รองอธิบดีอัยการภาค 6 ลงพื้นที่แก้ปัญหาความรุนแรงภายในครอบครัว
รองอธิบดีอัยการภาค6 ลงพื้นที่ ติดตามปัญหาความรุนแรงภายในครอบครัวที่ตกเป็นข่าวพร้อมหวังเสริมความเข้มแข็ง สร้างโมเดลศูนย์ประสานงานฯระดับตำบลให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
วันที่ 22 ธันวาคม 2564 ที่ห้องประชุมสำนักงานอัยการจังหวัดกำแพงเพชร นายสมพงษ์ เย็นแก้ว รองอธิบดีอัยการภาค 6 ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประสานงานศูนย์อัยการคุ้มครองสิทธิเด็ก เยาวชนและสถาบันครอบครัวระดับจังหวัด
โดยมี นายสุรชัย รัตนวรรณณี อัยการจังหวัดกำแพงเพชร คณะอัยการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามบันทึกข้อตกลงตาม MOU ประกอบด้วยสำนักงานอัยการจังหวัด สำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัด สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิทางกฎหมายและบังคับคดีจังหวัด กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชรสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกำแพงเพชรรวมทั้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกำแพงเพชรและผู้แทนสื่อมวลชนสมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชรร่วมด้วย ซึ่งการประชุมครั้งนี้ก็เพื่อติดตามสถานการณ์ตามที่สื่อสังคมออนไลน์และสื่อต่างๆได้เผยแพร่ต่อประชาชน กรณีการเกิดความรุนแรงในครอบครัวในเขตของอำเภอขาณุวรลักษบุรีเมื่อเร็วนี้
รองอธิบดีอัยการภาค6 ได้กล่าวว่า ศูนย์อัยการคุ้มครองสิทธิเด็กเยาวชนและสถาบันครอบครัวในระดับจังหวัดได้จัดตั้งขึ้นตามกฏหมายโดยทำหน้าที่เกี่ยวกับการประสานงานติดตามผลการดำเนินงานระหว่างหน่วยงานในการแก้ไขปัญหาโดยตรง ว่าได้ทำหน้าที่ครบถ้วนตามบทบาทหน้าที่ ถูกต้องตามกฏหมาย ตรงประเด็นในแก้ไขได้หรือไม่อย่างไร รวมทั้งเป็นศูนย์กลางในการร้องเรียนกรณีพบการกระทำที่เข้าข่ายความรุนแรงภายในครอบครัว
ดังนั้น การประสานงานเป็นสิ่งสำคัญสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานจะต้องปฎิบัติด้วยความร่วมมือกัน และเพื่อให้ การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพจึงได้มีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือคุ้มครองสิทธิเด็กและเยาวชนฯในระดับตำบลขึ้นโดยมีผู้บริหารท้องถิ่นท้องที่เป็นคณะทำงานมีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงไม่แตกต่างกัน จะมีความใกล้ชิดกับแหล่งปัญหา โดยมีโครงสร้างและกลไกในการแก้ปัญหากำหนดเป็นข้อกฎหมายไว้อย่างชัดเจน
ปัญหาความรุนแรงภายในครอบครัวแต่ละพื้นที่มีจำนวนที่เพิ่มขึ้นทุกขณะ มีรูปแบบความแตกต่างกัน จนทำให้น่าห่วงใยยิ่ง หากไม่ได้รับแก้ไขอย่างจริงจัง การแก้ปัญหาต้องมีความละเอียดอ่อน ต้องอาศัยนักจิตวิทยาหรือผู้ที่มีความรู้ประสบการณ์ในแต่ละด้านร่วมมือกัน ผู้นำท้องที่ท้องถิ่นมีส่วนสำคัญในเรื่องของการดูแลเพราะมีความใกล้ชิด ที่จะรู้ว่าครอบครัวไหน บุคคลใดมีพฤติกรรมเสี่ยงหรืออาจจะก่อเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นภายในครอบครัว ก็สามารถที่จะเข้าไปให้ความช่วยเหลือ ยับยั้ง แก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที
ดังนั้นตนเองจึงอยากจะให้ศูนย์ประสานงานอัยการคุ้มครองสิทธิเด็ก เยาวชนและสถาบันครอบครัวในระดับตำบลเป็นส่วนที่สำคัญที่จะต้องมีการจัดเก็บข้อมูล มีการกำกับ ติดตามอย่างใกล้ชิดที่จะเสนอแนะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นสามารถจบลงในระดับพื้นที่หรือจะส่งต่อในการดูแลช่วยเหลือตามขั้นตอนของข้อกฎหมาย
หลังจากนั้นคณะกรรมการทั้งหมดได้เดินทางไปยังอำเภอขาณุวรรักสระบุรีเพื่อรับฟังแนวทางการแก้ปัญหาของศูนย์ประสานงานในระดับตำบลและต่อไป