ผู้ว่าฯสั่งฟัน จนท.สาว ทำได้ลงคอ…โยกเงินโควิด 12 ล้าน 3 บัญชีตัวเอง

 จนท.สาว ทุจริตโยกเงินโควิด 12 ล้าน เข้า 3 บัญชีตัวเอง

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2564 เวลา 09.00 น. นายแพทย์ปริญญา นากปุณบุตร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกำแพงเพชร แถลงสื่อนำโดย นายศุภชัย ศรีงาม นายกสมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร พร้อมทั้ง คณะสื่อมวลชนส่วนกลางและท้องถิ่นทุกแขนงของจังหวัดกำแพงเพชรที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกำแพงเพชร

สืบเนื่องจากปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่ามีความผิดปกติในการจัดทำเอกสารทางการเงิน การเบิกจ่ายไม่ตรงความเป็นจริง หลังจากที่มีการตรวจพบแล้ว จึงได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการตรวจสอบพบว่า เงินที่โอนมาจากกระทรวงสาธารณสุขเพื่อใช้ในกิจการโควิด  12, 738,415.53 บาท

ได้ถูกโอนไปที่เจ้าหน้าที่สาวการเงินและบัญชีสำนักงานสาธารณสุขแยกเป็น 3 บัญชี ทางสำนักงานสาธารณสุขได้ดำเนินการ ให้ออกจากทางราชการไว้ก่อน พร้อมตั้งคณะกรรมการดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงเสนอไปยังจังหวัดตามขั้นตอน และได้รับมอบอำนาจจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ดำเนินการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ดังกล่าวตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา ณ สถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชรและแจ้งอายัดบัญชีของข้าราชการดังกล่าวไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เรื่องดังกล่าวได้นำเรียนให้ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ รองนายกรัฐมนตรีนายอนุทิน ชาญวีรกุล รับทราบ ซึ่งขณะนี้ กำลังพิจารณาแก้ปัญหาเบื้องต้น เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ ข้าราชการที่ทำงานอยู่ทั่วทั้งจังหวัด และสำนักงานสาธารณสุขเองก็มีเงินสำรองที่จะมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ทำงานในพื้นที่เกี่ยวกับโควิด

ในช่วงของเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน โดยไม่ได้รับผลกระทบ ทางสาธารณสุขได้ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการกระทำผิดในส่วนตัวบุคคล  ส่วนเงินหลวงจำนวนกว่า12 ล้านบาทที่หายไปก็จะต้องติดตามทางกฎหมายดำเนินคดีต่อไป

วันเดียวกัน นายเชาวลิต แสงอุทัยผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดกำแพงเพชร ทุจริตเงิน covid-19 12 ล้านบาท เป็นงบอุดหนุนเฉพาะกิจ โดยจะแยกเป็น เงินงบเสี่ยงภัยประมาณ 3.8 ล้านบาท  และ อื่นๆอีก 8 ล้านเศษ  เพื่อให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกำแพงเพชรได้ใช้ในการบริหารจัดการในเรื่องของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส covid-19

จังหวัดกำแพงเพชรได้มอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุข แจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดดังกล่าวทั้งคดีทางแพ่งและอาญา  เพราะเงินหลวงต้องได้คืนจะต้องมีผู้ที่รับผิดชอบในเรื่องของการละเมิดกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ประการที่ 2 เรื่องของบุคลากรที่จะต้องดำเนินการเร่งสอบหาข้อเท็จจริงให้ทราบกระบวนการขั้นตอนว่ามีข้าราชการระดับใดบ้างที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินดังกล่าวหรือไม่  หากผิดก็จะว่ากันตามวินัยต่อไป ประการที่สามได้มีการกำชับ กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกำแพงเพชร ในเรื่องของการเยียวยา เพื่อเบิกงบประมาณให้แก่ข้าราชการที่ปฏิบัติงานตามพื้นที่ ซึ่งจะมีวิธีการใดนั้น เชื่อว่าทางสาธารณสุขจังหวัดกําแพงเพชร จะหาวิธีการแก้ไขปัญหาไว้เบื้องต้น

สำหรับกรณีเหตุการณ์การทุจริตดังกล่าว  จากการรายงานเบื้องต้น ทราบว่าการเบิกจ่ายทำด้วยระบบออนไลน์ และอาจจะมีการแก้ไขรหัสผู้เบิกจ่ายเข้าบัญชีในส่วนบุคคลซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดจะได้เร่งดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ข้อเท็จจริงและคาดว่าจะทราบผลภายใน 15 วัน / ทีมข่าว สังกัด สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร