คดียิงโจ๋โกสัมพี ตร.สอบมือปืนสองคนสารภาพแค่คนเดียว
ตำรวจชุดสืบโกสัมพีนครสามารถพิชิตคดียิงโจ๋กลางดึก อย่างอุกอาจได้ กลุ่มมือปืน 2 คน ทำปากแข็งแต่ตำรวจมีหลักฐานมัดแน่น
จากกรณีเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2561 เวลา 20.00 น.ได้เกิดเหตุใช้อาวุธยิงกันเสียชีวิตโดย ร.ต.อ.วัลลภ จันทร์สิงห์ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรโกสัมพีนครได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายไกร เรืองอนันต์ อายุ 18 ปี ถึงแก่ความตาย เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 122/4 ม.14 ตำบลโกสัมพี อำเภอโกสัมพีนคร จังหวัดกำแพงเพชร บริเวณลำตัวด้านหน้าคมกระสุน 7 นัด 
คดีดังกล่าวเป็นที่สนใจของประชาชนทั่วไป พล.ต.ต.จารึก ลิ้มสุวรรณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร ,ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ศิระ ศรีศรากร ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรโกสัมพีนคร ได้เร่งรัดคดีติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมายอย่างเร่งด่วนโดยสั่งการให้ พ.ต.ท.เชาวลิต รัมวุฒิ รองผู้กำกับสืบสวนสถานีตำรวจภูธรโกสัมพีนคร ร่วมกับชุดสืบสวนกองกำกับการภูธรจังหวัดกำแพงเพชร ออกสืบสวนหาเบาะแสคลี่คลายคดี และจากแนวทางการสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ ด้วยความร่วมมือของ พ.ต.อ.การุณ วงศ์จันทรมณี ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรวังเจ้า จังหวัดตากและชุดสืบสวน สามารถเข้าจับกุมตัวนายสันติสุข หรือไหม่ สินอุดมอายุ 24 ปีอยู่บ้านเลขที่ 291 หมู่ที่ 2 ตำบลโกสัมอำเภอโกสัมพีนคร จังหวัดกำแพงเพชร พร้อมของกลาง อาวุธปืนลูกซองสั้น ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก ปลอกกระสุน 1 ปลอก กระสุน ขนาด 9 มม.จำนวน 40 นัด และนายวรวิทย์หรือแกะไพโรจน์ อายุ 31 ปี ได้กลางตลาดวังเจ้า พร้อมของกลาง อาวุธปืนออโตเมติก ขนาด 9 มม.ยี่ห้อซีแซด จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน 15 นัด เสื้อผ้า รองเท้า รถ จยย.คันที่ใช้ก่อเหตุ 1 คัน
ได้ตั้งข้อกล่าวหา กระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก พร้อมปลอกกระสุนที่ยิงแล้ว 1 นัด อาวุธปืนสั้นรีวอลเวอร์แบบบีบีกันบรรจุกระสุนขนาดจุด 38 มม 1 กระบอก กระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 40 นัด กระเป๋าสะพายลายพรางทหาร 1 ใบกระเป๋าสะพายสีน้ำเงิน 1 ใบกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน 1 ตัวเสื้อยืดสีดำ 1 ตัวเสื้อเชิ้ตสีดำลายขาวตรง 1 ตัวรองเท้าผ้าใบสีดำพื้นขาว 1 คู่กระเป๋าสะพายสีดำสำหรับใส่ Notebook 1 ใบเอาไว้เป็นหลักฐานซึ่งได้ตรวจค้นของกลาง พบซุกซ่อนอยู่ใต้ที่นั่งคนขับรถการเกษตรแบบไถเดินตามของนายสันติสุข 
เบื้องต้นจากการสอบปากคำนายสันติสุขได้ให้การรับสารภาพว่าเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2561 เวลา 20 .00 น.ขณะนั่งดื่มเบียร์อยู่ที่ร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ในตลาดอำเภอวังเจ้า นายวรวิทย์หรือแกะได้ขับรถจักรยานยนต์มา ขอให้มานั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปเป็นเพื่อนหน่อย หลังจากนั้นก็ได้ขับไปที่บ้านของนายเรืองอนันต์ผู้เสียชีวิต ขับรถจักรยานยนต์วนตรวจสอบก่อนแล้วเลี้ยวกลับมาจอดรถ นายแกละได้เดินเข้าไปในบ้านของนายไกรผู้เสียชีวิต จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนขึ้นดังหลายนัด ก่อนที่นายแกะจะวิ่งออกมา และตนมีอาวุธปืนลูกซองสั้นได้ใช้ยิงมั่วๆไปทางบ้านผู้ตายไป 1 นัด แล้วตนก็ขับรถจักรยานยนต์ พากันหลบหนี ระหว่างทางแวะไปหาเพื่อนซื้อเบียร์มา 1 ลัง 12 ขวดดื่มกินกันจากนั้นก็ขับรถจักรยานยนต์พานายแกะกลับบ้านจนเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมตัวดังกล่าว
เบื้องต้นนายสันติสุขนั้นให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนนายวรวิทย์หรือแกะได้ให้การภาคเสธโดยให้การว่า กินเหล้าไปก่อน 2 ขวด เมาไม่รู้เรื่อง พร้อมกล่าวหาว่า นายสันติสุขเป็นคนยิงเพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งตนเมาอย่างหนักและยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธปืนยิงนายไกรเสียชีวิต อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับส่งตัวให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรโกสัมพีนครนำตัวไปสอบสวนขยายผลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผู้ตายกับผู้ต้องสงสัยทั้งสอง รู้จักกันดี ผู้ตายเคยทำงานเป็นช่างอู่ซ่อมรถที่เดียวกับนายสันติสุข และร้านซ่อมอยู่ใกล้กันกับร้านขายของเก่ามือสองของนายวรวิทย์หรือแกะ เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ประกอบกับผู้ตายเป็นนักเลงพอสมควร จึงคาดว่าจะตามล้างแค้นกัน ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้สอบสวนขยายผลหาข้อเท็จจริงต่อไป
สำหรับผู้เสียชีวิตญาติกำหนดประชุมเพลิงวันนี้พร้อมถามเจ้าหน้าจะทำแผนผู้ต้องหาประกอบคำรับสารภาพเมื่อไหร่วันไหน เนื่องจากต้องการดูหนัามือปืน. ซึ่งทางพนักงานสอบยังสอบปากคำผู้ต้องสงสัยเนื่องจากรับสารภาพเพียงคนเดียวแต่อ้างว่าตัวเองไม่ได้ยิงโดยกล่าวหาว่ากันไปมา ตำรวจจึงต้องรวบรวมพยานหลักฐานจึงยังไม่กำหนดทำแผน/ชมรมสื่อมวลชนส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร
