ครอบครัว”ยคชรัตน์”น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานเพลิงศพ พ่อหล้า ยคชรัตน์
เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม 2564 เวลา ๑๕.๐๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ นายหล้า ยคชรัตน์ บิดาของ นายดิเรก ยคชรัตน์ นักสื่อสารมวลชนชำนาญการ ข้าราชการ สังกัด สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดกำแพงเพชร ผู้ขอพระราชทานกล่องเพลิงพระราชทาน เพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพบิดา ณ เมรุวัดบ้านวังกร่าง ตำบลทุ่งยางเมือง อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย
โดยมี นายเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานในพิธี ตลอดจนมีญาติและผู้ที่เคารพนับถือเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง ยังความปราบปลื้ม สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่ครอบครัว “ยคชรัตน์” และประชาชนในพื้นที่อย่างหาที่สุดมิได้ และเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมเป็นสรรพสิริมงคลแก่วงศ์ตระกูลตลอดไป
ประวัติพ่อหล้า ยคชรัตน์
พ่อหล้า ยคชรัตน์ เกิดเมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๙๐ เป็นบุตรของ นางเรือง นายจิตร ยคชรัตน์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง หมู่บ้านวังกร่าง และ อดีตผู้ใหญ่บ้านคนแรกของหมู่บ้าน ที่ได้รวมผู้คนมาอยู่ร่วมกัน และย้ายที่อยู่เพื่อมาหากินหลายจุดก่อนที่จะตั้งรกรากเป็นหมู่บ้านใกล้ริมคลอง ซึ่งอดีตเคยมีต้นกร่างขนาดใหญ่ขึ้นอยู่จึงตั้งชื่อหมู่บ้านว่า “บ้านวังกร่าง”
พ่อหล้า ได้อยู่ร่วมเหตุการณ์สำคัญๆของหมู่บ้านมาตลอดตั้งแต่วัยเด็ก ได้มีส่วนร่วมกับพ่อจิตรก่อตั้งหมู่บ้านชักชวนผู้คนมาอยู่ด้วยกัน จาก ๔-๕ ครอบครัว ขยายชุมชนจนถึงปัจจุบัน นอกจากนั้นยังได้ร่วมสร้างวัด สร้างโรงเรียน โดยครอบครัวได้มอบที่ดินให้กับทางราชการสร้างโรงเรียนซึ่งเป็นสถานศึกษาของหมู่บ้านที่ลูกหลานได้เรียนถึงปัจจุบันหมู่บ้านอดีต ๖๐ กว่าปี มีสภาพเป็นป่าดงทึบ ไม่มีเส้นทางคมนาคม พ่อหล้าเป็นคนที่มีความใฝ่เรียน เรียนจบชั้น ป.๒ ที่โรงเรียนบ้านวังกร่าง ซึ่งขณะนั้นมีแค่ ป.๒ และ ขอพ่อแม่ไปเรียนต่อ ป.๓ และ ป.๔ ที่โรงเรียนบ้านหนองกก ซึ่งอยู่ห่างไปอีกประมาณ ๑๐ กิโลเมตร จนจบชั้น ป.๔ จากนั้น ในช่วงอายุประมาณ ๑๑ ปี ได้กลับมาช่วยพ่อแม่ทำไร่ทำนาที่บ้านซึ่งเป็นการเกษตรแบบเก่าที่ใช้วัวใช้ควายทำนา
พ่อหล้า เป็นคนที่มีจิตใจรักในศิลปะดนตรี และงานช่างอย่างมาก ซึ่งพ่อหล้าก็มีพรสวรรค์ทั้งสองอย่าง และพ่อหล้าได้ปลูกฝังให้ลูกหลานมีความรักในดนตรี เพื่อเป็นทักษะในชีวิตด้วยเช่นกัน
ในปี พ.ศ.๒๕๑๓ ขณะที่พ่อหล้าอายุ ๒๓ ปี พ่อหล้าขอพ่อและแม่ ไปเข้าเรียนหาความรู้ด้านช่างยนต์ ที่โรงเรียนช่างกลยนต์สมบูรณ์ จังหวัดพิษณุโลก หาความรู้ทางด้านช่างยนต์เพื่อนำมาเตรียมซ่อมรถไถนา ทั้งๆที่ขณะนั้นตนเองยังไม่มีรถไถนาเลย แต่ได้วางแผนตัวเองไว้ล่วงหน้าว่าจะซื้อ ซึ่งหลายปีต่อมาพ่อหล้าก็ซื้อรถไถใหญ่ยี่ห้อ แมสซี่ เฟอกูสัน คันแรกมาใช้เองและรับจ้างเพื่อนบ้านหารายได้ให้ครอบครัว ซึ่งก็ได้ใช้ความรู้ด้านช่างยนต์มาซ่อมรถด้วยตนเอง พร้อมถ่ายทอดความรู้ด้านช่างให้ลูกหลานและคนรอบข้างได้เรียนรู้การซ่อมไปด้วย
พ่อหล้า เป็นคนที่มีความขยันขันแข็ง ตั้งใจทำมาหากินในอาชีพของตัวเอง สามารถสร้างครอบครัวให้มีความสุข ความมั่นคง มีแนวคิดที่ทันสมัย วางแผน มองการไกลเสมอ โดยเฉพาะการทุ่มเททำงานเพื่อให้ลูกทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาอย่างดีที่สุด ซึ่งทำให้ลูกๆได้รับโอกาสทางการศึกษาที่ดี เป็นพื้นฐาน และต้นทุนในการใช้ชีวิตต่อไป
พ่อหล้าเป็นคนที่มีบุคลิกเรียบง่าย เป็นคนเงียบๆ นิ่งๆ มีอัธยาศัยดี เป็นที่เคารพนับถือของลูกหลาน ญาติมิตรและคนทั่วไป อีกทั้งเป็นคนที่มีจิตใจเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ ชอบทำบุญ ชอบช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ
เมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๖๔ พ่อหล้าป่วยกระทันหันด้วยอาการเส้นเลือดในสมองตีบ และล้ม ลูกหลานพาส่งรักษาที่โรงพยาบาลสุโขทัย พ่อหล้ามีร่างกายที่อ่อนล้า ลูกหลานต่างพยายามดูแลรักษาเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดอย่างถึงที่สุด แต่ก็ไม่สามารถฝืนธรรมชาติได้ พ่อหล้า เสียชีวิต ด้วยอาการสงบในวัย ๗๔ ปี เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๔ เวลาประมาณ ๐๖.๐๐ น.ยังความเศร้าโศกเสียใจแก่ลูกหลาน ญาติมิตร ที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปพ่อหล้า ยคชรัตน์ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในหลวงรัชการที่ ๑๐ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ได้รับไฟพระราชทาน เพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ ตามระเบียบหลักเกณฑ์การขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ กรณีเป็นบิดาของผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้น “ตริตาภรณ์ช้างเผือก” ขึ้นไป ยังความปราบปลื้ม สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ แก่ครอบครัว ญาติมิตร พี่น้องและประชาชนในพื้นที่อย่างหาที่สุดมิได้