พสกนิกรกำแพงเพชร ร่วมใจจุดเทียนมหามงคลสดุดีเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึก ในหลวง ร.9
พสกนิกรชาวจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมใจร่วมพิธีจุดเทียนสดุดีพระเกียรติคุณ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้าย วันพระบรมราชสมภพ วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 2563
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2563 นายเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร นำพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ร่วมกันจุดเทียนมหามงคล เพื่อถวายราชสดุดีและน้อมรำลึกในพระหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้าย วันพระบรมราชสมภพ วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ณ ลานอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย สิริจิตอุทยาน ซึ่งเป็นการจัดครั้งแรก และครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทย
ในช่วงเวลา 19.00 น. นายเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ประธานในพิธีเดินทางมาถึงบริเวณพิธี ดุริยางค์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์ จากนั้น ถวายเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถพิตร และในเวลา 19.19 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร จุดเทียน และต่อเทียนให้ พสกนิกรทุกหมู่เหล่า
จากนั้นร่วมกันรับชม การถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ เป็นองค์ประธานจุดเทียนมหามงคลสดุดีเฉลิมพระเกียรติ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2563 ณ ท้องสนามหลวง และยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 89 วินาที เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยเป็นล้นพ้น โดยเทียนที่ใช้จุดในค่ำคืนนี้ เป็นเทียนสีเหลือง ไส้สีขาว
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงทุ่มเทพระวรกาย เพื่อพสกนิกร ทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ ทรงทุ่มเทพระวรกาย และพระสติปัญญาคิดค้นโครงการในพระราชดำริ อันเป็นประโยชน์อย่างอเนกอนันต์ต่อประเทศชาติ ทรงได้พระราชดำริปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อชี้แนะ แนวทางการดำเนินชีวิต และปฏิบัติตนให้แก่ประชาชนทุกระดับทุกสาขาวิชาชีพมาโดยตลอด ซึ่งเป็นแนวทางที่ประชาชนคนไทยได้ยึดถือปฏิบัติ เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตมาโดยตลอด แม้พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จะเสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว โครงการพระราชดำริต่างๆ ยังคงสามารถนำมาต่อยอดพัฒนาเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้แก่ประชาชนคนไทยนำมาใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตได้
พระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสในโอกาสต่าง ๆ ยังคงเป็นแสงสว่างชี้นำแนวทาง ในการดำรงชีวิตแก่ปวงพสกนิกร ประชาชนชาวไทยจึงเคารพเทิดทูนพระองค์ในฐานะพ่อแห่งแผ่นดิน และถือเอาวันที่ 5 ธันวาคมวันคล้ายวันพระราชสมภพเป็นวันพ่อแห่งชาติ และวันชาติไทย ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้เสมอมา