ข่าวรอบชากังราวข่าวเด่น

เสี่ยหมี เตรียมเปิดโรงสี สนั่นเมือง แถลงโต้ อดีต ส.ส.ปชป.แถลงพาดพิง โรงสีเสียความเชื่อถือคู่ค้า

ผู้สื่อข่าวได้ติดตามประเด็นนี้ จากคลิปแถลงข่าว พบประเด็นสืบเนื่องจากนายวัชระ อดีต ส.ส. ปชป. ตั้งโต๊ะแถลงข่าวว่า มีรัฐมนตรีคนหนึ่งในรัฐบาลได้ใช้เฮลิคอปเตอร์ ไปตรวจสอบโรงสีข้าวของบริษัท โรงสีสนั่นเมือง จำกัด เป็นบริษัทที่เข้าร่วมประมูลข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาลเข้าสู่อุตสาหกรรมที่มิใช่การบริโภคของคน ไปที่โรงสีแห่งนี้เพื่ออะไร เป็นภารกิจลับของทางราชการหรือไม่ เพราะหลังจากประชุมลับกับเจ้าของโรงสีประมาณ 40 นาที ก็ออกมาบอกกับผู้ที่ติดตามว่าไม่มีอะไร และไม่มีการแถลงข่าวกับสื่อมวลชนแต่อย่างใด รวมถึงเหตุใดทำไมไม่ใช้เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อดีต ส.ส. ปชป. แถลงต่อว่าได้ไปสอบถามจากประชาชน และจากข้าราชการในพื้นที่ พบว่า โรงสีดังกล่าวเป็นโรงสีที่ผลิตข้าวให้คนกิน ไม่ใช่ให้สัตว์กิน และร้องเรียนไปยัง นายกรัฐมนตรีและ ให้ช่วยตรวจสอบว่าผลการตรวจสอบโรงสีข้าวดังกล่าว ว่า มีการประมูลข้าวเพื่อไปผลิตให้กับอาหารสัตว์จริงหรือไม่”เกี่ยวกับประเด็นนี้ นายรังสรรค์ สบายเมืองเจ้าของธุรกิจโรงสีสนั่นเมือง เปิดเผยข้อมูลกับสำนักข่าวออนไลน์แห่งหนึ่ง ว่า ได้ดูคลิปที่ มีการแถลงข่าว ที่พรรคประชาธิปัตย์ ตามที่แถลงข่าว เป็นเรื่องเท็จทั้งหมด ประเด็นแรก ที่ไม่ใช่เรื่องจริงก็คือ วันที่ 23 กรกฎาคม ที่รัฐมนตรีได้นั่ง ฮ.มา คือวันที่ 29 มิถุนายน

ข้อที่สองก็คือได้นั่งคุยกับรัฐมนตรี สองต่อสอง ไม่มีข้าราชการ หรือบุคคลอื่นใด มาเกี่ยวข้องเลย ไปคุยกันในห้องลับ ประมาณ 40 นาที แล้วก็ออกมาจากนั้นสั่งข้าราชการกลับโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น การพบเจอกันคราวนี้สมประสงค์สมประโยชน์อะไรหรือไม่อย่างไรมันเป็นการกล่าวหา ซึ่งทำให้บุคคลทั่วไปมองว่า มีการสมรู้ร่วมคิด กับเจ้าหน้าที่รัฐ ทุจริตต่อหน้าที่ต่อโครงการของรัฐทำให้บุคคลอื่นเข้าใจเราผิด

ประเด็นก็คือ เขาบอกว่าเรามีสิทธิ์เป็นโรงสีซึ่งสีข้าวให้คนกินอย่างเดียว ได้ถามประชาชนข้างเคียงได้ถามประชาชนในจังหวัดแล้วว่าเรานั้นสีข้าวให้คนกินอย่างเดียว ดังนั้นจึงไม่ควรจะมีสิทธิ์ รายการประมูลข้าว อุตสาหกรรมในคราวนี้ฉะนั้นในวันที่ 8 สิงหาคม 2560 จะพาสื่อมวลชนทั้งส่วนกลางและสื่อมวลชนภายในจังหวัดเข้าไปดูภายในโรงงานว่าทำอะไรบ้าง มีเครื่องทำอาหารสัตว์ มีเครื่องแปรรูปข้าวเอาข้าวไปเป็นอาหารสัตว์อย่างไร จะได้เห็นกันทั้งหมด จะได้ชี้แจงว่าเหตุการณ์ที่คุณวัชระพูด มันไม่ตรงอย่างไร และทำให้เราเสียหายอย่างไรนายรังสรรค์กล่าวต่อว่าท่านรัฐมนตรีดูท่านไม่ค่อยเดือดร้อน  แต่ว่ากิจการของผมซึ่งก่อตั้งมาแล้ว 30 ปี ต้องดำเนินกิจการต่อ ชื่อเสียงเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าไม่แก้ไข ไม่ตรงตามข้อเท็จจริง ก็ไม่ใช่เรื่องดีต่อกิจการ คู่ค้า ก็จะมองไม่ดี เดี๋ยวนี้เทรนของการค้าขายกับคนดีก่อน กำไรมากกำไรน้อยก็ว่ากันไป ต้องเลือกคนค้าขายด้วย ส่งผลให้เราคู่ค้าของเรามองเราไม่ดี ทางด้านกฎหมายขณะนี้ทีมกฎหมายของบริษัทเองก็กำลังเตรียมดำเนินการรวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมดอยู่เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ได้รับทราบต่อไป

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า