ผู้ตรวจราชการสำนักนายกฯ ลงพื้นที่คลองแม่พาย สำรวจความเรียบร้อย โครงการจิตอาสาเพื่อพัฒนาลำน้ำกับชีวิตฯ
วันที่ 23 มีนาคม 2561 นายกรีฑา สพโชค ผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะทำงาน ที่ 4ประกอบด้วย ว่าที่ร้อยตรีไชยวุฒิ วุฑฒิรักษ์ ที่ปรึกษาด้านการกระจายอำนาจ, นางสาวนฤมล ล้อมเขตร เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไปสำนักงานขับเคลื่อนการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง, นายชัยวัฒน์ ภัทรกานต์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษสำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และนางสาวสราวรรณ รุ่งเรือง เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผนสำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ลงพื้นที่เทศบาลตำบลเขาคีรีส เพื่อประชุมติดตามการเตรียมความพร้อมการดำเนินโครงการจิตอาสาเพื่อการพัฒนาลำน้ำกับชีวิต บนวิถีแห่งความพอเพียง เพื่อประโยชน์ และความสุขของประชาชน
โดยมี นายธวัชชัย เกตุพันธ์ ปลัดจังหวัดกำแพงเพชร, นางทิวาพรรณ สหอารักขา หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมและพัฒนาท้องถิ่น, พ.ต.อ.เอนก จันทร์ศร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพรานกระต่าย,พ.ท.สมชิต ภูมิชิน รอง หน.กลุ่มงานบริหารบุคคลฯ, นางสาวปัทมา อยู่บ้านคลอง รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร, นายเจริญ ถามะพันธ์ รองนายกเทศมนตรีตำบลเขาคีรีส, นายประวิทย์ ปะนะตัง ปลัดอำเภอพรานกระต่าย, นายสุนทร อุ่นใจ ผู้อำนวยการกองแผนและงบประมาณ อบจ.กำแพงเพชร, ตำรวจ, ทหาร,คณะกรรมการโครงการจิตอาสาเพื่อพัฒนาชุมชนบ้านคลองสำราญ คลองวังแม่พาย, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนจิตอาสา ร่วมประชุม
โดยพื้นที่ที่จะเข้าร่วมโครงการได้นั้น จะต้องมีมีลักษณะ เป็นชุมชนที่มีวิถีริมน้ำ คือ ชุมชนที่มีบ้านเรือนอยู่ริมน้ำ ริมคลอง หนอง บึง หรือคลองชลประทาน ที่ไม่ใช่แม่น้ำสายหลัก, เป็นชุมชนที่มีปัญหากับลำน้ำ เช่น น้ำเน่าเสีย คลองตื้นเขิน มีวัชพืช ที่ก่อให้เกิดอุปสรรคในการสัญจร เป็นต้น, เป็นชุมชนที่ต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิต ต้องการแก้ปัญหาให้ชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น, เป็นชุมชนที่มีความพอเพียง มีความพอดีในการดำรงชีวิต สามารถบริหารจัดการในลำน้ำของตนเองได้ เป็นชุมชนที่มีจิตอาสาเข้มแข็ง มีการรวมกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่นในการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในชุมชนของตนเอง
สำหรับจังหวัดกำแพงเพชร ชุมชนบ้านคลองสำราญ ม.12 ต.เขาคิรีส อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ เพราะมี คลองวังแม่พาย ซึ่งเป็นลำคลองที่คนในชุมชนต้องใช้ประโยชน์ร่วมกัน ในด้านการดำเนินชีวิต อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร และการอุปโภคบริโภค แต่ลักษณะลำคลองมีความตื้นเขิน ผักตบชวา และวัชพืชขึ้นหนาแน่น เป็นอุปสรรคสำคัญของชุมชนในการใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำ เทศบาลตำบลเขาคีรีส องค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมด้วยหน่วยงานภาคปกครอง ทหาร ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชุมชน และประชาชนจิตอาสา จึงได้ผนึกกำลังกันในการแก้ไขปัญหา ด้วยการขุดลอกคลองแม่พาย กำจัดผักตบชวา และวัชพืชให้หมดไป จนกลายเป็นแหล่งน้ำสะอาด นำมาใช้ประโยชน์ได้ อย่างชัดเจน ถือเป็นการพัฒนาร่วมกันอย่างแท้จริง และรวดเร็ว ตลอดจนมีการต่อยอดนำน้ำในลำคลองแม่พาย ไปสู่การทำเกษตรพอเพียง ในรูปแบบการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ผักปลอดภัย รูปแบบนาแปลงใหญ่ ตั้งอยู่ที่ ม.15 บ้านตะแบกงาม ต.เขาคีรีส อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร เพื่อให้คนในชุมชนได้ใช้เป็นศูนย์เรียนรู้การปลูกผักปลอดสารพิษ จนปัจจุบันศูนย์การเรียนรู้ ได้กลายเป็นสหกรณ์กลุ่มผู้ผลิตผักปลอดภัย มีสมาชิก 40 คน ก่อให้เกิดเป็นรายได้กลับคืนสู่ชุมชน 
โครงการจิตอาสาเพื่อการพัฒนาลำน้ำกับชีวิต บนวิถีแห่งความพอเพียง เพื่อประโยชน์และความสุขของประชาชน เป็นพระราชปณิธานของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวิชราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ที่ทรงต้องการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับอาณาประชาราษฎร์ สืบสานรักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ขององค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนารถบพิตร ดังนั้นรัฐบาลจึงร่วมกับหน่วยงานในพระองค์ จัดทำโครงการนี้ขึ้น โดยการศึกษา วิเคราะห์รูปแบบ การส่งเสริม ช่วยเหลือ และสนับสนุนการดำเนินโครงการ และการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับประชาชนที่มีวิถีชีวิตริมน้ำ ตลอดจนขยายผลการดำเนินโครงการเพื่อการพัฒนาเป็นไปอย่างเป็นระบบและแก้ไขปัญหาได้ต่อเนื่องและยั่งยืน อีกทั้งเพื่อสร้างความร่วมมือภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน ภาคีเครือข่ายสนับสนุน และการประชาสัมพันธ์ ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในโครงการจิตอาสาเพื่อการพัฒนาลำน้ำกับชีวิต บนวิถีแห่งความพอเพียง เพื่อประโยชน์และความสุขของประชาชน สำหรับคณะทำงาน คณะที่ 4 รับผิดชอบการดำเนินงานในจังหวัดตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร นครสวรรค์ พิจิตร และอุทัยธานี รวม 9 จังหวัด
ด้าน นายกรีฑา สพโชค ยังได้กล่าวชื่นชม ในการดำเนินงานโครงการฯ ของจังหวัดกำแพงเพชรว่า คลองแม่พาย เป็นแหล่งน้ำที่มีการพัฒนา โดยการร่วมมือของภาครัฐ ชุมชน โดยเฉพาะการเข้าไปมีส่วนร่วมของประชาชนจิตอาสา ได้อย่างชัดเจน เป็นรูปธรรม มากที่สุด จนเกิดเป็นการพัฒนาตรงตามวัตถุประสงค์ ที่อย่างแท้จริง และยังได้มีการนำน้ำจากลำคลองไปต่อยอด ให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนอีกด้วย
