ข่าวรอบชากังราวข่าวเด่น

รมช.คมนาคม ลงพื้นที่กำแพงเพชร แก้ปัญหาแนวตลิ่งแม่น้ำปิงพัง

 

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางตรวจราชการ ปัญหาน้ำกัดเซาะตลิ่งพัง ในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร และโครงการขุดลอกแม่น้ำปิงเพื่ออุปโภคบริโภคและทางการเกษตร

วันที่ 11 สิงหาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึงเวลา 14.00 น .ดร.อธิรัฐ รัตนเศรษฐ  รมช.กระทรวงคมนาคม ได้เดินทางมาตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร และจังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ ผมม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า โดยเดินทางถึงจังหวัดกำแพงเพชร มี นายเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร นายอนันต์ ผลอำนวย, นายไผ่ ลิกค์ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ,นายปริญญา ฤกษ์หร่าย สส.จังหวัดกำแพงเพชร ต้อนรับพร้อมเดินทางไปติดตามงานนโยบายของรัฐบาล ในการสนับสนุนงบประมาณในการขุดลอกแม่น้ำปิง ในพื้นที่ตำบลวังแขม อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร

ตามที่ นายชัยวัฒน์ พันธ์วิทยากูล องค์การบริหารส่วนตำบลวังแขม ขอความอนุเคราะห์ขุดลอกแม่น้ำปิง บริเวณหมู่ที่ 1,2 และ 3 ตำบลวังแขม เนื่องจากเกิดการทับถมของตะกอนทราย เกิดสันดอนขนาดใหญ่ขวางทางน้ำ ทำให้ประชาชนไม่สามารถใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและทำการเกษตร กรมเจ้าท่า โดยสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 2      สำนักพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำ ได้เริ่มดำเนินการขุดลอกแม่ปิง ตำบลวังแขม อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวข้างต้น ปัจจุบันสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 2   ได้ดำเนินการขุดลอกแม่น้ำปิงแล้วเสร็จ ประชาชนสามารถใช้น้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคและเกษตรกรรมได้ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 19 เมษายน  ถึง 28 กรกฎาคม 2561 ความกว้างก้นร่องน้ำ 10 เมตร ความลึกที่ขุดลอก 44 เมตร จากระดับน้ำทะเล         ปานกลาง ได้ระยะทาง 400 เมตร ปริมาณวัสดุขุดลอก 66,865.87 ลูกบาศก์เมตร ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2561 ถึง 23 กุมภาพันธ์ 2562 ได้ระยะทาง 550 เมตร ปริมาณวัสดุขุดลอก 90,060.85 ลูกบาศก์เมตร ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ถึง 15 กรกฎาคม 2562 ระยะทาง 400 เมตร ปริมาณวัสดุขุดลอก 38,608.45 ลูกบาศก์เมตร เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวข้างต้น ปัจจุบันสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 2            ได้ดำเนินการขุดลอกแม่น้ำปิงแล้วเสร็จ ประชาชนสามารถใช้น้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคและเกษตรกรรมได้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางต่อไปที่ตำบลเทพนคร และได้ ไปยังจุดที่เป็นปัญหาความเดือดร้อน นั่นก็คือบริเวณริมตลิ่งแม่น้ำปิง ซึ่งพบร่องรอยการพังทลาย ระยะ 4 กิโลเมตร 500 เมตร อยู่ระหว่าง 2 หมู่บ้าน คือหมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 16 เดิมริมตลิ่งจะมีบ้านเรือนของราษฎรอยู่ประมาณ 5-6 หลัง น้ำกัดเซาะตลิ่งพังจนต้องโยกย้ายออกจากพื้นที่ และล่าสุด กินมาถึงบริเวณถนนสาธารณะ ซึ่งจะกระทบต่อการสัญจรและกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวัน รวมทั้งพื้นที่ทำการเกษตร นายนเรศ อินทปัตย์ นายกเทศมนตรีตำบลเทพนครได้ยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือผ่านไปยังรัฐบาล นายสมศักดิ์ ผมม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่าการช่วยเหลือในระยะสั้นต้องดูดทรายชายฝั่งตรงข้ามแม่น้ำปิงที่ทับถมจนเป็นสันดอนมา มาถมฝั่งที่ตลิ่งพังและการดูดทรายจะช่วยเปลี่ยนทางน้ำไหลลดการกัดเซาะริมตลิ่ง  และแผนระยะยาวต้องจัดสรรงบประมาณ ทำเขื่อนตลิ่งหินทิ้งอย่างถาวร ซึ่งรัฐมนตรีช่วยได้พบปะและนำปัญหาเข้าสู่ ครม.เพื่อดำเนินการต่อไป หลังจากนั้นเดินทางไปในพื้นที่ อำเภอโกสัมพีนคร พบปัญหาเดียวกัน คือน้ำกัดเซาะตลิ่งพัง นางสาวนภัสวรรณ บุตรดี นายก อบต.ลานดอกไม้ตก เปิดเผยว่าบริเวณดังกล่าว เป็นแนวตลิ่งริมแม่น้ำปิงซึ่งมีการทรุดพังเป็นระยะทาง 2 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ริมถนนระหว่างบ้านอยู่ที่ 1 กับหมู่ 8 แนวทางแก้ไขของคือการจัดทำเขื่อนป้องกันตลิ่งพัง และทำลายเกาะกลางแม่น้ำเพื่อเปลี่ยนทางน้ำไหล ไม่ให้พุ่งมาที่แนวตลิ่ง จากปัญหาน้ำท่วมใหญ่ในปี พ.ศ.2554 กินระยะพื้นที่เข้ามายังฝั่ง 20เมตร​ ส่งผลให้บ้านเรือนที่อาศัยอยู่ริมตลิ่งต้องอพยพออกจากพื้นที่ ขณะที่ นายนิตพิฐพนธ์ คูรัตนศิริ​ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทรงธรรม ได้ยื่นหนังสือ ปัญหาเดียวกันของตำบลทรงธรรมบ้านไร่เหนือ ระยะการแนวตลิ่งยาว 3 กิโลเมตรติดต่อกับเขตของตำบลลานดอกไม้ ซึ่งท้องถิ่นได้แก้ปัญหาระยะสั้น โดยการนำต้นยูคา ปักเป็นแนวเขตและทรายใส่กระสอบทิ้งเป็นแนวยาว 120 เมตร ลดการกัดเซาะ ที่กินพื้นที่แผ่นดินหายไปเป็นระยะ 8 เมตร​ ส่งผลกระทบซึ่งก็คือถนนในการสัญจรสำคัญของหมู่บ้าน และบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ตามแนวตลิ่ง นางสาวมัชฌิมา จันทราพร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโกสัมพี ยื่นหนังต่อรัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการจัดสร้างถนนหลายโครงการในเขต อบต.โกสัมพี ขอความอนุเคราะห์ติดตามงบประมาณที่ขอรับการสนับสนุนอุดหนุนเฉพาะกิจประจำปีงบประมาณ 2562 เป็นเงินจำนวนกว่า 9 ล้านบาท เป็นงบที่อุดหนุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของหมู่บ้านซึ่งเป็นงบประมาณที่ตกค้างในรัฐบาลที่ผ่านมา จึงได้เรียนหนังสือเพื่อที่จะให้ได้งบประมาณมาพัฒนาท้องถิ่นได้ให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากรัฐต่อไป ในโอกาสเดียวกันนี้ นายสดุดี พุทธัง นายอำเภอโกสัมพีนครหน้ารายงานความต้องการของราษฎรในพื้นที่ที่ต้องการให้มีสะพานข้ามระหว่างแม่น้ำปิงทั้งสองฝั่ง เนื่องจากอำเภอโกสัมพีนครมีพื้นที่ถูกแม่น้ำปิงผ่ากลาง แบ่งพื้นที่เป็นสองฝั่ง การสัญจรไปมาในการติดต่อราชการกับทางอำเภอก็ยากลำบาก เนื่องจากต้องอ้อมไปยังสะพานที่ข้ามแม่น้ำปิงที่อยู่ไกล นับสิบ ยี่สิบกิโลเมตร สิ้นเปลืองทั้งค่าใช้จ่ายและยังกระทบต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวและความปลอดภัย หากมีสะพานก็จะสามารถเชื่อมทั้งสองฝั่งไปมาหาสู่กันง่ายขึ้น เกิดความคล่องตัวและยังติดกับถนนสายเอเชียระหว่างกรุงเทพฯเชียงใหม่ ก็สามารถส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่ได้อย่างดีถ้าหากมีสะพานข้ามแม่น้ำปิง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า