ขนส่งจ่อเอาผิดแจ้งข้อหา เจ้าของรถตู้อย่างสด 9 ศพ
วันที่ 22 ตุลาคม 2561 นายสุรชัย ทับยาขนส่งจังหวัดกำแพงเพชร ได้รายงานให้นายเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ได้รับทราบความคืบหน้า กรณีรถตู้ พาผู้โดยสารไปชนกับต้นไม้ริมทาง จนเกิดเหตุเศร้าสลด ชาวเมียนมาร์ เสียชีวิตในกองเพลิง อย่างทรมาน สะเทือนใจเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ได้จ่อเอาผิดบังคับใช้กฎหมายกับ นายคมวัฏ แซ่พู ที่เป็นทั้งผู้ประกอบการขนส่ง และเป็นผู้ขับรถความรับผิดในฐานะเป็นผู้ขับรถ
กรณีรับบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่งผู้โดยสารที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตประกอบการขนส่ง (กำหนดผู้โดยสารไว้ไม่เกิน 12 คน) แต่บรรทุกผู้โดยสาร 14 คน รวมทั้งคนขับรถด้วยรวมเป็น 15 คน จึงเป็นความผิดตามมาตรา 107 กรณีรับบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่งผู้โดยสารที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตประกอบการขนส่ง จึงต้องระวางโทษตามมาตรา 127 กรณีผู้ปฎิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถฝาฝื่นหรือไม่ปฎิบัติตามมาตรา 107 ต้องระวางโทษไม่เกิน 5,000 บาท และกรณีนี้เป็นการขับรถที่ก่อให้อุบัติเหตุร้ายแรงจนทำให้มีบาดเจ็บ 6 รายและเสียชีวิต 9 ราย จึงเห็นควรให้พักใช้ใบอนุญาติเป็นผู้ขับรถทุกประเภท ชนิทที่ 2 เลขที่ใบอนุญาต กาญจนบุรี 00155/57 จะสิ้นอายุ 18/06/2560 จึงจะได้ทำหนังสือแจ้งนายทะเบียนประจำจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
กรณีเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตปฎิบัติหน้าที่เป็นผู้ขับรถต้องใช้อุปกรณ์และส่วนควบของรถ หรืออุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็นตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่ เครื่องGPS แต่ไม่ใช้GPS เชื่อมต่อกับศูนย์ GPS จึงเป็นการไม่ปฎิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัยในการขนส่ง พ.ศ. 2558 ข้อ 5 (2) (ง) และผู้ประจำรถยังไม่ปฎิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัย ตามมาตรา 102 (4) ต้องระวางโทษตามมาตรา 127 ซึ่งกำหนดให้ผู้ประจำรถผู้ใดฝ่าฝีนหรือไม่ปฎิบัติตามมาตรา 102 (4) ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท
ความรับผิดในฐานะเป็นผู้ประกอบการขนส่งผู้โดยสารไม่ประจำทาง
กรณีผู้ประกอบการขนส่งไม่ควบคุม กำกับ ดูแลผู้ขับรถทำให้มีการบรรทุกผู้โดยสาร 14 คน เกินจำนวนที่นั่ง 12 ที่นั่ง นอกจากลงโทษเปรียบเทียบปรับตามข้อหาความผิดแล้ว ให้นายทะเบียนประจำจังหวัดที่พบการ กระทำความผิด (นายทะเบียนประจำจังหวัดกำแพงเพชร) พิจารณาสั่งระงับใช้รถ กรณีกระทำความผิดครั้งแรก ให้สั่งระงับใช้รถเป็นเวลาไม่เกิน 15 วัน ตามนัยข้อ 3 (1) ตามหนังสือกรมการขนส่งทางบกที่ คค 0408/ว.326 ลว. 12 เมษายน 2560 เรื่อง ซักซ้อมการดำเนินการเกี่ยวกับการเพิกถอนการจดทะเบียนรถ ระงับใช้รถหรือพักใช้ใบอนุญาตประกอบการขนส่งตามคำสั่งคสช.ที่ 15/2560
กรณีผู้ประกอบการขนส่งไม่ปฎิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัยในการขนส่งตามที่กำหนดในกฎกระทรวงความปลอดภัยในการขนส่ง พ.ศ. 2558 ซึ่งออกตามมาตรา 36 และต้องระวางโทษตามมาตรา 131 กรณีผู้ประกอบการขนส่งไม่ปฎิบัติตามกฎกระทรวงความมปลอดภัยในการขนส่ง พ.ศ.2558 ข้อ 3 (7) ซึ่งกำหนดให้ผู้ประกอบการต้องควบคุม กำกับ ดูแลให้ผู้ขับรถใช้เครื่องอุปกรณ์และส่วนควบของรถ ได้แก่ เครื่องGPS พบว่ารถมีเครื่อง GPS ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง แต่ไม่เชื่อมต่อกับศูนย์GPS จึงต้องระวางโทษปรับตามมาตรา 131 ไม่เกิน 50,000 บาท
กรณีรถตู้เช่าเหมาคัน 33 – 2779 กทม. เกิดอุบัติเหตุรถชนต้นไม้ข้างทางไฟลุกไหม้รถตู้ทั้งคันเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บสาหัส 2 รายและบาดเจ็บเล็กน้อย 4 ราย อุบัติเหตุในครั้งนี้ร้ายแรง มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 7 คน เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมและตัวรถตู้คันดังกล่าวเสียหายอย่างรุนแรง ไม่สามารถนำมาใช้ทำการขนส่งได้อย่างปลอดภัย จึงอาศัยอำนาจตามข้อ 1(3) วรรคท้าย ของหนังสือกรมการขนส่งทางบกที่ คค. 0408/ว.326 ลว.12เมษายน 2560 กำหนดให้นายทะเบียนประจำจังหวัดกำแพงเพชรซึ่งเป็นนายทะเบียนในท้องที่ที่รถตู้เช่าเหมาเกิดอุบัติเหตุเสนอความเห็นให้ผู้อำนวยการสำนักการขนส่งผู้โดยสาร (นายทะเบียนแห่งท้องที่ที่รถคันดังกล่าวจดทะเบียน) พิจารณาเพิกถอนการจดทะเบียนรถคันดังกล่าวต่อไป พร้อมนี้ได้ทำหนังสือแจ้งผู้อำนวยการสำนักการขนส่งผู้โดยสารดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายคมวัฏ แซ่พู เป็นทั้งผู้ประกอบการขนส่ง และเป็นผู้ขับรถด้วยตนเองและได้รับบาดเจ็บสาหัส จากอุบัติเหตุในครั้งนี้ต้องใช้เครื่องให้ออกซิเจนและยังไม่สามารถสื่อสารพูดคุยได้ ดังนั้น หากนายคมวัฏ แซ่พู ทุเลาจากการบาดเจ็บสาหัสก็จะได้เรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินการเปรียบเทียบปรับต่อไป