ผู้ว่าฯงัด พรก.และ มติ ครม.หากนายจ้างไม่รับแรงงานเคลื่อนย้ายกลับที่ตั้ง
จังหวัดกำแพงเพชร พบต่างด้าวถูกรถตู้โดยสารบรรทุกมาจากแหล่งต้นทางกรุงเทพฯและจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อมุ่งหน้าไปอำเภอแม่สอดจังหวัดตาก ระหว่างทางได้ทิ้งผู้โดยสาร ในปั๊มน้ำมัน และสถานีขนส่ง เนื่องจาก อ. แม่สอด จ.ตาก ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้าออก และปิดชายแดน ส่วนสาเหตุคาดเดินทางก่อนรัฐบาลประกาศเคอร์ฟิวจากกรณีที่ทางขนส่งจังหวัดกำแพงเพชร ได้ไปตรวจพบรถตู้โดยสารนำพาต่างด้าวมาจากจังหวัดกรุงเทพฯและจังหวัดสมุทรสาคร ได้ทิ้งผู้โดยสารซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาร์ ไว้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารตำบลนครชุม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร นอกจากนี้ยังพบผู้โดยสารอีกจำนวนหนึ่ง ถูกรถตู้ปล่อยทิ้งที่ปั๊มน้ำมันในเขตอำเภอคลองขลุงและเขตอำเภอเมืองกำแพงเพชร รวมต่างด้าวทั้งสิ้นที่ถูกรถตู้ลอยแพในครั้งนี้จำนวน 31 ราย ซึ่งจากการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่ด้วยกันหลายฝ่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กองกำลังรักษาความสงบภายในจังหวัดกำแพงเพชร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบพบว่าต่างด้าวเหล่านี้เป็นแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย และจากการคัดกรองตรวจอุณหภูมิของร่างกายพบว่าปกติ และได้ทำประวัติของชาวเมียนมาร์ทั้งหมดก่อนที่กักตัวไว้ เพื่อรอการดำเนินการส่งตัวกลับไปยังต้นทาง เนื่องจากไม่สามารถเดินทางเข้าไปยังจังหวัดตาก อำเภอแม่สอด ตามมติของทางจังหวัดตาก ที่ห้ามมีการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวในขณะนี้ ซึ่งมีการระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019
นายเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชรเปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่าได้รับรายงานจากขนส่งจังหวัดกำแพงเพชร ถึงกรณีผู้โดยสารชาวเมียนมาร์ถูกรถตู้โดยสารลอยแพ ที่สถานีขนส่งและปั๊มน้ำมัน โดยได้ร่วมกับประชุมหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบแรงงานต่างด้าวเหล่านี้ ก็พบว่าเป็นแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งแรงงานดังกล่าวประสงค์ที่จะกลับบ้านโดยไม่สนใจว่าเกิดอะไรขึ้น และไม่ทราบมาก่อนว่าที่ด่านชายแดนนั้น ถูกปิดและจังหวัดที่กำลังจะเดินทางนั้นไม่สามารถเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวได้ ด้านแนวทางการแก้ไขปัญหาทางผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เปิดเผยว่าได้ประสานย้อนกลับไปที่นายจ้างของต่างด้าวชาวเมียนมาร์ แจ้งให้ทราบว่าตามมติ ครม. และตาม พรก.ฉุกเฉินห้ามมีการเคลื่อนย้ายแรงงาน ฉะนั้นจึงให้นายจ้างนั้นรับแรงงานนั้นกลับไปยังที่ตั้ง รถที่โดยสารชาวเมียนมาร์มาก็จะมีความผิด พรบ. ขนส่ง หากนายจ้างไม่รับกลับไปนายจ้างก็ผิด พรก.ฉุกเฉิน ผิดมติ ครม. ซึ่งวันที่ 17 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมานั้นสั่งห้าม การเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว ส่วนการทยอกลับของแรงงานต่างด้าวนั้น คาดสืบเนื่องจากจะมีการประกาศเคอร์ฟิว จึงมีแรงผลักดันให้ แรงงานเหล่านี้ รีบกลับประเทศของเขา ซึ่งเขานี้ก็ไม่ทราบว่าปลายทางนั้น มีการปิดและห้ามเดินทางกันแล้ว ในเย็นวันนี้จึงได้สั่งการให้รองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร นายอำเภอขาณุวรลักษบุรี และกองกำลังทหาร ตั้งจุดสกัดคัดกรองรถโดยสารแรงงานต่างด้าวที่บนถนนพหลโยธินขาขึ้นสายเหนือ ตั้งแต่ค่ำคืนนี้ไปจนถึงพรุ่งนี้เย็น เพื่อทำความเข้าใจเนื่องจากว่าต่างด้าวแรงงานชาวเมียนมาร์ ที่กำลังเดินทางกลับนั้นไม่ทราบว่ามีการปิดเส้นทางไปแล้วและหากพบก็จะให้กลับไปยังที่ตั้งที่เดินทางมาทันที