เหน็บสื่อ”หงอย”หลังตีแผ่ คดีละเมิดลิขสิทธิ์การ์ตูนดัง ส่วนแม่ลูกพิการ..หวั่นภัยมืด ขอค้าขายไม่ค้าความ
แชทคนมีสี เหน็บสื่อ”หงอย”หลังตีแผ่ แม่ลูกพิการ เหยื่อล่อซื้อลิขสิทธิ์ ล่าสุดหวั่นภัยมืด ยังไม่แจ้งความ ขอค้าขาย ไม่ขอค้าความ หาเงินเลี้ยงลูกพิการ
แม่ลูกพิการ เหยื่อล่อซื้อลิขสิทธิ์ หวั่นภัยมืด ยอมรับละเมิดรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขอค้าขาย ไม่ค้าความ ก้มหน้าสานตะกร้าเพื่อลูกพิการ ขอบคุณคนไทยใจดียอดสั่งเพิ่ม ลูกศิษย์ช่วยอุดหนุน ลูกค้าชม ลายดอกไม้สวยดี และมีข้อความว่อน เหน็บสื่อ”หงอย”หลังตีแผ่เรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวกำแพงเพชร ไปติดตามความคืบหน้ากรณีนางสาวคัคนางค์ เกตุวงษ์ อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 146/1 หมู่ 5 ต.ถ้ำกระต่ายทอง อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร แม่ค้าจักสานเส้นพลาสติกทำตะกร้าและสำหรับใส่ผลิตภัณฑ์กระป๋องกาแฟขาย เพื่อหาเงินเลี้ยงลูกพิการกล้ามเนื้ออ่อนแรงแต่เด็กวัย 5 ขวบ จากการที่มีสภาพชีวิตที่ดิ้นรนทำมาหากิน ทำให้ไปละเมิดภาพการ์ตูนโดเรม่อน ที่นำมาแปะติดกับตะกร้าสาน จนถูกทางบริษัทส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุมโดยวิธีการล่อซื้อ วิธีการผ่านทางแชทให้แม่ค้ารายนี้สานพลาสติกสำหรับใส่กระป๋องกาแฟจำนวน 20 ใบและประสงค์ให้ใส่ลายการ์ตูนดังกล่าว แต่ทางแม่ค้าทำได้แค่ 8 ใบเพราะไม่มีวัตถุดิบรูปการ์ตูนที่สั่งซื้อมาทางอินเตอร์เน็ต และวิธีการทำได้เรียนรู้มาจากทาง youtube หลังจากนั้นเมื่อทำเสร็จแล้วก็นำผลิตภัณฑ์ผสมลวดลายอื่นๆ ตามที่ล่อซื้อต้องการ รวมไปจนครบ 20 ชิ้น ส่งให้กับลูกค้าตามสั่ง จากนั้นก็ถูกจับกุมและนำไปสู่การดำเนินคดีและมีการไกล่เกลี่ยกันโดยยินยอมจำนำทองสมบัตรชิ้นสุดท้าย เสียเงินให้จำนวน 30,000 บาท ด้วยความตกใจและกลัวเนื่องจากถูกข่มขู่ขึ้นศาลติดคุกไม่มีใครดูแลลูกที่พิการจึงยอมเพราะทำผิดกฎหมาย
และหลังจากที่มีข่าวในหลายจังหวัดเกี่ยวกับคดีละเมิดลิขสิทธิ์ ทำให้ตนนั้นเกิดความคับข้องใจไม่สิ้นสุดข้อสงสัยว่ากระบวนการจับกุมนั้นถูกต้องหรือไม่ เพราะก่อนหน้าก็ไปนั่งขายอยู่แถวตลาด โรงพักและหน้าอำเภอ ทำไมไม่จับกุม แล้วก็มีผลิตภัณฑ์ที่ละเมิด รูปการ์ตูนอยู่ 2 ใบ ก็ให้นึกแปลกใจ และที่ลงโพสต์ในเฟรสก็เป็นภาพที่โพสต์นานแล้ว จึงไม่เข้าใจว่าเป็นความผิดที่ผ่านมา ใช่หรือไม่ หรือความผิดเพราะผู้สั่งล่อซื้อนำไปสู่การหาหลักฐานจากตนเองเพื่อจับกุม โดยตนแคปเจอร์การนสนทนาไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งยังเป็นประเด็นคาใจที่ยังอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อเรียกร้องหาความเป็นธรรมหรือไม่
ขณะเดียวกันทางกระทรวงยุติธรรมกำแพงเพชร ตำรวจภูธรพรานกระต่าย ฝ่ายปกครองอำเภอพรานกระต่าย เจ้าหน้าที่ทหารจาก กอ.รมน.จังหวัดกำแพงเพชร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกำแพงเพชร ได้เข้ามาช่วยเหลือและพร้อมที่จะดำเนินการฟ้องร้องคดีให้
เกี่ยวกับเรื่องนี้เหยื่อลิขสิทธิ์รายนี้เปิดเผยว่า ครอบครัวนั้นไม่มีเงินและไม่มีเวลาและไม่พร้อมที่จะไปค้าความโดยมีลูกพิการที่ต้องอุ้มกระเตงเพื่อที่จะไปขึ้นศาล เพื่อพิสูจน์ว่าพฤติกรรมการจับกุมนั้นชอบหรือไม่ชอบ เบื้องต้นในความคิดขอใช้วิชาชีพจักสานพลาสติกนี้ทำมาหากินเลี้ยงชีพเลี้ยงลูกอีก 2 คนจะดีกว่า ที่จะไปค้าความ นอกจากนี้ยังเปิดเผยว่ารู้สึก ถึงความไม่ปลอดภัยและหวั่นเกรงภัยมืด เนื่องจากครอบครัว มีกันเพียงแค่นี้
ส่วนผลิตภัณฑ์ต่างๆหลังจากที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมาแล้วก็ไม่ได้ทำลวดลายการ์ตูนขึ้นมาอีก คงทำเป็นเพียงลายดอกไม้เพราะไม่ทราบว่าจะไปละเมิดลิขสิทธิ์เอากับบริษัทอื่นจะเดือดร้อนอีก เกี่ยวกับเรื่องนี้ทำให้ยอดสินค้านั้นตกหรือไม่ เหยื่อลิขสิทธิ์เปิดเผยว่าต้องขอขอบคุณคนไทยใจดีที่หลังจากทราบข่าว ต่างก็มีออเดอร์ทางโซเชียล นอกจากนี้ก็ยังมีลูกศิษย์ที่ทราบข่าวต่างก็มาช่วยกันอุดหนุนคนละใบสองใบแล้ว เมื่อวานนี้ก็มียอดสั่งมาถึง 12 กล่องรวมเป็นเงิน 3,000 บาทพร้อมทั้งมีคำชมว่าเป็นลายดอกไม้ที่สวย ไม่จำเป็นจะต้องทำไปลวดลายอื่นเพราะสินค้ามีสภาพสวยและมีความคงทน นอกจากสานตะกร้าเลี้ยงชีพที่ทำตั้งแต่เช้าจนถึง 23.00 น.ถามว่าเหนื่อยไหม แม่ค้าตอบว่าเหนื่อยมากแต่ก็ต้องทนเพราะเป็นอาชีพสุจริต ส่วนรายได้เสริมก็จะไปเป็นวิทยากรบรรยายสอนกลุ่มอาชีพตามหมู่บ้านซึ่งมี อบต.เป็นเจ้าภาพตามแต่ปีงบประมาณ ก็จะมีรายได้ประมาณ 1,000 บาทถึง 3,000 บาทแล้วแต่จำนวนของผู้เข้าอบรม
หลังเหยื่อรายนี้เรียกร้องความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชนหลายสำนัก ที่ได้ตีแผ่ชีวิตจริงที่เกิดขึ้นให้สังคมได้รับรู้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น กลับมีข้อความ คนมีสีว่อนโซเชี่ยล ข้อความคล้ายจะชี้แจง และเหน็บแนมเสียดสีการทำหน้าที่ตีแผ่ของสื่อมวลชน ว่า / เอาอยู่/จะสร้างกระแส/เผอิญใบมอบอำนาจตัวจริง/ ตัวแทนจริง/ เงินเข้าบริษัทจริง/หงอยทั้งนักข่าว/ และผู้ร้องไปดูที่บ้านยังละเมิดอีกเพียบ / ข้อความนี้ถูกส่งไปในช่องไลน์แชทนักข่าวและหัวหน้าส่วนราชการ ทั้งนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นคนมีสีจริงหรือแชทปลอม โดยสื่อที่เกี่ยวข้องจะประชุมเข้าร้องต่อผู้บังคับการฯให้ตรวจสอบชัดเจนเพื่อดำเนินการสร้างความเข้าใจต่อการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนต่อไป