วัดแก้วสุริย์ฉาย สรงน้ำ “อู่ทองเชียงแสน” หลวงพ่อกลับ หลวงพ่อขำ
พระครูรัตนวชิโรภาส เจ้าคณะอำเภอลานกระบือ คณะสงฆ์วัดแก้วสุริย์ฉาย ร่วมกับ เทศบาลตำบลลานกระบือ โดย นายรังสรรค์ จูด้วง นายกเทศมนตรีตำบลลานกระบือ ขอเชิญพี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยว ร่วมชมนิทรรศการงานประเพณีแห่พระด้วยเวียน ที่จัดขึ้น ณ บริเวณศาลาอเนกกุศลวัดแก้วสุริย์ฉาย “ในวันสงกรานต์ลานกระบือ”
รวมทั้งกิจกรรมทำบุญฉลองศาลาการเปรียญวัดแก้วสุริย์ฉาย ระหว่างวันที่ 13 – 16 เมษายน 2565 เชิญสักการะ สรงน้ำพระพุทธรูปพิมพ์ “อู่ทองเชียงแสน” ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว พระพุทธรูปเก่าแก่คู่วัดแก้วสุริย์ฉาย สรงน้ำรูปปั้นเหมือน หลวงพ่อกลับ หลวงพ่อขำ เพื่อความเป็นสิริมงคลในวันสงกรานต์ปีใหม่ไทย พ.ศ.2565
ประวัติวัดแก้วสุริย์ฉาย ได้สร้างราวพุทธศักราช 2400 ในสมัยรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ผู้ที่ยกที่ดินให้สร้างวัดคือ นายแก้ว และนางฉาย ประชาชนจึงร่วมกันสร้างวัดขึ้น ณ ที่ดินแห่งนี้และขนานนามวัดแห่งนี้ว่า “วัดแก้วสุริย์ฉาย”ในวัดประดิษฐาน หลวงพ่อขำ หลวงพ่อกลับ ซึ่งมีรูปหล่อของท่านทั้งสองอยู่ในศาลากลางวัด ว่าท่านทั้งสองเป็นพระอาจารย์ของเจ้าอธิการยี้ และได้รับการถ่ายถอดวิทยาคุณ จากพระอาจารย์ของท่าน คือหลวงพ่อขำ เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อกลับ หลวงพ่อกลับเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อไสว (พระครูวินิจวชิรคุณ) หลวงพ่อไสวเป็นอาจารย์ของเจ้าอธิการยี้ ท่านเป็นพระสงฆ์ที่ทรงวิทยาคุณทางคาถาอาคมยิ่ง เป็นที่พึ่งหลักทั้งทางธรรมะ และทางโลก พระเจดีย์โบราณ สององค์ ซึ่งเป็นที่เก็บอัฐิของเจ้าอาวาสและผู้ที่มีพระคุณต่อวัด และพระอุโบสถ ซึ่งเป็นโบสถ์สมัยโบราณที่ถมดินขึ้นมาสูงมากทำให้ อาคารพระอุโบสถและพระวิหารเสียรูปทรงไป ในโบสถ์มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ เป็นพระประธาน เมื่อสังเกตโดยละเอียด พบว่า ได้นำปูนไปฉาบพระองค์ไว้ จึงอาจสันนิษฐานได้ว่ามี พระที่เป็นโลหะชนิดใดชนิดหนึ่งที่มีคุณค่ามาก มีพระวิหารอยู่หลังพระอุโบสถ เป็นวิหารเก่า ที่ได้รับการบูรณะเปลี่ยนรูปทรงไป แต่ก็ยังดูงดงามตามแบบสถาปัตยกรรมกำแพงเพชร ในสมัยรัตนโกสินทร์ ในศาลาใหญ่มีชมรมผู้สูงอายุ มาชุมนุมจำนวนมาก ได้จัดกิจกรรมร่วมกัน ทั้งการออกกำลังกาย และกิจกรรมบันเทิง นับว่าเป็นการจัดตั้งได้อย่างงดงามมาก