ไม่ยอมให้ข้าวแห้งตาย ชาวนาสามัคคีสูบน้ำเข้านา
หลังผ่อนคลายจาก โควิด-19 ต้องมาเจอกับภัยแล้ง ชาวนาสามัคคีร่วมกันสูบน้ำเขานา ก่อนข้าวแห้งตาย ระดมเครื่องมาสูบน้ำ จากคลองชลประทาน โดยช่วยผลัดเวรตั้งเครื่องสูบน้ำ 2 วัน 2 คืน รอบละ 10 เครื่อง ส่งน้ำเข้านาข้าวแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ข้าวเสี่ยงขาดน้ำแห้งตาย วันที่ 5 มิถุนายน 2563 จังหวัดกำแพงเพชรเป็นพื้นที่ทําการเกษตร 80 เปอร์เซ็นต์ จึงมีการใช้น้ำทางการเกษตรค่อนข้างมากและสายน้ำเป็นสายเลือดสำคัญที่หล่อเลี้ยงไร่นาพืชสวนของเกษตรกรชาวจังหวัดกำแพงเพชรและพืชเกษตรที่ต้องการน้ำในฤดูนี้ก็คือนาข้าวที่กำลังเขียวชะอุ่ม แต่กำลังขาดน้ำที่จะไปหล่อเลี้ยงต้นข้าวให้เจริญเติบโตต่อไปได้ และเสี่ยงต่อการขาดทุน และเป็นหนี้สินเกษตรกรชาวนา บ้านใหม่ฤทธิ์เจริญ หมู่ที่ 7 ตำบลคณฑี อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ที่กำลังประสบปัญหาภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วง ข้าวในแปลงนาเสี่ยงที่จะขาดน้ำแห้งตาย จึงได้ระดมเครื่องสูบน้ำจากคลองชลประทาน รับน้ำต้นทุนจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาวังบัว ซึ่งรับน้ำจากแม่น้ำปิงที่ส่งมาจากเขื่อนภูมิพลจังหวัดตาก ขณะนี้พอที่จะมีน้ำให้สูบเข้านา จึงทำให้ชาวนารู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก แต่เนื่องจากน้ำที่ส่งมาตลอดระยะเส้นทาง มีเกษตรกรสูบน้ำเข้าพื้นที่การเกษตรเช่นกัน ส่งผลให้ระดับน้ำปลายทางต่ำกว่าระดับท่อลอด จึงทำให้เกษตรกรชาวนา นำกระสอบทรายกั้นเป็นผนังรอบท่อลอด แล้วน้ำเครื่องสูบน้ำส่งไปตามคลองซอยเข้าพื้นที่การเกษตร ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ทำให้มีน้ำเข้านา นายบุญเพ็ง นรสาร เกษตรกรชาวนา เปิดเผยว่า ประสบปัญหาภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วง ส่งผลให้ข้าวที่เกษตรกรปลูกไว้ได้รับความเสียหายเสี่ยงแห้งตาย เกษตรกรจึงได้รวมตัวกันนำเครื่องยนต์ทางการเกษตร มาช่วยกันสูบน้ำจากในคลองส่งไปยังพื้นที่การเกษตรของตน ตกลงกันตั้งเครื่องสูบน้ำต้นทาง และปลายทาง จำนวน 10 เครื่อง สูบน้ำ 2 วัน 2 คืน โดยเกษตรกรเจ้าของเครื่อง เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเอง ซึ่งเป็นการบริหารจัดการไม่ให้เกิดการแย้งน้ำ ในการทำอาชีพเกษตรกรรม /เครือข่ายข่าว สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร