เรื่องเศร้า..ลุงชาติปลงไม่ตก ตัดสินชีวิตด้วยปืนพากันดับ 2
มีเหตุหญิงสาวรับจ้างหักข้าวโพด ถูกยิงกลางหลังไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนมือยิงกลับไปบ้านแล้วใช้อาวุธกระบอกเดียวกันจ่อยิงชายโครงซ้ายตัวเองเสียชีวิต ชนวนเหตุน่าหึงหวงหรือไม่สมหวัง
วันที่ 22 กันยายน 2564 เวลา 10:00 น.เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ พ.ต.ท.โทไพศาล วรรณชัย พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร ได้เดินทางไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท. ไพฑูรย์ นายเจริญ รองผู้กำกับฯ สส.สส. พ.ต.ท.สุรวัจน์ สุรวัฒน์มนตรี รองผู้กำกับฯ สส.สส. หลังได้รับแจ้งเหตุที่กลางไร่ข้าวโพด บ้านหมู่ 4 บ้านเกาะสะบ้า ตำบลหนองปลิง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร นางเนาวรัตน์ สนิทมาก อายุ 42 ปี บ้านอยู่หมู่เดียวกลับไร่ข้าวโพด ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่กลางหลัง ชาวบ้านที่รับจ้างหักข้าวโพดด้วยกัน รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลกำแพงเพชร แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ในช่วงเวลาไล่เรี่ยกันทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีผู้พบศพ นายชาติ มากกุญชร อายุ 63 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณห้องครัวของบ้านตนเองเลขที่ 7 หมู่ที่ 4 บ้านเกาะสะบ้า ตำบลหนองปลิง อำเภอเมืองจังหวัดกำแพงเพชร บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวที่หลังบ้านเป็นห้องครัว พบร่างของผู้เสียชีวิตคือนายชาติสวมใส่กางเกงขาสั้นสวมเสื้อยืดแขนยาวลาย ที่บริเวณมือซ้ายมีอาวุธปืนลูกซองสั้นตกอยู่ 1 กระบอก
ต่อมากองพิสูจน์หลักฐานได้เดินทางมาเก็บรายละเอียด ในที่เกิดเหตุ และแพทย์เวรโรงพยาบาลกำแพงเพชร พบผู้เสียชีวิตถูกยิงเข้าที่ชายโครงด้านซ้ายแต่ไม่มีคราบโลหิตเนื่องจากมีไขมันอุดปากแผลอยู่ ส่วนกระสุนเป็นศูนย์ปืนเบอร์ 12 มีปลอกคาในรังเพลิงอยู่ 1 นัด
จากการสอบสวนนางลำไย มากกุญชร อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของนายชาติ มากกุญชร ที่ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต ให้การว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทั้งลูกชายและเพื่อนบ้านต่างออกไปรับจ้างหักข้าวโพดพร้อมกับนางเนาวรัตน์ สนิทมาก ผู้เสียชีวิตที่อยู่ในบ้านหมู่เดียวกัน นอกจากนี้ก็ยังมีชาวบ้านอีกหลายคนร่วมรับจ้างหักข้าวโพดในครั้งนี้ ซึ่งไร่ข้าวโพดอยู่ห่างจากบ้านไปประมาณ 1 กิโลเมตร ขณะที่อยู่ไร่ข้าวโพดนายชาติซึ่งเป็นสามีได้โทรศัพท์ว่าอยากจะทานข้าวโพด แล้วก็ได้ขับขี่รถจักยานยนต์ เดินทางมาที่ไร่ เดินพูดคุยกับทุกๆคนอย่างเป็นกันเองเหมือนปกติ สักครู่ก็ได้ยินเสียงคล้ายประทัดดังขึ้น 1 ครั้ง ก็ยังตำหนิว่าลูกๆจะจุดประทัดเล่นทำไม ซึ่งไร่ข้าวโพดขณะที่หักข้าวโพดจะมองไม่เห็นหน้ากันเพราะต้นข้าวโพดมันสูง
ขณะเดียวกันนายพีระชัย พงษ์วิรัตน์ อายุ 21 ปีบ้านเลขที่ 105/7 คนบ้านหมู่เดียวกัน ก็เดินถอยหลังหักข้าวโพดไปเจอเอากับนางเนาวรัตน์นอนอยู่ที่พื้น หัวใจรวยริน จึงตกใจได้รีบเรียกให้ทุกคนมาช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลกำแพงเพชร และได้เสียชีวิตไปดังกล่าว จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดจึงรีบเดินทางกลับบ้านของตนเองซึ่งนางลำไยเมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็มีผู้พบศพสามีของตนเองนั้นนอนเสียชีวิตอยู่ในครัวแล้ว
ส่วนประเด็นในการใช้อาวุธปืนตัดสินชีวิตกันในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนพยานแวดล้อมทั้งหมดก็ไม่มีประเด็นเรื่องขัดแย้งหรือว่าทะเลาะวิวาทกันแต่อย่างใด ส่วนลูกชายทราบเพียงแต่ว่าพ่อมีปืนแล้วก็เคยมายืมปืนของพ่อเพื่อจะเอาไปยิงกบกินเขียดพ่อก็ปฏิเสธ แล้วก็ไม่รู้ว่าพ่อมีอาวุธปืนซุกซ่อนไว้อยู่ในบ้าน
เหตุการณ์ในครั้งนี้คงมีเพียงประเด็นของลูกผู้ชายที่อาจจะแอบคบหากันแล้วไม่สมหวังจึงตัดสินด้วยชีวิตด้วยอาวุธปืน อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนรายละเอียดของคดีนี้อีกครั้งเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป
