สภา อบจ.ผ่าน วาระ 2-3 ร่างงบรายจ่ายปี 64 สจ.ปฐมภพ ขอเข้าประชุมสุดท้ายไม่ได้ร่วมและออกจากห้องประชุมไปแบบ อารมณ์ดี
สจ.ต้องคดีศาลปกครองยังไม่สิ้นสุด บุกทวงสิทธิ์ ขอร่วมสภา อบจ.พิจารณาร่างงบปี 64 หวิดหล่ม ขอเข้าร่วมประชุม สุดท้าย จนท.ต้องเชิญออกนอกห้องประชุม
สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร เปิดประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 โดยมีสมาชิกสภา(สจ.)เข้าร่วมประชุม 18 ที่นั่งครบองค์ประชุม เพื่อขอความเห็นชอบร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี พ.ศ. 2564 ในวาระที่ 2 และวาระที่ 3 ที่ประชุมมีความวุ่นวายเล็กน้อย เมื่อมี สจ.ที่อยู่ระหว่างการเรียกร้องสิทธิ์ต่อศาลปกครอง เกี่ยวกับกรณีสิ้นสภาพหรือไม่ โดยคดีที่ยังไม่สิ้นสุด ได้เข้าห้องประชุมสภาโดยไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมประชุมได้ ขณะที่ประธานสภาเปิดประชุมตามประกาศ ตามกฎหมายและอำนาจของของสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อประชุมสมัยสามัญสมัยที่ 2 ครั้งที่ 2 ของวันที่ 21 สิงหาคม 2563 เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมสภาสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อพิจารณาวาระสำคัญคือร่างข้อบัญญัติประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้าในการประชุมสภาเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา กระการประชุมในครั้งนี้ทางสภาได้เชิญ สจ.ดังกล่าวนั้นออกจากห้องประชุมแต่โดยดี แต่ได้รับการปฏิเสธและใช้ไมล์พยายามแจ้งความประสงค์ขอให้สภาชี้แจง หรือหาเอกสารแจ้งการสิ้นสภาพความเป็น สจ.เพื่อหาข้อยุติ เมื่อเกิดความวุ่นวายอลเวงในสภานานนับชั่วโมง ไม่สามารถประชุมต่อไปได้ ประธานสภาจึงได้สั่งพักการประชุมชั่วคราวและแจ้งระเบียบการประชุมสภาตามกฎหมายให้ที่ประชุมได้รับทราบ และได้เชิญ สจ.คู่กรณีออกจากห้องประชุมแต่รับการปฏิเสธ
หลังจากนั้นนายวุฒิชัย สมชายมงคล ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร ได้แจ้งต่อ นายปฐมภพ ปราการชัยนาคร สจ.ท่านดังกล่าว ที่แต่งตัวสวมเครื่องแบบสีกากีแขนยาว ประดับเครื่องหมาย ซึ่งเป็นเครื่องแบบของสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร เดินทางมาเรียกร้องสิทธิ์ในห้องประชุมสภาในครั้งนี้ พร้อมกับแจ้งในที่ประชุมสภาได้ชี้แจงว่าตอนนั้นยังเป็น สจ.อยู่หรือไม่ ซึ่งเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม2563 ที่ผ่านมานายปฐมภพ ได้เดินทางมาที่ประชุมแห่งนี้แล้ว 1 ครั้ง และได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าให้ที่ประชุมสภาได้จัดหาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการสิ้นสภาพของตนมาแจ้ง ตนจึงได้มาติดตามในวันนี้ ซึ่งเอกสารดังกล่าวนั้นทางสภา อบจ.ได้พยายามมอบให้กับนายปฐมภพ แต่ไม่ยอมรับและได้ร้องขอให้เปิดอ่านในห้องประชุมสภา ซึ่งในที่สุดระหว่างการพักการประชุมทางเลขาสภาได้อ่านเอกสารข้อหารือเกี่ยวกับการสิ้นสุดสมาชิกภาพของสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชรของนายปฐมภพ ปราการชัยนคร ได้รับฟังกันทั่วห้องประชุม
ซึ่งเนื้อหาในเอกสารดังกล่าวนั้นระบุว่านายปฐมภพ ถูกคำพิพากษาถึงที่สุดว่าเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2557 มีความผิดตามมาตรา 62 และมาตรา 112 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น พ. ศ. 2545 จึงเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง ตามมาตรา 45 (6) และกรณีดังกล่าวนี้มิใช่เป็นกรณีการสอบสวนของผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร นายปฐมภพจึงได้ร้องต่อศาลปกครองพิษณุโลก และได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2561 ระบุให้เพิกถอนคำสั่งในการชะลอการเบิกจ่ายค่าตอบแทนและให้มีผลย้อนหลังนับตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2557 จนถึงปัจจุบัน และในกรณีดังกล่าวนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชรได้ยื่นอุทธรณ์และคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุดและอยู่ระหว่างการรอคำตัดสินอันเป็นที่สิ้นสุด
ในระหว่างที่คดียังไม่สิ้นสุดนี้ นายปฐมภพ ปราการชัยนคร ได้อ้างความเป็นผู้แทนที่ได้มาจากการเลือกตั้งและต้องการทำหน้าที่ในการเป็นผู้แทนในสภา แต่เนื่องจากสถานภาพไม่ชัดเจนทางสภา จึงไม่อาจอนุญาตให้เข้าร่วมประชุม ซึ่งนายปฐมภพได้ร้องขอเอกสารเพื่อความชัดเจน ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร จึงได้หารือกับจังหวัดกำแพงเพชรและกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ได้ส่งหนังสือด่วนที่สุด มท.0804.3/12354 ลงวันที่ 20 สิงหาคม 2563 โดยสรุปผลการหารือว่ากรณีจังหวัดกำแพงเพชรหารือมาดังกล่าว หากข้อเท็จจริงปรากฏว่านายปฐมภพ ปราการชัยนครต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหาร พ.ศ 2545 โดยปรากฏหลักฐานข้อเท็จจริงที่ชัดแจ้ง ซึ่งไม่อาจโต้แย้งได้แล้วและไม่มีกรณีสงสัยอื่นใดที่จะต้องดำเนินการสอบสวนและวินิจฉัยตามมาตรา 11 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ 2540 แก้ไขเพิ่มเติมถึง(ฉบับที่ 4 ) พ.ศ 2552 สมาชิกภาพของสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร ของนายปฐมภพ ปราการชัยนคร ย่อมสิ้นสุดลง โดยผลของกฎหมายตามมาตรา 11 วรรคหนึ่ง (6) นับตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด (คือเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2556) ซึ่งเอกสารหาหรือดังกล่าวนี้ ลงนามโดยนายเทวัญ หุตะเสวีรองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร
และหลังจากที่ได้อ่านเอกสารตามที่ได้ร้องขอแล้ว ทางสภาก็จะดำเนินการประชุมต่อ นายปฐมภพ ปราการชัยนครก็ยังอยู่ในห้องประชุมและโต้เถียงกันอย่างดุเดือด และกล่าวว่าไม่ยอมให้ประชุม ทำให้สมาชิกสภาทั้งหมดในห้องประชุมต่างลุกขึ้นยืนเพื่อแสดงความประสงค์ในการประชุมร่างงบประมาณแผ่นดินในวาระสำคัญนี้ ประธานสภาจึงใช้อำนาจให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนั้น เชิญตัวออกจากห้องประชุมซึ่งนายปฐมภพได้นั่งที่เก้าอี้และเอนตัวในลักษณะหลับตา เหมือนคนจะนอนหลับ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้พยายามชี้แจงซึ่งนายปฐมภพรู้สึกมีอารมณ์ขันก่อนที่จะพากันเดินออกจากห้องประชุมไปในที่สุด
และหลังจากที่สิ้นสุดการประชุมพิจารณาร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ. ศ. 2564 ในวาระ 2 และวาระ 3 เสร็จแล้ว นายสุนทร รัตนากรนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมด้วยสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร ได้ใช้โอกาสนี้ชี้แจงต่อสื่อมวลชนถึงกรณีความไม่ชัดเจนของสถานภาพสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร ของนายปฐมภพปราการชัยนคร ซึ่งโดยส่วนตัวก็ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีด้วย ในกรณีดังกล่าวนี้ไม่ได้รู้สึกขัดเคืองแต่ประการใดและมิได้มีปัญหาส่วนตัวกับท่านนี้ คือคุณปฐมภพ ปราการชัยนาคร ซึ่งตนเข้าใจและเห็นใจว่าเป็นการเรียกร้องสิทธิ์ และอยู่ในขั้นตอนของกระบวนการกฎหมาย นั่นก็คือศาลปกครองชั้นต้นซึ่งยกประโยชน์ให้กับ ผู้เสียหายและต่อมาทาง อบจ.ก็จะเป็นต้องรักษาสิทธิ์ของหน่วยงานราชการ และได้ยื่นอุทธรณ์ชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไป และระหว่างนี้ก็ยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด ซึ่งคดีนั้นยังไม่สิ้นสุด ถ้าถึงคดีสิ้นสุดก็ว่ากันไปตามข้อเท็จจริง
ในฐานะที่เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร แม้จะเห็นใจแต่ก็มีความไม่สบายใจอยู่บ้างเนื่องจากหลายท่านที่ขับรถผ่านก็จะเห็นป้ายที่มีข้อความและภาพของตนลักษณะถูกโจมตี และอีกไม่กี่วันก็จะมีการประชุมสมาพันธ์สภาองค์การบริหารจังหวัดแห่งประเทศไทยขึ้นที่เชียงใหม่ หลายท่านก็สอบถามถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งตนก็ไม่ขอตอบโต้เพราะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย สิ่งหนึ่งที่เห็นไม่สมควรนั่นก็คือสภาที่เกิดความวุ่นวาย เป็นความเสียหายที่กระทบต่อภาพลักษณ์ซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้น ข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้ก็อยากจะฝากซื้อมวลชนได้ประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชนให้ได้รับทราบถึงที่มาที่ไปของเหตุการณ์ดังกล่าว แล้วสุดท้ายย้ำว่าในการทำหน้าที่เป็นผู้แทนก็สามารถที่จะรับฟังถึงปัญหาที่เกิดขึ้นได้ และทุกอย่างต้องเป็นไปขั้นตอนของกระบวนการทางกฎหมาย
อย่างไรก็ตามการสิ้นสุดสมาชิกภาพของ นายปฐมภพ ปราการชัยนคร ในการดำรงตำแหน่งฐานะเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร เป็นการตอบข้อหารือขององค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร และจังหวัดกำแพงเพชรกับกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นเท่านั้น ซึ่งยังไม่ได้หมายตความว่าถึงที่สิ้นสุด เพราะคดียังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด ซึ่งยังคงเป็นอีกหนึ่งความหวังสุดท้ายของนายปฐมภพ ปราการชัยนครว่า ตนเองนั้น ท้ายที่สุดแล้วจะเป็นอดีต สจ.หรือยังคงสถานะสถานภาพเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อเรียกร้องสิทธิ์รับเงินค่าตอบแทน กว่า 1 .28 ล้านบาท ต่อไป ซึ่งเราก็คงจะต้องรอลุ้นคำตอบนี้ไปพร้อมๆกัน