“นายกชัยวัฒน์” ตัวแทนคนเมืองกำแพงเพชร “วันพญาวัน”บวงสรวงศาลเจ้าพ่อหลักเมือง-ศาลพระอิศวร เป็นสิริมงคลแก่บ้านเมือง
วันที่ 15 เมษายน 2565 นายชัยวัฒน์ ศุภอรรถพานิช นายกเทศมนตรีเมืองกำแพงเพชร ในฐานะผู้ปกครองศาลเจ้าหลักเมืองกำแพงเพชร นายธำรงค์ อัสวะสุธีรกุล คณะการรการศาลเจ้า,ประธานคณะกรรมการการมีส่วนร่วมพัฒนาสำนักงานอัยการจังหวัดกำแพงเพชร
นางโชติกา ฐิตะชนัคภัค,นายวุฒิชัย ศุภอรรถพานิช ,นายนพพร ปานชัย รองนายกเทศมนตรีฯ นายนพพร ทองอ่อน ปลัดเทศบาลฯ นางศศิธร ศิริพงศ์ รองปลัดฯ ร่วมด้วยคณะผู้บริหารเทศบาลฯ สมาชิกสภาเทศบาลฯหัวหน้าส่วนการงานฯและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวเข้า ร่วมประกอบพิธีบวงสรวง ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง , ศาลพระอิศวร เพื่อเพื่อความเจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคลของเมืองกำแพงเพชรในโอกาสปีใหม่ไทย
โดยสวมหน้ากากอนามัยกันทุกคน และผ่านการคัดกรองจากพยาบาลโรงพยาบาลชุมชนเทศบาลเมืองกำแพงเพชร พร้อมทั้งทำความสะอาดล้างมือด้วยเจล ก่อนที่จะเข้าร่วมพิธีบวงสรวง ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยง และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด -19
พิธีบวงสรวงได้ตั้งเครื่อง บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น เทพยดา ด้วยเครื่องสักการะมีดอกไม้ และเครื่องสังเวยมี หมูทั้งตัว และหัวหมู ผลไม้ เป็นต้น โดยมีจุดประสงค์ 3 ประการ คือ เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยปกปักรักษา อำนวยโชคลาภ และสิริมงคล เพื่อบูชาคุณความดีและตอบแทนอุปการคุณ เพื่อเป็นเทวตาพลีตามหลักศาสนา เป็นการปฏิบัติบูชา ด้วย กาย วาจาใจ เป็นพุทธานุสสติกรรมฐานเป็นการบูชาแบบพิธีการเทิดพระเกียรติของท่านผู้มีพระคุณยิ่งใหญ่ ไพศาล คือองค์พระบรมโลกนาถศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระโพธิสัตว์เจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์สาวกทุกๆพระองค์ คุณพ่อ คุณแม่ทุกๆชาติ คุณครูอาจารย์ทุกๆชาติ เทพเทวาอารักษ์ผู้รักษาโลกนี้ทุกๆพระองค์ ตามประเพณีไทยที่สืบเนื่องมาแต่โบราณ
ศาลหลักเมืองจังหวัดกำแพงเพชร ตั้งอยู่บริเวณวัดพระแก้ว มีความหมายว่า เป็นเมืองที่มีนามอันเป็นมงคล ซึ่งหมายถึงความมั่นคงประดุจเมืองที่มีปราการทำด้วยเพชร ศาลหลักเมืองจังหวัดกำแพงเพชร จึงเป็นสิ่งที่พ้องกับความมั่นคง ไม่หวั่นไหว จึงเหมาะสำหรับขอพรเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย อาชีพ ของหาย ของรัก ฯลฯ ชาวเมืองกำแพงเพชรและประชาชนทั่วไปจะให้ความนับถือเลื่อมใสศรัทธาอย่างมาก และเป็นที่กล่าวขานถึงความศักดิ์สิทธิ์
ศาลหลักเมืองจังหวัดกำแพงเพชร เป็นศาลที่เก่าแก่มานานกว่า 700 ปี เชื่อกันว่าพระเจ้าวรมันต์(เหม่) ผู้เรืองอำนาจเป็นผู้ก่อสร้างขึ้น ทำด้วยศิลาแลงรูปกลม ยาวประมาณ 2 เมตร ผังโผล่พื้นมาประมาณ 1 เมตร มีรูปเศียรเทพารักษ์อยู่บนยอดศิลาแลง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังคาศาลได้พังลงมาทับเสาหลักเมืองและเศียรเทพารักษ์ หลังจากนั้นก็อยู่ในสภาพรกร้างมานาน และเมื่อปี พ.ศ. 2547 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมารเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ประกอบพิธีเจิมเสาหลักเมือง เมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ.2527 และมีพิธีเชิญเสาหลักเมืองและเศียรเทพารักษ์ ขึ้นศาล เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2527
ต่อมาช่างผู้เชี่ยวชาญจากสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรมได้สำรวจความเสียหายเสาหลักเมืองเดิมและนำไปบูรณเพื่ออนุรักษ์เสาหลักเมืองเดิมพร้อมกันนี้ได้จัดทำเสาหลักเมืองจำลองใหม่ โดยทำจากไม้สักทองมีขนาดความสูงจากพื้นเสา 2.29 เมตร ความกว้างของฐานขนาด 64 เซนติเมตร โดยได้อัญเชิญเสาหลักเมืองจำลองที่ได้ผ่านการทำพิธีจากกรมศิลปากรมาวางไว้เพื่อให้ประชาชนได้สักการบูชา ณ ศาลารายชื่อผู้จัดสร้างศาลหลักเมือง เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2551 การสังเวยเจ้าพ่อหลักเมืองกำแพงเพชร ในวันที่ 15 เมษายน ของทุกปี เรียกว่า “วันพญาวัน” ซึ่งประชาชนจำนวนมากจะมาชุมนุมพร้อมกันที่ศาลหลักเมืองกำแพงเพชร มักเรียกประชาชนที่มาร่วมกันว่า “ลูกช้าง”ทุกคนที่มาชุมนุมกันจะบนบานศาลกล่าวขอพรต่างๆ และพวกที่ยังไม่ได้แก้บนจะแก้บนให้เสร็จสิ้นในวันนี้
นอกจากนี้ พรามหม์จะทำพิธีบวงสรวงประจำปี เสร็จแล้วทำพิธีสรงน้ำเจ้าพ่อหลักเมืองและนิมนต์พระสงฆ์มาถวายภัตราหารเพลด้วย ศาลหลักเมืองกำแพงเพชร หรือ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองกำแพงเพชร ตั้งอยู่ที่ บริเวณวัดพระแก้ว ปากทางเข้าโรงเรียนกำแพงเพชรพิทยาคม ถนนสายกำแพงเพชร-สุโขทัย ผ่านหน้าศาล ชาวเมืองกำแพงเพชรและประชาชนทั่วไปให้ความนับถือเลื่อมใสศรัทธาอย่างมากและเป็นที่กล่าวขานถึงความศักดิ์สิทธิ์ ปัจจุบันขึ้นทะเบียนเป็นศาลเจ้าตามกฎเสนาบดีว่าด้วยที่กุศลสถานชนิดศาลเจ้า พ.ศ.2463 เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2528 และอยู่ในความดูแลของเทศบาลเมืองกำแพงเพชร
ทุกปีวันที่ เมษายน เทศบาลเมืองกำแพงเพชร ในฐานะผู้ปกครองศาลเจ้าหลักเมืองกำแพงเพชร จึงได้จัดจัดพิธีบวงสรวงศาลพระอิศวร และ ศาลเจ้าหลักเมืองกำแพงเพชร เป็นประจำทุกปี เพื่อความเป็นสิริมงคลเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ หรือวันขึ้นปีใหม่ไทย เพื่อความเจริญรุ่งเรื่องของชาวเมืองกำแพงเพชร และความเป็นสิริแก่ตนเองและครอบครัวสืบไป