จับกุมต่างด้าว ชาย-หญิง ตกงานลักลอบเข้าเมืองฝ่าฝืนโควิด 58 ราย

จับกุมต่างด้าว ชาย-หญิง ลักลอบเข้าเมืองฝ่าฝืนโควิด 58 ราย จากอำเภอแม่สอด ไปกรุงเทพฯถ้ารอดจ่ายหัวละ 25,000 บาท

ตำรวจกำแพงเพชร จับกุมต่างด้าว ชาย-หญิง ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย 58 ราย ต้นทางมาจากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ปลายทางอยู่ที่กรุงเทพฯ ปทุมธานี และปริมณฑล ต่างด้าวเปิดเผยว่ามีนายหน้าทั้งไทยและคนบ้านเดียวกัน คิดหัวละ 25,000 บาท  ทำงานแล้วถึงจะได้เงิน ส่วนรถตู้เช่ามาคนขับจะได้หัวละ 2,000 บาท

วันที่ 10 พฤษภาคม 2565 11.00 น.ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.พิพัฒน์ ชุ่มมณีกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรกำแพงเพชร พ.ต.อ.ธนัท แสงตันชัย ผกก.สภ.เมืองกำแพงเพชร  พ.ต.ท.นิคสัน แสนเตปิน รองผู้กำกับป้องกันปราบปรามฯ และชุดจับกุมได้สืบทราบว่าจะมีการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวผ่านจังหวัดกำแพงเพชร จึงได้สืบสวนและเฝ้าระวังจุดเสี่ยงคือถนนสายรอง และเมื่อเวลา 04:00 น ของเช้าวันนี้ ก็สามารถจับกุมรถตู้เช่าได้ 2 คัน เป็นรถตู้สีฟ้า ป้ายเหลืองหมายเลขทะเบียน 30-0959 สมุทรสาคร และรถตู้สีขาวป้ายเหลืองหมายเลขทะเบียน 30-0936 สมุทรสาคร 

ควบคุมคนขับรถไม่ได้ 3 คนประกอบไปด้วย นายปราโมทย์ ยุระชัย อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 83/1 หมู่ที่ 12 ตำบลห้วยยาง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร นายผ่านพงษ์ คุณมี อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 53 หมู่ที่ 9 ตำบลอินทร์แปลง อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร และ นายญรรยงฮ์ ทองเติม อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 30/4 หมู่ที่ 4 ตำบลวังพัฒนา อำเภอบางซ้าย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

รถทั้ง 2 คันบรรทุกผู้โดยสารคันละ 29 คน รวม 2 คันมีผู้โดยสารทั้งหมด 58 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นต่างด้าวทั้งชายและหญิงที่แอบลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตำรวจควบคุมตัวทั้งหมดมาสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชรและเข้ารับการตรวจ ATK จากเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลกำแพงเพชรอย่างเคร่งครัดกันทุกคน ก่อนที่จะนำตัวเข้าพวกกลุ่มที่ห้องควบคุมภายในสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร

พ.ต.อ.เอนก จันทร์ศร รอง ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร เปิดเผยคดีนี้ว่าทางสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชรได้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุชาติ​ ธีระสวัสดิ์​ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (บิ๊กใหม่) , พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.(สส2) (บิ๊กโจ๊ก) ที่เคยมาควบคุมคดีคนต่างด้าวและประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำนำต่างด้าวมาทิ้งที่พื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร 3 ศพ ซึ่งหลังจากสืบทราบว่าจะมีการเคลื่อนย้ายของแรงงานต่างด้าวจึงได้เฝ้าระวังถนนสายรองจากถนนพหลโยธิน บ้านนาโบสถ์ อ.วังเจ้า บ้านหนองแดนอำเภอโกสัมพีนคร และ บ้านปางขนุน ตำบลนาบ่อคำ อำเภอเมืองกำแพงเพชร

และพบรถตู้ป้ายเหลืองซึ่งวิ่งผิดปกติในยามค่ำคืนในเส้นทางดังกล่าว ก็พบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายที่ลักลอบเข้าเมืองและคนขับรถ เบื้องต้นต่างด้าวเหล่านี้จะถูกเคลื่อนย้ายมาจากจังหวัดตากและเดินเท้าผ่านหมู่บ้านมาถึงจุดนัดพบเพื่อขึ้นรถตู้ จากนั้นรถตู้จะนำพาไปส่งที่อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี แล้วก็จะมีนายหน้ามารับต่อไปอีกทอดหนึ่ง ซึ่งรถตู้ก็จะได้รับค่าจ้างเป็นรายหัวหัวละ 2,000 บาท

ซึ่งคนขับทั้ง 3 คนจะได้ตั้งข้อหาให้ความช่วยเหลือนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายและฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดโดยผิดกฎหมายในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ส่วนต่างด้าวว่าจะถูกดำเนินคดีแอบลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและฝ่าฝืนคำสั่งของจังหวัดในช่วงการแพร่ระบาดอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดจะเข้าสู่กระบวนทางกฎหมายและผลักดันกลับประเทศต่อไป

ในส่วนของต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองจำนวนมากในครั้งนี้ นายสุวิทย์ อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นชาวมอญ เปิดเผยว่า มีนายหน้าทั้งชาวไทยและคนบ้านเดียวกัน เป็นผู้ประสานและติดต่อให้เดินทางจากเมียนมาร์มาที่ชายแดนทางช่องทางธรรมชาติ จากนั้นได้ข้ามฝั่งมาขึ้นรถและถูกปล่อยทิ้งที่ป่าข้าวโพดแห่งหนึ่งของอำเภอแม่สอดจังหวัดตาก จากนั้นเดินเท้ามาขึ้นรถตู้ ในเขตจังหวัดกำแพงเพชรก่อนที่จะถูกจับกุมในที่สุด

นอกจากนี้ยังเปิดเผยอีกว่าตนเองเคยทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯและในช่วงของการแพร่ระบาดของ covid 19 ได้กลับมาอยู่บ้าน 2 ปี มีความลำบากนอกจากทำนา และหาปลากินตามคลองแล้วไม่มีงานทำ และรู้ว่าการลักลอบมาในช่วงนี้เป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ก็ขอเสี่ยง แล้วแต่ดวงถ้ารอดก็ถือว่าโชคดี เนื่องจากทำงานรับจ้างเป็นช่างก่อสร้างจะมีรายได้วันละ 500 บาท และหากรอดไปได้ตนก็จะต้องเสียค่านายหน้าหัวละ 25,000 บาท แต่จะต้องไปถึงปลายทางที่ทำงานก่อน

จากการสอบถามว่านำเงินที่ไหนมาจ่าย นายสุเทพตอบว่าเป็นเงินสะสมที่เหลือไว้สำหรับการเดินทาง จึงตัดสินใจเดินทางมากับภรรยา 2 คน สำหรับคนอื่นๆที่ถูกจับกุมด้วยต่างคนก็มีนายหน้า เป็นของตนเองประมาณ 4-5 กลุ่ม และท้ายที่สุดก็กล่าวว่าแม้ว่าจะรู้ว่าผิดกฎหมาย แต่ความยากจนจึงทำให้ต้องเสี่ยงและรู้ว่าการถูกจับกุมทางเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการทางกฎหมายและผลักดันตนกลับบ้านแต่ถ้าหากรอดไปได้ก็จะมีงานทำส่งเงินกลับไปช่วยเหลือครอบครัวทางบ้าน