สยบข่าวลือ กำนันพยัพ และครอบครัว ผลตรวจครั้งที่ 1 ออกมาแล้ว (ไม่ติดโควิด)

ข่าวลือ….ในห้วงของความหวาดระแวง และ ขาดความไว้วางใจกันใน สถานการณ์โควิด กำแพงเพชรบ้านเรา ซึ่งคลัสเตอร์ล่าสุดมีผู้ร่วมชะตากรรมติดเชื้อกันไปจำนวนหลายราย และเมื่อเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น จะหลีกเลี่ยงไม่ได้นั่นก็คือ ข่าว โดยเฉพาะ ข่าวลือ ที่เกิดขึ้นจากปากต่อปาก ทำให้ข้อมูลข้อเท็จจริงคาดเคลื่อน แต่เนื่องจากเป็นเรื่องราวที่มีผลกระทบโดยตรงต่อผู้คนในสังคม จึงมีความสนใจเรื่องนี้เป็นหนึ่งในชีวิตประจำวัน โดยธรรมชาติข่าวลือเช่นนี้จะไปหยุดหรือห้ามไม่ได้เลยเชียว  เกิดอะไรขึ้นกับข่าวลือ นั่นก็คือข่าวที่เล่าหรือพูดต่อๆ กันมาอาจมีหรือไม่มีความจริงอยู่ก็ได้ ขาดข้อเท็จจริงและอาจจะเกิดความเสียหายและเกิดความสับสน นอกจากนี้ยังสร้างให้สถานการณ์นั้นเลวร้ายขึ้นไปอีก 

ทีมข่าวของเราได้ติดตาม ผู้ที่มีชะตากรรมเกี่ยวกับอีกท่านหนึ่ง ที่ใช้พื้นที่ทางสื่อโซเชียล ได้ออกมาทำความเข้าใจและชี้แจงข้อเท็จจริงให้สังคมได้รับทราบ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ  ผู้สื่อข่าวเองก็ได้ยินข่าวลือมาเหมือนกัน เมื่อมีโอกาสได้พบกับข้อมูลจึงต้องขออนุญาตนำมาเสนอเพื่อให้สังคมได้รับทราบ และลดข้อสงสัย คลายความกังวล  สามารถทำให้สังคมอยู่ร่วมกันได้อย่างเข้าใจและมีความสงบสุขเรียบร้อยขึ้น จึงต้องขออนุญาตคุณ Sirinapa Jansumawong หลานกำนันพยัพ ที่ขณะนี้กักตัวอยู่กับลูกสาวของกำนัน ได้ลงข้อมูลชี้แจงข้อเท็จจริงให้สังคมได้รับทราบ ทาง Facebook เมื่อเวลา ประมาณ 11.00 น.ของวันที่ 13 มิถุนายน 2564 โดยมีข้อความชี้แจงตามนี้ครับ

Sirinapa Jansumawong ….ขอใช้พื้นที่ส่วนตัวตรงนี้ บอกข้อมูลนะคะ…ตอนนี้ มีข่าวลือออกไปว่า กำนันพยัพ และครอบครัว แล้วเราบ้านผู้ใหญ่วี(ตามที่เรียกกัน) ติดโควิด19 กันหมด ผลตรวจครั้งที่1ออกมาแล้ว ทุกคนเป็น- (ไม่ติด)

ส่วนคนที่สัมผัสเสี่ยงสูง ที่ไปสัมผัส กับผู้ติดเชื้อที่ทำงานมา  คือ หน่อง กับ หนิง  พอเรารู้ตัวว่าเสี่ยง เราแยกตัวออกมากักตัวด้วยกัน2คน ตั้งแต่วันที่ 9 โดยที่ไม่ได้กลับไปบ้านอีกเลย   “ซึ่งสรุปว่า หนิง ผลตรวจออกมาว่าติด รถโรงพยาบาลรับตัวไปรักษาแล้ว ” แต่หน่องผลตรวจรอบแรกออกมาไม่ติด   ครอบครัวกำนันพยัพก็ไม่ติด ตอนนี้พวกเรายังคงกักตัวเองต่อไปจนกว่าจะครบ7-14วัน  แล้วเจ้าหน้าที่จะมาตรวจหาเชื้อใหม่

ขอความกรุณานะคะ อย่าลือข่าวที่คิดไปเองแล้วทำให้ผู้อื่นเสียหาย อย่างเช่นครอบครัวของพวกเราต้องกักตัวกันหมดซึ่งไม่ได้กระทบอะไรเราเต็มใจเพื่อป้องกันไม่ให้มันแพร่เชื้อ ถ้าติด แต่……….เพื่อนบ้านข้างเคียงของเราเขาต้องใช้ชิวิตหาเช้ากินค่ำ หรือออกไปซื้อของกินของใช้ ทำงานหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัวกัน อย่ารังเกียจกันเลย เพราะเค้าไม่ได้สุ่มเสี่ยงด้วย ถ้าใครเสี่ยงรัฐเค้าให้กักตัวอยู่แล้ว  เรากลัวได้ ไม่ผิด ต้องป้องกัน เรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิด   อย่าสนุกปากจนทำให้คนอื่นเดือดร้อนกันเลยค่ะ   เอาจริงๆคือ…เราสงสารเพื่อนบ้านใกล้เราที่ต้องมาโดนด้วย  ทั้งที่เค้าไม่ได้สัมผัสกับเรา(ผลเป็นลบ)  เพราะโดยปกติแล้ว ชีวิตเรา ทำงาน กลับบ้าน  ไม่ค่อยได้สุงสิงกับใคร   ลือ กันไปได้ กลัวได้ แต่อย่า ทำท่ารังเกียจกันเลย พอสถานการณ์นี้ผ่านไปแล้ว **ระวังจะมองหน้ากันไม่ติดนะคะ**   ขอให้ทุกคนปลอดภัย ป้องกันตัวเองกันให้ดีที่สุด   หรือใครอยากสอบถามอะไรเพิ่มเติม โทรมาถามได้นะคะ 0823963901(หน่อง)  #ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เข้ามาดูแลช่วงกักตัว #ครอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้กัน  #ครอบครัวเราจะผ่านมันไปให้ได้

ครับ.ผู้สื่อข่าวเองก็ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ทราบว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องสัมผัสเสี่ยงต่างก็เข้าสู่ระบบ ของทางการและบางท่านก็กักตัวเองเพื่อรอดูอาการ ซึ่งล่าสุดก็ยังไม่มีการผิดปกติของร่างกาย คงมีเพียงความห่วงใยของครอบครัว ที่ยืนหยัดเคียงข้าง ให้กำลังใจกันอยู่ตลอดเวลา

ขณะเดียวกันเองทางสังคมก็ต้องให้ความเข้าใจ และมีความห่วงใยต่อกัน สถานการณ์โควิด ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะมาซ้ำเติมกัน ในขณะเดียวกันพวกเราคนไทยจะต้องร่วมมือร่วมใจกัน จึงไม่ใช่เวลาที่จะมาตำหนิหรือแบ่งแยก เราต้องรับผิดชอบร่วมกัน เชื่อได้ว่าไม่มีใครอยากที่จะเข้าไปเสี่ยงกับโรคภัยอันตรายตัวนี้ บางท่านเกี่ยวข้องโดยไม่รู้ตัว บางท่านเกิดจากความประมาท บางท่านเกิดจากการไร้สำนึกรับผิดชอบต่อสังคม เราจะแยกไม่ออกว่าการติดเชื้อระบาดนี้จะโทษใครใครได้ คงต้องบอกว่าในสถานการณ์เช่นนี้เราทุกคนต้องลงมาร่วมมือร่วมใจกันที่จะปกป้องไม่ให้จังหวัดกำแพงเพชร เป็นพื้นที่ระบาดเป็นคัตเตอร์ของโควิดที่เสี่ยงอันตรายทั้งชีวิต และทำลายสังคม เศรษฐกิจ ใช้ชีวิตด้วยความลำบาก เราคงต้องร่วมไม้ลงมือกันอย่างจริงจังกันตั้งแต่วันนี้ ครับ