แม่ลูกรอรับสิทธิ์เยียวยา “เราชนะ”ธารน้ำใจ หลั่งไหล ทะลุ 6.5 ล้าน

ยอดทะลุ 6.5 ล้าน คุณสมบัติการรับสิทธิ์เยียวยา เราชนะ ก็ไม่ขาด เพราะกำหนด ปี 2563 ส่วนการปิดรับบริจาคแล้วแต่เจ้าของบัญชี

นายอำเภอยืนยัน สองแม่ลูก ชาวกำแพงเพชร ที่กำลังได้รับความสนใจ หลังรอลงทะเบียน  เราชนะ นั่งป้อนข้าวป้อนน้ำ ถูกเผยแพร่ไปทางสื่อโซเชียล ขณะนี้ได้รับบริจาคอัพเดทล่าสุด อยู่ที่ 6 ล้าน 5 แสนบาท ว่ายังเป็นผู้ที่ได้รับสิทธิ์คุณสมบัติยังครบ เนื่องจากกำหนดหลักเกณฑ์คุณสมบัติในปี 2563 ซึ่งปีนี้เป็นปี 2564 ส่วนการปิดหรือเปิดบัญชีรับบริจาคต่ออยู่ที่ความประสงค์เจ้าของบัญชี

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 16.30 น.ความคืบหน้ากรณี “นางน้อย เอี่ยมสะอาด” อายุ 81 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77/1 ม.10 ต.วังไทร อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ป้อนข้าวลูกชาย “นายจำเนียร เอี่ยมสะอาด” อายุ 62 ปี ระหว่างรอลงทะเบียนเยียวยาเราชนะ หลังตกเป็นข่าวมียอดบริจาคเข้าบัญชีกว่า 6 ล้าน 5 แสนบาท จนมีกระแสทางสังคม ถามถึงคุณสมบัติหลักเกณฑ์ของผู้ได้รับสิทธิ์ลงทะเบียนเยียวยา เราชนะ ซึ่ง นายสดุดี พุทธัง นายอำเภอคลองขลุง เจ้าของพื้นที่ของสองแม่ลูกที่อาศัยอยู่ และได้ติดตามความเคลื่อนไหวของเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมด้วยนายก อบต. วังไทร รวมทั้งผู้นำท้องถิ่นท้องที่ และเครือญาติของสองแม่ลูก เนื่องจากช่วงเพียงข้ามคืน ชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำ ปลูกมันสําปะหลัง อยู่ภายในบริเวณเนื้อที่ 1 ไร่ 2 งาน ชีวิตกลับพลิกผันเพียงชั่วข้ามคืน ด้วยการเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ดัดแปลงเป็นที่นั่งพ่วงติดด้านข้าง แล้วไปรอลงทะเบียนรับการเยียวยา เราชนะ แต่ 2 ครั้งออกไปไม่ทัน จึงยังไม่ได้รับสิทธิ์ ต่อมาได้ไปนอนรอตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึงรุ่งเช้า จึงได้รับสิทธิ์แรก ที่ ธนาคารกรุงไทยสาขาท่ามะเขือ-คลองขลุง อำเภอคลองขลุง และขณะที่กำลังนั่งป้อนข้าวป้อนน้ำกันอยู่ ก็ถูกบันทึกภาพและเผยแพร่ไปพร้อมกับหมายเลขบัญชีของผู้เป็นลูกชาย จนกระแสความเห็นใจทางสังคม แห่โอนเงินเข้าสู่บัญชี

ขณะนี้ล่าสุด นายสดุดี พุทธัง นายอำเภอคลองขลุงแจ้งว่า เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมาจากการปรับสมุดพบว่ามียอดในบัญชีรวมกว่า  6 ล้าน 5 แสนบาท แล้ว ด้วยลำพังลูกชายที่มีอายุสูงวัยและแม่ที่แก่เฒ่า เกรงว่าจะไม่สามารถบริหารจัดการเงินจำนวนมากนี้ได้ จะได้ตกลงกับทางญาติให้ทางฝ่ายปกครองได้รักษาสมุดบัญชีไว้ก่อน เพื่อที่จะจัดการบริหารการต่อไป

นอกจากนี้แล้ว ยังมีประเด็นการปิดบัญชี ซึ่งบัญชีดังกล่าวเป็นบัญชีรับเบี้ยผู้สูงอายุ เบื้องต้นต้องเป็นเจ้าของบัญชีมีความประสงค์ที่จะปิดหรือจะไม่รับบริจาค เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องของนายจำเนียรซึ่งเป็นบุตรชายเป็นเจ้าของบัญชีจะได้แสดงความประสงค์ ว่าจะเปิดรับบริจาคต่อหรือจะปิดบัญชีเท่านั้น จึงไม่อาจจะเข้าไปก้าวล่วงได้ แม้ว่าตัวเลขยอดบัญชีจะเกินกว่าที่ครอบครัวนี้จะใช้จ่ายแล้วก็ตาม

และประเด็นถัดมามี เสียงจากกระแสสังคมถึงเรื่องคุณสมบัติการรับสิทธิ์เยียวยา เราชนะ ของ 2 แม่ลูกนี้อย่างกว้างขวางว่า จะได้รับสิทธิ์ยามเราชนะต่อไปหรือไม่ หรือจะถูกเพิกถอนสิทธิ์เนื่องจากมีเงินโอนเข้าบัญชีจำนวนมากมายอย่างนี้ ซึ่งประเด็นดังกล่าวนี้ นายสดุดี พุทธังในอำเภอคลองขลุง เปิดเผยว่า หลักเกณฑ์คุณสมบัติต่างๆ ตามข้อกำหนดนั้นทั้งสองแม่ลูก เป็นผู้ได้รับสิทธิ์เนื่องจากว่าการรับสิทธิ์กำหนดให้ตรวจสอบสิทธิ์ตั้งแต่ปี 2563 นายอำเภอยืนยันว่า สองแม่ลูกนี้ยังคงได้รับสิทธิ์เยียวยา เราชนะ ทุกประการ