ศาลกำแพงเพชร ต้นแบบคุ้มครองสิทธิ พื้นฐานผู้ต้องหาหรือจำเลย
ศาลจังหวัดกำแพงเพชร ต้นแบบขับเคลื่อนนโยบายยกระดับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน ยกระดับการคุ้มครองสิทธิและสภาพขั้นพื้นฐานของผู้ต้องหาหรือจำเลยที่เรือนจำกลางกำแพงเพชร นายอนันต์ คงชื่น ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดกำแพงเพชร ให้การต้อนรับ นายวีรศักดิ์ ขจีจิตร รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง หัวหน้าคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนนโยบายยกระดับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน โดยมี นายบำรุง จันทร์บ้านคลอง ผู้บัญชาการเรือนจำกลางกำแพงเพชร ได้จัดห้องประชุมภายในเรือนจำกลาง และได้คัดเลือกผู้ต้องขังระหว่างสอบสวนจำนวน 25 คน และจำเลยต้องขังระหว่างพิจารณา จำนวน 15 คน รวมทั้งสิ้น 40 คน เพื่อเข้าร่วมกิจกรรม การยกระดับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานๆ ตามนโยบายประธานศาลฎีกา ซึ่งคณะทำงานโดย นางมทินี ชโลธร ประธานที่ปรึกษาคณะทำงานฯได้กำหนดให้คณะทำงานลงพื้นที่เพื่อให้คำแนะนำและวางระบบแก่ศาลต้นแบบในด้านต่าง ๆ ซึ่งเป้าหมายตามโครงการหนึ่งคือ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้พิพากษากับผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ถูกคุมขังในเรือนจำ ซึ่งสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 6 คัดเลือกให้ศาลจังหวัดกำแพงเพชร เป็นศาลต้นแบบ ในการยกระดับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานๆ ตามนโยบายประธานศาลฎีกาในครั้งนี้โครงการนี้สืบเนื่องจากประธานศาลฎีกาได้วางนโยบายการบริหารศาลยุติธรรมประจำปี 2562-2563 มุ่งนั้นให้ความสำคัญในการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน โดยฉพาะผู้ต้องหาหรือจำเลย โดยการปรับปรุงและพัฒนากระบวนการปล่อยตัวชั่วคราวของศาล เพิ่มมาตรฐานการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนสำนักงานศาลยุติธรรมจึงได้จัดโครงการขับเคลื่อนนโยบายประธานศาลฎีกา ในการยกระดับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของผู้ต้องหาหรือจำเลย เพื่อคำเนินการให้นโยบายดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม คณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนนโยบายยกระดับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน ตามเป้าหมายเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามนโยบาย ดังนี้ 1. กำหนดให้การยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวสามารถทำได้โดยสะดวกรวดเร็ว 2.กำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการประเมินความเสี่ยงและการใช้วิธีการกำกับคูแลตามพระราชบัญญัติมาตรการกำกับและติดตามจับกุมผู้หลบหนีการปล่อยชั่วคราวง 3.ขยายเวลา ในการยื่นกำร้องปล่อยตัวชั่วคราวโดยปิดทำการในวันหยุดราชการ 4.จัดสถานที่ให้บริการประชชนอย่างเหมาะสม รวมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนอย่างถูกต้อง 5.จัดให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้พิพากษากับผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ถูกคุมขังในเรือนจำโดยเก็บข้อมูลผู้ต้องหาหรือจำเลยเพื่อประมินความเสี่ยงในการหลบหนีหรือยุ่งเหยิงพยานหลักฐานโดยไม่จำต้องพิจารณาตามบัญชีมาตรฐานหลักประกัน-ศาลอาจกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับที่อยู่ของผู้ถูกปล่อยชั่วคราวหรือสั่งให้ใช้อุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์หรืออุปกรณ์ติดตามตัว (EM) แต่งตั้งผู้กำกับดูแลผู้ถูกปล่อยชั่วคราวโดยไม่เรียกหลักประกันให้พิจารณาหลักประกัน ตามจำนวนที่เสนอ หากไม่เพียงพออาจขยายระยะเวลาการหาหลักประกัน โดยให้ปล่อยตัวชั่วคราวไปพลางก่อน-พิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราว โดยคำนึงถึงเหยื่ออาชญากรรม และความสงบสุขของสังคมควบคู่กันไปด้วยเสมอทั้งนี้เพื่อให้ทราบถึงหตุผลในการไม่ยื่นขอประกันตัว ผลกระทบและความดาคหวังในกระบวนการยุติธรรม อันเป็นการสร้างความข้าใจที่ถูกต้องคณะทำงานๆ มีความคาดหวังต่อการดำเนินการ เพื่อลดการเรียกหลักประกัน เพิ่มความปลอดภัยให้สังคม และลการคุมขังที่ไม่จำเป็นในทุกขั้นตอน อันเป็นการยกระดับการคุ้มครองสิทธิสรีภาพขั้นพื้นฐนของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ต้องหาและจำเลยโดยนายอนันต์คงชื่น ผู้พิพากษาหัวหน้ำศาลได้ดำเนินการตามนโยบายประธานศาลฎีกา และแนวทางตามที่คณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนนโนบาย โดยให้การคุ้มครองสิทธิสรีภาพขั้นพื้นฐานของผู้ต้องหาและจำเลย ที่มีอรรถคดีในจังหวัดกำแพงเพชร และเป็นศาลต้นแบบในเขตอำนาจสำนักงานอริบดีภาค 6 เพื่อความสงบสุขของสังคมต่อไป คณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนนโยบายยกระดับการคุ้มครองสิทธิสรีภาพชั้นพื้นฐานของประชาชนประกอบด้วยนายวีศักดิ์ ขจีจิตต์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนายเสถียร รุ่งทองคำกุล ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำสำนักประธานศาลฎีกานายบัลลังก์ จิระบุญศรี เลขานุการศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนางสุพิชฌาย์ ศิริวัฒนา สีตะสิทธิ์ ผู้พิพากษาศาลแขวงพระนครเหนือนายทศพล พิทักษ์เนตินัย ผู้พิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง และคณะอธิบดีผู้พิพากษาภาค 6 นายสุรชัย คอประเสริฐศักดิ์ รองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 6นายคมกริช ภัทรพิทักษ์ รองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 6นายสิทธิชัย ไชยเจริญ เลขานุการศาลยุติธรรมประจำภาค 6 / พิพัฒน์ จงมีความสุข กำแพงเพชร รายงาน