สาวใหญ่เหยื่อไอ้หื่น ฮึดสู้ ถูกฟันหน้าปางตาย
เหยื่อสาวใหญ่ขัดขืน ต่อสู้ไอ้หื่นสิงห์รถบรรทุกตกงาน ถูกฟันหน้าแบะแผลสยอง เหยื่อแกล้งตายเลยรอด ตำรวจบุกจับตัวได้ทันควัน คาบ้านพัก สารภาพอ้างหน้ามืด
วันที่17 สิงหาคม 2560 พ.ต.ท.ยุทธนา พุกสุข สารวัตรสอบสวนพนักงานสอบสวน สภ.คลองขลุง พร้อมด้วย พ.ต.ท.วรงค์ เมืองยศ รองผู้กำกับสืบสวนสอบสวนฯ พ.ต.ท.นิติคุณ ลี้ตระกูล สารวัตรสืบสวนฯและชุดสืบสวนจับกุมตัวนาย นายฉัตรชัย ปานแดง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145 หมู่ที่ 1 ตำบลวังยาง อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร โดยแจ้งข้อหา พยายามข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายและพยายามฆ่าผู้อื่น หลังก่อเหตุพยายามข่มขืนและทำร้ายเหยื่อฟันด้วยมีดถางหญ้าที่ใบหน้าบาดแผลฉกรรจ์ถึงท้ายทอย สถานที่ก่อเหตุในไร่อ้อยหลังสำนักงานเทศบาลตำบลบลวังยาง เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 16 สิงหาคม 2560 เวลา 13.30 น.ที่ผ่านมา
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ผู้เสียหายเป็นหญิงอายุ 46 ปี อยู่ในบ้านหมู่เดียวกัน ได้เข้าไร่พร้อมกับมีดถางหญ้า คมมีดยาว 15 ซม. ด้ามยาว 31 ซม.ไปตัดหญ้าในไร่กล้วยของตนเอง ซึ่งติดกับไร่อ้อยของญาติ ถูกคนร้ายได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายเหยื่อ ฟันด้วยมีด เดินออกจากไร่มาขอความช่วยเหลือที่บ้านของพี่สาวห่างจากไร่จุดเกิดเหตุ 40 เมตร และบอกว่า นายฉัตรชัย (ด๊อด) ปานแดง ทำร้ายกอดปล้ำหวังจะข่มขืนก่อนใช้มีดฟัน แล้วลากไปทิ้งในป่าอ้อย จึงแกล้งตายและกะเสือกกะสนพาร่างที่บาดเจ็บเดินโซเซออกจากไร่มาขอความช่วยเหลือ ก่อนที่พี่สาวเหยื่อจะใช้ขาวม้าพันที่ใบหน้าเพราะบาดแผลเปิดที่แกล้มขวาน่าสยดสยอง จากนั้นแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลคลองขลุง และส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร
เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุในไร่อ้อย พบร่องรอยการต่อสู้ที่ทางเท้าเป็นทางแยกในไร่อ้อย และมีเส้นผมของผู้เสียหายตกอยู่ และห่างออกไปอีก15 เมตร พบในร่องป่าอ้อยมีรอยลากเป็นทางยาว และทราบว่าผู้ก่อนเหตุคือ นายฉัตรชัย ปานแดง จึงได้ไปจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก มาสอบสวน พร้อมของกลางเสื้อผ้าและมีดที่ใช้ก่อเหตุ
ส่วนผู้ต้องหาหื่นรายนี้เดิมมีอาชีพรับจ้างขับรถบรรทุกช่วงหลับไม่มีงานขับรถ จึงมาสมัครเป็นลูกจ้างท้องถิ่นชั่วคราว ให้การอ้างว่าหน้ามืด เดินเล่นผ่านไปเจอเหยื่อพอดี ได้นั่งคุยกันปกติธรรม แล้วพากันเดินมาส่ง แต่ตนเกิดหน้ามืดมีอารมณ์ทางเพศ ได้อ้อมไปกอดเหยื่อด้านหลัง แต่เหยื่อไม่ยอมดิ้นรนขัดขืนต่อสู้ เล็บข่วนที่คอผู้ต้องหา เหตุการณ์ตรึงเครียด ช่วงเวลานั้น ผู้ต้องหาบอกว่ากลัวเหยื่อจะไปแจ้งความกับตำรวจจึงใช้มีดถางหญ้า คมมีดโค้งงอยาว 15 ซม. ด้ามยาว 31 ซม.ซึ่งเป็นมีดของเหยื่อหล่นอยู่ที่พื้น ฟันไปที่ใบหน้า ไป 1 ครั้ง คมมีดที่โค้งงอรับกับใบหน้าพอดีบาดแผลจึงเหวอะหวะที่แกล้มขวา ตั้งแต่ริมฝีปาก ผ่านใบหูไปถึงท้ายทอย อย่างน่าสยดสยอง คิดว่าเหยื่อตายแล้ว จึงลากไปทิ้งไว้ในป่าร่องอ้อย อำพรางไม่ไห้ใครเห็น ก่อนกลับบ้านจนเจ้าหน้าที่มาจับกุม
และบ่ายวันนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ญาติผู้เสียหายและเพื่อนบ้านในหมู่บ้านเดียวกัน จำนวน 50 คน ได้มามุงรออยู่ในที่เกิดเหตุ เพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่นำผู้ต้องหามาทำแผน ญาติบางคนอยู่ในอารมณ์โกรธแค้น หวัง ประชาทันฑ์ โดยมีญาติผู้ต้องหา มาที่เกิดเหตุด้วย จึงถูกต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง เจ้าหน้าที่จึงได้ให้ทั้งหมดแยกย้ายกันกลับบ้านก่อนที่จะมีเรื่องรุนแรงทั้งนี้ญาติและชาวบ้านเชื่อว่า ผู้ต้องหาวางแผน ก่อนที่จะลงมือพยายามข่มขืนเหยื่อ เพราะในป่าอ้อยไม่ใช้สถานที่เดินเล่น จึงมีความโกรธแค้น ที่คนบ้านเดียวกัน กลับคิดชั่วและถึงกับคิดฆ่าปิดปาก จากความหื่นของตัวเอง
