ชาวพุทธชุมชนเทศบาลฯ ทำบุญสร้างพระพุทธชินราช-พระปางชนะมาร ถวายวัดนาบ่อคำ (วัดเก่า)
ไปติดตามบรรยากาศบอกบุญของพี่น้องชาวชุมชนเทศบาลเมืองกำแพงเพชร ที่ร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างพระพุทธชินราชหน้าตักขนาด 40 นิ้วและสร้างพระปางชนะมารหน้าตัดขนาด 25 นิ้ว พร้อมกองผ้าป่าสามัคคี โดยบอกบุญไปยังพี่น้องชาวชุมชนใกล้เคียง และในช่วงเช้าของวันที่ 26 กรกฎาคม 2563 ก็ได้เคลื่อนขบวนไปบอกบุญ พุทธศาสนิกชนชาวพุทธ ที่ตลาดศูนย์การค้าและย่านเศรษฐกิจถนนสายหลักในตัวเทศบาลเมืองกำแพงเพชร เพื่อนำปัจจัยไปสมทบทุนบูรณะปฏิสังขรณ์ ณ วัดนาบ่อคำ( วัดเก่า) หรือที่ในอดีตเรียกกันว่าวัดท่าโพธิ์ บ้านนาบ่อคำ หมู่ที่ 1 ตำบลนาบ่อคำ อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชรบรรยากาศบอกบุญในวันนี้เป็นไปอย่างเรียบง่ายคึกคัก และประชาสัมพันธ์การรณรงค์ Social distancing การเว้นระยะห่างของพี่น้องประชาชน เพื่อร่วมกันป้องกันแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 สำหรับกำหนดการในวันนี้ช่วง 07.00 น. ถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์จำนวน 9 รูป 09.39 น. แห่พระออกจากบ้านชุมชนเกาะทวี และบอกบุญไปตามตลาดย่านกลางใจเมืองกำแพงเพชรและเวลา 15.00 น. ของวันเดียวกันได้ประกอบพิธีถวายพระและถวายกองผ้าป่าสามัคคีให้กับวัดนาบ่อคำ(วัดเก่า)หรือวัดท่าโพธิ์ในอดีต โดยมีประธานสงฆ์ พระครูรัตนวชิรวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดนาบ่อคำ (วัดเก่า)เป็นประธานสงฆ์และประธานฝ่ายฆราวาสและผู้ดำเนินการก็ประกอบไปด้วย (โอ๊ต ร้านกัญญาคอนกรีต) คุณปัญญา สุทธิวิไลรัตน์ คุณเทิดศักดิ์ เทพพร คุณธนาวรรธน์ ละม้ายเมือง คุณกำหนด ขุนทอง คุณรวีวรรณ ช่ออัญชัน คุณนิสา เทพพร คุณทองดี ละม้ายเมือง คุณคำดี ขนอม คุณพีรวัชร์ สุทธิวิไลรัตน์ คุณแป้งร่ำ สุขเกษม คุณสมใจ ขุนทอง คุณพรทิพย์ เทพพร คุณประเสริฐเทพพร คุณเกดิษ สุขเกษม คุณสุนิสา สุขเกษม พร้อมด้วยพี่น้องชาวพุทธชุมชนเกาะทวี และชุมชนใกล้เคียง ร่วมเป็นเจ้าภาพนอกจากนี้ก็ยังมีโรงทาน ที่ชาวชุมชนร่วมกันตั้งโรงทาน มีทั้งน้ำหวาน น้ำดื่ม และอาหารพื้นเมืองเช่นขนมจีน ผัดซีอิ้ว ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋น ให้พี่น้องที่ไปร่วมกับขบวนบุญใหญ่ของชาวชุมชนได้อิ่มหนำสำราญทั้งกายและใจในโอกาสอันดีนี้การสร้างพระพุทธรูป จัดว่าเป็น พุทธบูชา ถ้าในกรรมฐานจัดว่าเป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน (การระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์) ถ้าตายจากคนไปเกิดเป็นเทวดา มีรัศมีกายสว่างไสวมาก การสร้างพระถวายด้วยอำนาจพุทธบูชา ทำให้มีรัศมีกายมากเป็นคนสวย ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า “พุทธะปูชา มะหาเตชะวันโต” แปลว่า “การบูชาพระพุทธเจ้ามีเดชอำนาจมาก” การสร้างพระพุทธรูปนี่ เป็นพุทธบูชา เป็นพุทธานุสสติ ในกรรมฐาน 40 กอง ท่านบอกว่ากำลังของพุทธานุสสติเป็นเหตุ ให้เข้าถึงนิพพานได้ง่ายที่สุด ง่ายกว่ากองอื่นก็เห็นจะจริงเพราะว่าพระพุทธเจ้าท่านอยู่ที่นิพพานนี่ และท่านก็เป็นต้นตระกูลของพระนิพพาน ทีนี้เมื่อเราต้องการสร้างพระพุทธรูปให้สวยตามที่เราชอบ เห็นแล้วก็ทำให้จิตใจสดชื่น จิตมันก็นึกถึงพระอยู่เสมอ ถ้าจิตนึกถึงพระพุทธรูปองค์นั้นอยู่เสมอ ก็จัดเป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน ถ้าใจเราเกาะพระพุทธเจ้าเป็นปกติ ตายแล้วลงนรกไม่เป็น ฉะนั้นถ้าเราชอบพระแบบไหนปางไหน ก็ให้สร้างอย่างที่เราชอบจิตจะได้เกิดศรัทธา สำหรับวัดท่าโพธิ์ เป็นวัดเก่า ของตำบลนาบ่อคำ อยู่บ้านนาบ่อคำหมู่ที่ 1 ตำบลนาบ่อคำ อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ที่วัดแห่งนี้มี พระครูรัตนวชิรวัฒน์ เจ้าคณะตำบลนาบ่อคำเขต 1 เป็นเจ้าอาวาส ปัจจุบันมีพระลูกวัด และเณร จำวัดอยู่ 3 รูป วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่มาตั้งแต่ดั้งเดิม ซึ่งผู้เฒ่าผู้แก่ที่นี่บอกว่าวัดนี้เริ่มต้นมากว่า 100 ปีถึง 200 ปี ปัจจุบันมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ภายในศาลา ให้ชาวพุทธศาสนิกชนตำบลนาบ่อคำได้เคารพสักการะและประกอบศาสนพิธี ต่างๆในวันสำคัญทางพุทธศาสนาที่ตั้งวัดแห่งนี้ ตั้งอยู่ริมคลองสวนหมาก และมีฝายคลองสวนหมากอยู่เยื้องๆหน้าวัด คนเก่าแก่ที่นี่เล่าให้ฟังว่าวัดแห่งนี้ ได้ย้ายไปตั้งใหม่อยู่ในบ้านหมู่เดียวกัน สาเหตุเนื่องจากความไม่มั่นคง เนื่องจากถึงฤดูน้ำหลาก กระแสน้ำในคลองสวนหมากจะไหลเชี่ยว และกัดเซาะริมตลิ่งพัง นั่นจึงเป็นสาเหตุให้เกิดวัดแห่งใหม่ขึ้น แต่วัดแห่งนี้ก็ยังคงอยู่ ปัจจุบันทางวัดมีการบูรณะอย่างต่อเนื่อง ทั้งหลังคาพระพุทธรูปองค์ใหญ่ และอยู่ระหว่างการก่อสร้างพระสิวลีและพระพุทธรูปที่ใต้ต้นโพธิ์ริมคลองสวนหมาก บริเวณดังกล่าวปกคลุมไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ และมีกุฏิพระอยู่ 4 หลังรวมทั้งกุฏิเจ้าอาวาส ซึ่งชาวบ้านมีความประสงค์ที่ต้องการให้สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่สำหรับปฏิบัติธรรมเป็นสวนป่า จึงได้ร่วมกันรักษาและพัฒนาเพื่อให้สถานที่เป็นที่พึ่งทางจิตใจและสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไปในอดีตพระมหาวิโรจน์อดีตรองเจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร หรือพระสุธี วัชโรดม ก็จำอยู่ที่วัดแห่งนี้ และไม่แน่ใจว่าท่านรักษาการเจ้าอาวาสอยู่ด้วยหรือไม่ในขณะนั้น นอกจากนี้บ้านท่านยังอยู่ด้านหลังของวัดนาบ่อคำ(วัดเก่า) หรือวัดท่าโพธิ์ แห่งนี้ซึ่งเป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านอีกด้วย/พิพัฒน์ จงมีความสุข รายงาน /เครือข่ายข่าว สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร