ซ่าส์จัดโชว์เก๋า ตบหน้าด้วยรองเท้า อาเข้าห้ามเจอสนับมือยับ เลยยิงสวนลดซ่าส์

ยิงกลางงานแต่งกระเจิง อ้างวัยรุ่นญาติห่างเจ้าบ่าวโชว์เก๋า รองเท้าตบหน้าหลานเจ้าสาว น้าออกห้ามถูกรุมสกรัมด้วยสนับมือ สู้ไม่ไหววิ่งเข้าบ้านเอาปืนมาสู้ยิงไป 1 นัด ขาเก๋าลายสักเต็มแผงอก เจอลูกปืน วิ่งเตลิดเลือดสาดไม่คิดชีวิตล้มดิ้น อาการแค่เจ็บ

มีเหตุยิงกันได้รับบาดเจ็บในงานแต่งงานแขกที่ร่วมงานเลี้ยงเผ่นกระเจิง มือปืนเป็น น้าเจ้าสาว ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นวัยรุ่นญาติห่างๆเจ้าบ่าว สาเหตุ โชว์ความเก๋า ใช้รองเท้าตบหน้าลูกหลานฝ่ายเจ้าสาว น้าเจ้าสาวออกมาห้าม ถูกรุมด้วยสนับมือ เลือดอาบ ก่อนวิ่งไปบ้านเอาปืนกลับมาสู้ต่อ หลานเจ้าบ่าววิ่งเข้าใส่เลยถูกชักปืนลูกซองสั้นยิงดิ้น กระสุนไม่เจาะเข้าที่สำคัญรอด

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2562 ช่วงเวลาเกิดเหตุเป็นเวลาเที่ยงวันในงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรส ที่บ้านเลขที่ 260 หมู่ที่ 7 หมู่บ้านนาหล่ม​  ตำบลหนองปลิง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร  ร.ต.ท.หญิงกชกร ดอกพิกุล พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร พร้อมด้วย พ.ต.ท.กิตติพงษ์ นิภาพร รองผู้กำกับสืบสวนฯ พ.ต.ท.วิษณุ แก้วขัน สารวัตรสืบสวนภูธรเมืองกำแพงเพชร พร้อมด้วยชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร ได้เดินทางไปที่บ้านที่เกิดเหตุพบว่ามีการจัดงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสขึ้นที่บริเวณบ้านหลังดังกล่าว

นอกจากนี้มีคนเจ็บชื่อนายชัยวัฒน์ สูงสันเขต อายุ 24 ปี บ้านอยู่หมู่ 7 วัดศรีโยธิน ตำบลเดียวกัน ได้รับบาดเจ็บถูกกระสุนปืนที่บริเวณข้อแขนและที่หน้าท้อง ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกำแพงเพชร   ส่วนปืนไม่ได้หนีไปไหน รอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ ชื่อนายธงชาติ มั่นคง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 254 หมู่ที่ 7 ตำบลตาขีด อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ ได้รับบาดเจ็บที่ปลายคิ้วขวาที่ดั้งจมูก และที่บริเวณหลังมือทั้งสองข้าง ถูกของมีคมเป็นแผลกว้าง ต้องเย็บหลาย 10 เข็ม เสื้อกางเกงเต็มไปด้วยคราบโลหิตของตัวเอง และตรวจยึดอาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก และปลอกเครื่องกระสุนขนาดเบอร์ 12 คาในรังเพลิงสวนกระสุนถูกยิงออกไปแล้ว จำนวน 1 นัด

เบื้องต้นมือปืนรายนี้ให้การว่าเป็นน้าของฝ่ายเจ้าสาว ที่กำลังมีงานกินเลี้ยง ปรากฏว่ามีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามามีเรื่องกับหลานฝ่ายเจ้าสาวภายในงาน อยู่ด้านข้างหลังเวที จึงได้เข้าไปห้ามปราม ผลปรากฏว่ากลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นหลานห่างๆกับฝ่ายเจ้าบ่าว ที่เข้ามาในงานนั้นกลับไม่ยอมฟัง และมีเรื่องชกต่อยกันชุลมุน ตนได้เข้าไปพยายามล็อคฝ่ายตรง เพื่อระงับเหตุ แต่ก็กลับถูกต่อยทำร้ายด้วยสนับมือจนล้มลุกคลุกคลาน  วิ่งหนีกลับเข้าไปในบ้าน และออกมาพร้อมกับอาวุธปืนไทยประดิษฐ์กระบอกที่ก่อเหตุ แต่ฝ่ายตรงข้ามก็ยังไม่ยอมรามือและตัวนายชัยวัฒน์ สูงสันเขต หัวโจก ได้วิ่งเข้าใส่จึงได้ยิงสวนไปจำนวน 1 นัด จนได้รับบาดเจ็บ และวิ่งผ่าเข้าไปในงานเลี้ยงแล้วไปล้มที่ถนนหน้าบ้านจากนั้นเพื่อนๆพาขึ้นรถกระบะนำส่งโรงพยาบาลดังกล่าว สำหรับฉนวนเหตุของเหตุการณ์ยิงกันงานแต่งในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากนาย (บอย นามสมมติ)อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นหลานของฝ่ายเจ้าสาว เล่าว่า ตนกลับน้องชายนั่งอยู่ จู่ๆ นายชัยวัฒน์ สูงสันเขต ก็เดินเข้ามาชี้หน้าถามว่ามึงเก๋าเหรอ ไอ้….ส…มึงเดี่ยวกับกูไหม

(บอย นามสมมติ) ตอบกลับไปว่าพี่ผมก็รู้จักกัน ไม่ทันขาดคำก็ถูกตบด้วยรองเท้าหลายครั้งที่ใบหน้า ถูกหยามศักดิ์ศรีกันขนาดนี้ ตนก็ยังเดินหนีออกมา และเล่าเหตุการณ์บอกกับญาติให้ทราบ แล้วให้ไปบอกกับน้าที่เป็นมือปืนในคดีนี้ จากนั้นก็ไปถามกลุ่มนายชัยวัฒน์ว่า มาตบหน้าทำไม กลุ่มนายชัยวัฒน์กำลังกลัดมันก็ลงมือรุมทำร้ายกันชุลมุน ซึ่งน้าพยายามเข้าระงับเหตุ สู้ไม่ได้ ล้มลุกคลุกคลานวิ่งหนีกลับไปเอาปืนที่บ้านใกล้ที่เกิดเหตุ ซึ่งนายชัยวัฒน์ก็ยังไม่ยอมวิ่งเข้าใส่ น้าจึงยิงสวนไป 1 นัด ได้รับบาดเจ็บ และรอตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ

นางหนึ่งฤทัย  สร้อยสุวรรณ​ อายุ 47 ซึ่งเป็นแม่ของเจ้าสาวบ้านที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่าขณะเกิดเหตุ กำลังจัดโต๊ะอาหารเลี้ยงแขกในงานฉลองมงคลสมรสลูกสาว ที่เวทีก็มีดนตรีกำลังแสดงอยู่ ขณะเดียวกันมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด เสียงดังสนั่น ทำให้แขกภายในงานแตกกระเจิง แล้วพากันกลับบ้าน เป็นเหตุการณ์ที่เรียกได้ว่าล้มงานกินเลี้ยงฉลองมงคลสมรสก็ว่าได้ ขณะเกิดเหตุตนนั้นตกใจเป็นลม ส่วนพวกวัยรุ่นที่มาก่อเหตุตนก็ไม่รู้จัก แล้วก็ไม่ได้เชิญมาร่วมงานเลี้ยง แต่อย่างใด และในงานแต่งลูกสาวครั้งนี้ได้จัดเตรียมโต๊ะกินเลี้ยงไว้จำนวน 40 โต๊ะ ปรากฏว่าแขกพากันแห่มาจนล้นงานจึงไม่รู้ว่าใครเป็นใคร หลังเกิดเหตุได้สั่งให้ยุติงานเลี้ยงและวงดนตรีทันที

เกี่ยวกับคดีนี้ พ.ต.อ.วรชิต จันทร์วงศ์  ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนได้เรียกพยานที่เกี่ยวข้องที่เห็นเหตุการณ์และกลุ่มวัยรุ่นที่โต้เถียงกันกลับญาติทางเจ้าภาพและมีหลายคนได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ นอกจากนี้กองพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจเก็บคราบเขม่าดินปืนจากผู้ก่อเหตุเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี และแจ้งข้อกล่าวหา นายธงชาติ มั่นคง อายุ 40 ปี ว่า”มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพา อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในมือง หมู่บ้าน ชุมชน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน”ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป //kppnews/ สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถินกำแพงเพชร