แห่ผ้าห่ม ผ้าพระธาตุพนม สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แดนอีสาน
คณะแสวงบุญจากจังหวัดกำแพงเพชร เดินทางทำบุญทางภาคอีสาน ร่วมทำบุญห่มผ้าพระธาตุ พนม สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ อีกแห่งหนึ่งที่ใครพลาดโอกาสแล้วต้องหาเวลาไปให้ได้ พระธาตุพนมไม่เพียงแต่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวนครพนมเท่านั้น พระธาตุพนมยังเป็นที่เคารพของชาวไทยภาคอื่น ๆ และชาวลาวอีกด้วย ว่ากันว่าถ้าใครได้มานมัสการพระธาตุครบ 7 ครั้ง จะถือว่าเป็น “ลูกพระธาตุ” เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและจะมีความเจริญรุ่งเรือง หรือแม้แต่การได้มากราบพระธาตุพนม 1 ครั้ง ก็ถือเป็นมงคลแก่ชีวิตแล้วคณะแสวงบุญจากจังหวัดกำแพงเพชร เดินทางไปวัดแหงนี้ ด้วยระยะทาง 608 กิโลเมตร วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ในเขตอำเภอธาตุพนม ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 50 กิโลเมตร ผลจากการขุดค้นทางโบราณคดีลงความเห็นว่าพระธาตุพนมสร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ. 1200–1400 ตามตำนานกล่าวว่าผู้สร้างคือ พระมหากัสสปะ พระอรหันต์ 500 องค์ และท้าวพระยาเมืองต่าง ๆ ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ ลักษณะของสถาปัตยกรรมมีแหล่งที่มาที่เดียวกันกับปราสาทของขอม และได้ทำการบูรณะเรื่อยมา ในปี พ.ศ. 2485 ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกขึ้นเป็น “วรมหาวิหาร”เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2518 เวลา 19.38 น. พระธาตุพนมได้ล้มทลายลงทั้งองค์ เนื่องจากความเก่าแก่ขององค์พระธาตุพนมและประจวบกับระหว่างนั้นฝนตกพายุพัดแรงติดต่อกันมาหลายวัน ประชาชนทั้งประเทศได้ร่วมบริจาคทุนทรัพย์และรัฐบาลได้ก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นใหม่ตามแบบเดิม การก่อสร้างนี้เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2522 นอกจากพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุในองค์พระธาตุแล้ว ยังมีของมีค่ามากมายนับหมื่นชิ้น โดยเฉพาะฉัตรทองคำบนยอดพระธาตุรอบๆ ฐานพระธาตุพนมเขตกำแพงแก้วรอบลานประทักษิน ก็จะมีกำแพงอีกชั้นหนึ่งด้วย กำแพงชั้นในนี้จะไม่อนุญาตให้ประชาชนเข้าไปครับ ซุ้มประตุทั้ง 4 ทิศจะปิดไว้ทั้งหมด ก็จะมีเจ้าหน้าที่เท่านั้นที่จะเข้าไปทำการห่มผ้าพระธาตุ ปัจจุบันองค์พระธาตุมีฐานกว้างด้านละ 12.33 เมตร สูง 53.60 เมตร เป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมสูงแลดูสง่างาม งานนมัสการองค์พระธาตุเริ่มตั้งแต่วันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 3 ถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี พระธาตุพนมถือเป็นพระธาตุปีเกิดของคนเกิดปีวอก และเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้เกิดวันอาทิตย์ประเพณีการห่มผ้าพระธาตุพนมครั้งแรกเมื่อวันที่ 13พฤศจิกายน พ.ศ.2498 โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินมายังวัดพระธาตุพนม ได้เข้าสักการ พระมารวิชัยศาสดา พระประธาน ณ พระวิหารหอพระแก้ว เสร็จแล้วพระราชดำเนินไปยังองค์พระธาตุพนม เพื่อสักการะองค์พระธาตุพนม ถวายผ้าแพร สีชมพู ห่มองค์พระธาตุพนม และถวายต้นดอกไม้เงิน ดอกไม้ทอง บูชาพระธาตุพนม ในกาลครั้งนี้ด้วย
อานิสงส์การถวายผ้า เพื่อเป็นพุทธบูชา หรือผลบุญที่พุทธศาสนิกชนผู้มีศรัทธาความเชื่อ ปสาทะความเลื่อมใสในบวรพระพุทธศาสนา จะได้รับจากการทำบุญด้วยการถวายผ้า เกิดบนสวรรค์ มีผิวพรรณงดงาม มีทรัพย์สมบัติน่ายินดีพอใจ ได้เกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จักเป็นผู้มีผิวพรรณงดงามดั่งทองคำ ทำให้เป็นผู้บริบูรณ์ พรั่งพร้อมด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์คุณสรวิชญ์ คุณธัญวลัย ธันยบูรณ์สถาพร คุณมนต์ชัย คุณธัญญา รุ่งชาญชัย รุ่งชาญชัย คุณรัชนี อัศวสุธีวรกุล คุณสมพิศ แก้ว คุณชมดี สุทธะมุสิก คุณอรุณศิริ เพชรพลาย คุณอรสา วัฒนศิริ, คุณจงพร ทวีผล คุณสิริมง สุขวัฒน์ คณะกรรมการเหล่ากาชาดอีกหลายท่าน ร่วมเป็นเจ้าภาพถวายผ้าห่มพระธาตุ ด้วยการลงนามในผ้าห่มพระธาตุความยาวประมาณ 60 เมต การทำบุญ“ ห่มผ้าพระธาตุพนม เพื่อเป็นสิริมงคลในชีวิต” พิธีห่มผ้าพระธาตุพนมอันศักดิ์สิทธิ์นี้จะส่งผลบุญให้เกิดความสงบสุขร่มเย็นแก่ตนเองและครอบครัว อีกทั้งเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวรอีกด้วย //สถานีข่าวออนไลน์ kppnews.net สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นจังหวัดกำแพงเพชร 19พฤศจิกายน 2561