดว่าห้ามส่งนักกีฬาอาชีพ หรือนักกีฬารุ่นประชาชน เราก็สามารถมีนักกีฬาระดับยุวชน-เยาวชนที่เป็นแชมป์แต่ละสนามส่งไปแข่งขันแทน ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่ได้วางเอาไว้ โดยมีเป้าหมายหลักคือการเฟ้นหานักกีฬาทีมชาติไทยแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ รวมทั้งกีฬาซีเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์ และโอลิมปิกเกมส์ เมื่อเราจัดแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยและได้นักกีฬามาแล้ว ต้องส่งไปแข่งระดับนาชาติ ไม่เช่นนั้นก็ไม่เกิดการพัฒนา” พลเอกเดชา กล่าว

“แสธ.หมึก” กล่าวเสริมว่า ส่วนการแข่งขันรายการสำคัญที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้คือการแข่งขันจักรยานประเภทลู่นานาชาติ “แทร็ก เอเชีย คัพ 2022” และรายการฉลองครบรอบ 62 ปี สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ระหว่างวันที่ 26-30 สิงหาคม ที่เวลโลโดรม สนามกีฬาแห่งที่ 2 โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งมีทีมจากนานาชาติเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 15 ทีม สำหรับทีมชาติไทยนำทัพโดย “ทีเจ” จาย อังค์สุธาสาวิทย์ และ “บีซ” ร้อยเอกหญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ ที่จะต้องสู้กับนักปั่นระดับแชมป์โลกตัวจริง ขอแรงใจจากพี่น้องชาวไทยส่งแรงใจเชียร์นักปั่นไทย แฟน ๆ กีฬาเข่าชมฟรี หรือชมการถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไลฟ์ Thaicycling Association ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ขณะที่พิธีเปิดการแข่งขันวันที่ 26 สิงหาคม เวลา 14.00 น. ได้รับเกียรติจาก นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานในพิธี นอกจากนี้ สหพันธ์จักรยานนานาชาติ หรือ ยูซีไอ ได้มอบหมายให้ ดาโต๊ะ อมาจิต ซิงห์ กิล กรรมการบริหาร ยูซีไอ และรองประธานสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย ชาวมาเลเซีย เดินทางมาร่วมเป็นสักขีพยานอีกด้วย

ด้านการแข่งขันรายการ “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” รุ่นต่าง ๆ มีนักปั่นร่วมแข่งขันเป็นจำนวนมาก ปั่นระยะทาง 76 กิโลเมตรเท่ากันทุกรุ่น มีผลการแข่งขันดังต่อไปนี้ รุ่น AV 40 Premium ซึ่งเป็นการแข่งขันเฉพาะนักปั่นทีมชาติไทยรวมกันทั้งชายและหญิง แชมป์ตกเป็นของ ส.อ.กีรติ สุขปราสาท (KAZE Custom Factory) เวลา 1.41.03 ชั่วโมง

รุ่น AV 40 ชาย ที่ 1 นายกิตติคุณ ลิ่มสุวัฒนาพงษ์ (ENKKU) เวลา, ที่ 2 นายพรเทพ โพธิ์สุวรรณ (Grant Thornton Bike Zone), ที่ 3 นายนฤนาท สิงสมุท (GSB 13 FNC Bikefiction) เวลา 1.41.01 ชั่วโมงเท่ากัน / รุ่น AV 40 หญิง ที่ 1 น.ส.รุ่งนภา กุศล (Kitchen Queens), ที่ 2 น.ส.สุนารี การินทร์ (GSB 13 FNC Bikefiction), ที่ 3 น.ส.สไบทิพย์ ปินตาปลูก (Kitchen Queens) เวลา 1.42.14 ชั่วโมงเท่ากัน

รุ่น AV 35 ชาย ที่ 1 นายมนตรี ธีระทีป (LCC Little Samutsongkhram Cycling Club) เวลา 1.48.29 ชั่วโมง, ที่ 2 นายสุรชัย หาจตุรัส (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ-โกกิ) เวลา 1.48.38 ชั่วโมง, ที่ 3 นายสัญลักษณ์ แบ่งสันเทียะ (CHID CHOM Cafe) เวลา 1. 48.38 ชั่วโมง / รุ่น AV 35 หญิง ที่ 1 น.ส.อาทิตติยา ปิตานัง (สิงห์ ไบค์ คลับ), ที่ 2 น.ส.ฐนิญาพร สิงห์ทอง (ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย ราชวินิตบางแก้ว), ที่ 3 น.ส.ภักฐ์สนัน เพิ่มพิพัฒน์ (สิงโตไฟ) เวลา 1.52.35 ชั่วโมงเท่ากัน