ไม่มีหมวดหมู่

ร้องรัฐมนตรีพาณิชย์ อคส.ไม่จบ ผลัดวันประพรุ่ง ค้างจ่ายค่าเช่าโกดังเก็บข้าว โครงการรับจำนำรัฐบาลกว่า 467 ล้านบาท

เอกชนโวย อคส.เบี้ยว ค่าเช่า กว่า 467 ล้านบาท ยังทิ้งข้าวในความดูแลเน่าเสียหายถึง 30 ล้านบาท  

โรงสีรับจำนำข้าวโครงการรัฐบาล แฉแหลก อคส.เบี้ยว อีกแล้ว รับปากเป็นมั่นเหมาะ ข้าวในโกดังหลังที่ 2 ขอนำออกไปขาย ซึ่งเปิดประมูลไปแล้ว และรับปากจะจ่ายค่าเช่าจำนวน 19 ล้านบาท ผ่านมา 15 วัน เงียบเป็นเป่าสาก จนไม่ไว้วางใจ  อคส. อีกต่อไป ซึ่งยังคงค้างค่าเช่าทั้งหมดกว่า 467 ล้านบาท และไม่ทำสัญญาเช่าโกดังอีก 2 แห่ง และไม่ต่อท้ายสัญญาเช่า ในสัญญาหลัก ที่เอาข้าวมาเก็บเพิ่ม  จึงไม่ยอมให้เอาข้าวออกจากโกดัง จน ทาง อคส. ต้องยกเลิกการประมูลข้าวทั้งหมดจำนวน 1 แสน 4 หมื่นตัน ที่อยู่ในโกดัง ทั้งหมด วันนี้ได้เชิญสื่อมวลชนตรวจสอบกองข้าวเน่าอีกกว่า 30,000 กระสอบเป็นเงินกว่า 30 ล้านที่ อคส.ปล่อยทิ้งไม่เก็บเข้าโกดังวันนี้วันที่ 6 สิงหาคม 2562 เวลา 14.00 น.. ที่บริษัทสิงโตทองไรซ์คอร์ปอเรชั่น จำกัด ตำบลธำมรงค์ อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร นายมนต์ชัย รุ่งชาญชัย เจ้าของโกดังให้เช่าเก็บสินค้าในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล โดยองค์การคลังสินค้าผิดสัญญาเช่าคลังสินค้า (อคส.)และค่าแรงกรรมกร เนื่องจากองค์การคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์ อนุมัติให้เช่าคลังสินค้าของบริษัท สิงห์โตทองไรซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2557 เป็นต้นมา เพื่อเก็บข้าวสารจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล มาเก็บรักษาไว้ในคลังสินค้าของ บริษัท สิงห์โตทองไรซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด จำนวน 18 หลัง จนทางบริษัทได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกำแพงเพชรถึง 2 ครั้ง ว่า อคส. ยังคงค้างค่าเช่าคลัง และมีสองโกดังที่ยังไม่ได้ทำสัญญาเช่าและไม่ต่อท้ายสัญญากรณีนำเข้ามาเก็บเพิ่มกับทางบริษัท รวมแล้วที่ทำสัญญาเช่ายังคงค้างอยู่ 350,508,928 บาทและในส่วนที่ยังไม่จัดทำสัญญาเช่าค้างอยู่อีก 117, 115,057 บาท จึงสรุปว่ายังคงค้างค่าเช่าคลังสินค้าทั้งหมดรวม 467,623,985 บาท ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2562  พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า ได้เชิญบริษัทเข้าร่วมประชุมกับผู้บริหารองค์การคลังสินค้าเพื่อหารือแก้ไขปัญหาดังกล่าว ที่องค์การคลังสินค้าชั้น 9 ที่ประชุมสรุประงับการระบายข้าว ที่ยังคงค้างอยู่ในโกดังของบริษัทสิงห์โตทองไรซ์คอร์ปอเรชั่น จำกัด และในส่วนที่ไม่มีสัญญาเช่าคลังและบันทึกต่อท้ายสัญญาจนกว่าจะได้รับการแก้ไขปัญหา ซึ่งในที่ประชุมได้ของดเว้นโกดังเก็บข้าวหลังที่ 2 ซึ่งมีข้าวอยู่จำนวน 16,000 ตันเป็นข้าวที่คุณภาพอย่างดีสามารถระบายเป็นข้าวชนิดดีทั่วไปได้ ทางบริษัทเห็นว่าเป็นประโยชน์ของรัฐและหากเก็บไว้ข้าวก็จะเสื่อมคุณภาพ จึงยอมให้ อคส. นำข้าวออกไปจำหน่ายได้  แต่ อคส.จะต้องทำบันทึกต่อท้ายสัญญาและชำระค่าเช่าคลังที่ค้างจ่ายทั้งหมดของโกดังหลังที่ 2  ให้กับบริษัท จำนวน 19 ล้านบาท และได้ผู้ประมูลไปแล้วเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา จนขณะนี้ล่วงเลยมาแล้ว 15 วันปรากฏว่า ทางบริษัทยังคงไร้การติดต่อจาก อคส.ซึ่งคาดว่าจะถูกเบี้ยวเหมือนกับที่ไม่ยอมจ่ายค่าเช่าโกดังคลังสินค้า ทั้งหมดให้กับทางบริษัทฯ ซึ่งต่างกับ อตก.ที่มีสัญญาณแบบเดียวกันแต่ อตก. ต่างกับ อคส. ที่จ่ายชำระค่าเช่าให้กับคลังสินค้าทั้งหมดโดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ปัญหาดังกล่าวเป็นความเดือดร้อนทางภาคเอกชน ที่หน่วยงานภาครัฐมีพฤติกรรม   ไม่จ่ายค่าเช่าคลังสินค้า ไม่ทำสัญญาค่าโกดัง ไม่ต่อท้ายสัญญาเช่าในสัญญาหลักของโกดังที่นำเข้ามาเก็บเพิ่ม และยังลูกเล่นหลอกล่อ ให้บริษัทยินยอมปล่อยข้าวในโกดังที่ 2 โดยอ้างจะจ่ายค่าเช่าและต่อท้ายสัญญาให้สำหรับโกดังหลังนี้ จนปัจจุบันก็ยังคงเพิกเฉย และได้กล่าวถึงรักษาการผู้อำนวยกา อคส.คนปัจจุบัน ที่ไม่ยอมทำหน้าที่ ปล่อยให้ปัญหาสร้างความเดือดร้อนให้กับองค์กรและหน่วยงานภาคเอกชน เพียงรักษาการตำแหน่งเพื่อรอเกษียณอายุราชการเท่านั้น นายมนต์ชัย รุ่งชาญชัย เจ้าของโกดังคลังสินค้าบริษัทสิงห์โตทองไรซ์คอร์ปอเรชั่น จำกัด ยังได้แฉต่อ และพานักข่าวไปพิสูจน์กองข้าวเน่า ซึ่งเป็นข้าวที่อยู่ในความดูแลของ อคส.ที่ทางอคส. ไม่นำเข้าโกดัง ส่งผลให้ข้าวเสียส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว ถูกปล่อยทิ้งให้ตากแดดตากลมตากฝนนานถึง 4 ปี ข้าวดังกล่าวเป็นทรัพย์สินของรัฐและทางบริษัทฯ ได้ออกหนังสือหลายฉบับแจ้งให้ทราบและมาแก้ไขนำเข้าเก็บในโกดังและรักษาคุณภาพข้าว แต่เพิกเฉยจนข้าวเสียหายมีมูลค่ากว่า 30 ล้านบาทจากกรณีดังกล่าวทางบริษัทสิงห์โตทองไรซ์คอร์ปอเรชั่น จำกัด ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากภาครัฐ  กระทบธุรกิจ ที่มีต้นทุน และ ขาดสภาพคล่อง ส่งผลแบงค์ขาดความมั่นใจปล่อยกู้ ในวันนี้จึงฝากความหวังไว้กับรัฐบาลใหม่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และฝากถึง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ช่วยเหลือให้ความเป็นธรรมกับภาคเอกชนจากภาครัฐ และมาตรวจสอบพิสูจน์ได้ที่โกดังคลังสินค้าของบริษัท และขอให้ช่วยนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบกองข้าวเน่า ที่ถูกทิ้งไว้ให้เสียหายว่าเป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานใด เพราะรัฐเป็นผู้เสียหาย ส่วนทางโรงสีก็ได้รับผลกระทบทางชื่อเสียงเนื่องจาก กองข้าวดังกล่าวนั้นถูกนำไปวิพากษ์วิจารณ์ว่า โรงสีทำข้าวของรัฐเน่าเสียหาย จึงฝากไปยัง สตง.ให้เข้ามาตรวจสอบเพื่อนำคนผิด ไปลงโทษให้ได้ 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า