แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ยึดหลักศาสตร์พระราชา สร้างความมั่นคงด้านอาหาร มีรายได้ตลอดปี
ปลูกพืชเชิงเดี่ยวล้มลุกอยู่นาน ฝนตกน้ำท่วมผลผลิตเสียหาย ถอดบทเรียนเป็นจุดเริ่มแนวความคิดนำศาสตร์พระราชา ดำเนินชีวิตปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก มีความสุขจนถึงวันนี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ให้เรียนรู้และเข้ามาศึกษาดูงาน มีการจ้างแรงงานในชุมชน มีรายได้ไม่พลัดถิ่น
การเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร “นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่” มาบริหารจัดการที่ดินทำกิน ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด มีความมั่นคงด้านอาหาร ไว้บริโภคตลอดทั้งปี มีรายได้รายวัน รายเดือน และรายปี
นางสาวเตือนใจ วิชิต พร้อมด้วยสามีที่เป็นแรงหนุน “ทำสวนถนอมวงค์” ตั้งอยู่หมู่ 17 ตำบลโกสัมพี อำเภอโกสัมพีนคร จังหวัดกำแพงเพชร พา นายศักดิเดชน์ แก้ววิเศษ เกษตรจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมด้วยเกษตรอำเภอโกสัมพี เจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตร ชมความสำเร็จดำเนินชีวิต ปลูกทุกอย่างที่กินกินทุกอย่างที่ปลูก มีความสุขจนถึงวันนี้ เป็นศูนย์การเรียนรู้ที่มีการจ้างเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อให้มีงานทำและมีรายได้และลดการเคลื่อนย้ายแรงงานออกนอกพื้นที่
ซึ่งมีการแปรรูปสินค้าจากวัตถุดิบในสวนได้แก่ กล้วยฉาบ มะม่วงกวน มะพร้าวแก้ว ขนุนทอด โดยนำส่งตลาดต่างจังหวัด ซึ่งมีการสั่งสินค้าเข้ามาจำนวนมาก และภายในศูนย์การเรียนรู้ยังเปิดให้หน่วยงาน หรือผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาดูงาน และเนื่องด้วยพื้นที่ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ( ศพก.เครือข่าย) ศูนย์เรียนรู้การผลิตผลไม้ อยู่ติดกับคลองวังเจ้ามีน้ำไหลผ่านตลอดทั้งปี ทำให้กลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของผู้ที่เข้ามาเที่ยวอีกด้วย
นางสาวเตือนใจ วิชิต เล่าให้ฟังว่า ก่อนจะมาถึงจุดนี้ เริ่มก่อตั้งขึ้นปี 2553 โดยพื้นที่เดิมทีมีการปลูกมันสำปะหลังและอ้อยโรงงาน สภาพผิวหน้าดินเสื่อมโทรม พอได้เข้ามาอยู่ความคิดแรกจะทำอย่างไรเพื่อที่จะหาทุน ก็เลยมาปลูกพืชล้มลุกอย่างเช่นพริก มะเขือ และพืชผักต่างๆ เพื่อที่จะส่งตลาดที่นครสวรรค์และพิษณุโลก พอเราปลูกไปได้แล้วช่วงเดือนตุลาคม เริ่มได้ผลผลิตเก็บได้บ้าง เราก็ทำมาเรื่อยๆจนถึงปี 54 ปลูกเหมือนเดิม พืชล้มลุก แต่มาช่วงเดือนกันยายน ตุลาคม เกิดน้ำหลากผลผลิตเสียหาย ข้าวของเสียหายหมดเลย จึงทำให้คิดได้ว่าเอ๊ะ!! เราทำพืชล้มลุกแล้วเมื่อเวลาเกิดอุทกภัยหรือช่วงแล้งมา ทำให้พืชผลเกษตรเราเสียหายขาดทุน ก็เลยเป็นจุดที่ให้เกิดความคิดร่วมกับครอบครัว ทำตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก เกิดจุดประกายขึ้นมาเป็นการปลูกพืช 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง มีทั้งมะพร้าวน้ำหอมแล้วก็ตามมาด้วยมะม่วง ทุเรียน น้อยหน่า กระท้อน ส้มโอ ขนุน ผลต่างๆ ในเนื้อที่ 186 ไร่ รวมแล้ว 28 ชนิด ได้ขายตามฤดูกาลเป็นเงินกลับมาเพื่อที่จะเลี้ยงในสวน และเมื่อมีจำนวนมากเพิ่มมูลค่าโดยการแปรรูป พื้นที่ที่ว่างเอาข่า ตะไคร้มาลง เพื่อที่จะให้มีผลผลิตออกขายอีกช่องทางหนึ่ง รวมทั้งมีกิ่งพันธุ์จำหน่ายให้กับเกษตรกร
ซึ่งในส่วนของสวนถนอมวงค์เราจะมีจุดเด่นหลากหลาย โดยเฉพาะไม้ยางอายุ 100 กว่าปีไม้ยางต้นใหญ่จำนวนหลายต้น แล้วก็จะมีมะม่วงป่าซึ่งต้นใหญ่มาก แถบนี้แทบจะไม่มีเลย แต่เสียดายว่าเหลืออยู่ต้นเดียว ที่จะเอาไว้ให้ลูกหลานเราได้ดู ในสวนของถนอมวงค์มีแหล่งน้ำธรรมชาติที่ไหลมาจากคลองวังเจ้า ทุกคนที่มาศึกษาดูงานหรือต้องการมาเที่ยวชมในสวนได้ลงไปเล่นในน้ำเพื่อผ่อนคลาย อยากให้เกษตรกรหรือประชาชนทั่วไป ที่สนใจมาเที่ยวชมที่สวน เป็นสวนท่องเที่ยวเชิงเกษตร ชิมไม้ผลตามฤดูกาลต่างๆ ในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูกาลทุเรียนออกผลได้นำทุเรียนมาเพิ่มมูลค่า
ทำพิซซ่าหน้าทุเรียน และมีอาหารหลากหลายให้คนมาเที่ยวได้รับประทาน สวนถนอมวงศ์ยึดแนวความคิดของในหลวงรัชกาลที่ 9 ไว้ให้มากที่สุด เพื่อจะให้ลูกหลานนั้นได้มีความเป็นอยู่อย่างมีอยู่ มีกิน มีใช้ เป้าหมายที่สวนอยากให้เกษตรกรทั่วไปในแถบนี้ ปลูกสวนคนละเล็กคนละน้อยก็ยังดี เพื่อที่จะมารวมกันกำหนดราคาสินค้า ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย จะได้ในราคาที่เป็นธรรมเป็นความสุขของของชีวิต คือแนวความคิดของเรา
ด้านนายศักดิเดชน์ แก้ววิเศษ เกษตรจังหวัดกำแพงเพชร กล่าวว่า โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร ได้สนับสนุนให้กับเกษตรกรที่มีสวนผลไม้และมีสภาพภูมิประเทศสวยงาม โดยเฉพาะฝั่งทิศตะวันตกของจังหวัด จะมีสวนผลไม้ที่อยู่ข้างลำธาร จะมีสวนผลไม้ที่หลากหลาย โดยเฉพาะผลไม้ที่ถือว่าน่าจะเป็นผลไม้เศรษฐกิจ นอกจากเกษตรกรที่มีการปลูกข้าว มันสำปะหลัง อ้อย ก็คือพวกทุเรียน อาโวคาโด้ น้อยหน่าพันธุ์เพชรปากช่อง กระท้อน ซึ่งตลาดยังมีการต้องการอยู่ จะส่งเสริมให้กับเกษตรกรที่มีสวนผลไม้ ในพื้นที่ที่มีความสวยงามมาทำเป็นเกษตรเชิงท่องเที่ยว เพื่อสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรต่อไป / ข่าว ภาพ จักรพรรณ ทามนิวส์