ถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน วัดคูยาง บริษัทเฉาก๊วยชากังราวจำกัด
พระธรรมภาณพิลาส เจ้าคณะภาค 4 (กำแพงเพชร นครสวรรค์ พิจิตร เพชรบูรณ์) ประธานสงฆ์ พิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ของ บริษัทเฉาก๊วยชากังราวจำกัด บูรณะพระอารามศาลานครชากังราว สถานที่ปฏิบัติธรรมสงฆ์
ผ้าพระกฐินพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า พระราชทานผ้าพระกฐินให้ กับ บริษัทเฉาก๊วยชากังราว จำกัด โดย ดร.เสริมวุฒิ คุณอมรรัตน์ สุวรรณโรจน์ น้อมนำไปถวายพระสงฆ์ จำนำพรรษากาลถ้วนไตรมาส ณ วัดคูยาง (พระอารามหลวง) ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร วันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม พศ. 2564 เวลา 10.09 น.
พิธีนี้เริ่มตั้งองค์พระกฐินพระราชทาน ภายในอาคารอเนกประสงค์โรงเรียนวัดคูยางเป็นเวลา 6 วัน และในวันนี้ได้เคลื่อนองค์ผ้าพระกฐินพร้อมบริวาร ไปยังอุโบสถวัดคูยาง โดยอัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานประดิษฐานไว้ที่โต๊ะหมู่หน้าพระอุโบสถ
เมื่อประธานในพิธีเดินทางมาถึงได้ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ เปิดกรวยกระทงดอกไม้ถวายความเคารพพระผ้าพระกฐิน อุ้มประคองยืนตรง เจ้าหน้าที่เปิดเพลงสรรเสริญพระบารมีจนจบ และได้ถวายความเคารพก่อนเข้าสู่พระอุโบสถ วางผ้าพระกฐินที่พานแว่นฟ้าหน้าพระสงฆ์รูปที่ 2
ดร.เสริมวุฒิ สุวรรณโรจน์ ประธานในพิธี ได้จุดธูปเทียนบูชา พระพุทธวชิรปราการ พระประธานภายในอุโบสถ พร้อมก้มกราบ 3 ครั้งและรับตาลปัตรถวายประธานสงฆ์ เข้าสู่พิธี ถวายผ้าพระกฐินเป็นลำดับต่อไป
หลังเสร็จพิธี นายเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร นางนวลจันทร์ แสงอุทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกำแพงเพชร นายสุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ รองประธานคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฏร นายสุรกิจ สุวรรณโรจน์ และแขกผู้มีเกียรติร่วมพิธีได้ ร่วมพิธีได้ถวายผ้าไตรและจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์
นอกจากนี้ผู้ร่วมพิธีประกอบไปด้วย นายมนต์ชัย รุ่งชาญชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกำแพงเพชร นางธัญญา รุ่งชาญชัย ผู้ประกอบการโรงสี บริษัทสิงห์โตทองไรซ์คอร์ปอเรชั่นจำกัด นายเสนอ เพชรพลาย อดีตผู้อำนวยศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอเมืองกำแพงเพชร และบริษัทห้างร้านรวมทั้งกัลยาณมิตรคณะแสวงบุญ กันพร้อมเพรียงในครั้งนี้ สรุปรวม บริษัทเฉาก๊วยชากังราวจำกัด ทอดถวายองค์กฐินพระราชทาน วัดคูยางถวายจำนวน 2,128,270 บาท
ด้านมาตรการป้องกันแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานครั้งนี้ ได้ปฏิบัติท่ามกลางมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 ซึ่งภายในอุโบสถได้มีการจำกัดจำนวนผู้ร่วมพิธี นอกจากนี้ที่นอกโอสถผู้ร่วมพิธีต่างก็ปฏิบัติตามมาตรการการอย่างเคร่งครัด ด้วยเช่นเดียวกัน
ประวัติวัดคูยาง สันนิษฐานว่าสร้างมาแล้วไม่น้อยกว่า 400 ปี จนถึงสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 บนเนื้อที่ 28 ไร่นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณและเกียรติประวัติแก่วัดเป็นอย่างยิ่งเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้ยกวัดคูยางเป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนปีพุทธศักราช 2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถและสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาสยามบรมราชกุมารีได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินต้น พร้อมด้วยถวายพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์และกรมศาสนากระทรวงศึกษาธิการถวายโดยเสด็จพระราชกุศลเราเป็นเงิน 60,000 บาท และสมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ 2 พระองค์เสด็จเยี่ยมวัดคูยาง คือสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 18 เสด็จเมื่อปี พ.ศ.2523 และสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชเมื่อครั้งยังดำรงสมณศักดิ์ เป็นสมเด็จพระญาณสังวร เสด็จเมื่อปี พ.ศ.2524 พระประธานอุโบสถวัดคูยาง มีนามพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า พระพุทธวชิรปราการ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ เมื่อปี พ.ศ.2524 มีพุทธลักษณะที่งดงามมาก ปางมารวิชัย หรือปางสะดุ้งมาร ขัดสมาธิราบ เป็นศิลปะสุโขทัย
ด้านประธานทอดถวายองค์กฐินพระราชทานในครั้งนี้ คือ ดร.เสริมวุฒิ สุวรรณโรจน์ เดิมอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี ปี พ.ศ.2524 รับราชการพนักงานขับรถของศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอเมืองกำแพงเพชร สมรสกับนางอมรรัตน์ สุวรรณโรจน์ มีบุตรและธิดา 2 คนคือ นายสุรกิจ สุวรรณโรจน์ นางสาวสุวนิตย์ สุวรรณโรจน์ ปี พ.ศ.2543 ได้เริ่มต้นทำกิจการเฉาก๊วยชากังราวดร.เสริมวุฒิ สุวรรณโรจน์ ยึดหลักคิดด้านคุณธรรมจริยธรรม คำพรปีใหม่ที่สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช ประทานไว้ ว่าเป็นคนที่ คิดดี พูดดี ทำดี ยึดหลักของเศรษฐกิจพอเพียง คือ ความเป็นอยู่ที่พอประมาณ ไม่ฟุ่มเฟือย มีความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ทานมังสวิรัติ ช่วยเหลือผู้ยากไร้ สนับสนุนการศึกษา การแพทย์พยาบาล บำรุงพุทธศาสนา
หลังประสบความสำเร็จธุรกิจค้าขาย เฉาก๊วยชากังราว ทำบุญแล้วกว่า 130 ล้านบาท ดร.เสริมวุฒิ กล่าวว่า เมื่อเรามีธุรกิจและมีรายได้เพียงพอในการใช้จ่ายอย่างสะดวกสบายแล้ว เราก็ต้องรู้จักแบ่งปันให้กับเพื่อนมนุษย์บ้าง ด้านการศึกษาได้รับปริญญาวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม จากมหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร ได้รับปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการตลาด จากมหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร // สมาคมสื่อมวลชนส่วนกลางและท้องถิ่นจังหวัดกำแพงเพชร