น้ำหลากไหลท่วมข้ามถนนพหลโยธินขาขึ้นเหนือ ที่สลกบาตร
วันที่ 11 กรกฎาคม 2560 เวลา 13.00 น นายจำปา ม่วงสิมมานายกเทศมนตรีตำบลสลกบาตรเปิดเผยว่าบนถนนพหลโยธินขาขึ้น ระหว่างตำบลสลกบาตร-กำแพงเพชร เป็นถนนสายหลัก มุ่งขึ้นสู่ภาคเหนือ ขณะนี้มีน้ำท่วมขังบนพื้นผิวถนนความยาว 1 กิโลเมตรระดับน้ำสูงประมาณ 20 เซนติเมตร รถยังคงสัญจรไปมาได้แต่ทางเทศบาล ได้ส่งเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ไปอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ใช้เส้นทางในการสัญจร นอกจากนี้ทางเทศบาลยังป้องกันโดยนำกระสอบทรายไปกั้นไม่ให้น้ำทะลักเข้าสู่ชุมชนหงษ์ทองพัฒนา หมู่ที่ 5 ของตำบลสลกบาตร
สำหรับปัญหาน้ำที่ท่วมขังในครั้งนี้ เกิดจากฝนที่ตกหนักจากพื้นที่อำเภอปางศิลาทองและไหลลงสู่ลำคลองสาขาต่างๆจนล้น และมาท่วมยังพื้นที่บริเวณดังกล่าว และมวลน้ำก้อนนี้จะไหลลงสู่เขตพื้นที่นครสวรรค์ต่อไป จากเหตุการณ์ดังกล่าว หากไม่มีฝนตกซ้ำในพื้นที่ก็คาดว่าประมาณ 2 วัน น้ำในพื้นที่ทางการเกษตรที่ถูกท่วมก็จะลดระดับกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ส่วนบนถนนถ้าหากฝนไม่ตกซ้ำระดับน้ำก็จะลดลงเช่นเดียวกัน ทางเทศบาลตำบลสลกบาตร ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ใช้ถนนสายหลักพหลโยธินตำบลสลกบาตรได้ใช้ความระมัดระวัง และชะลอความเร็วเนื่องจากบนพื้นผิวถนนนั้นยังคงมีน้ำท่วมขัง แขวงการทาง กำแพงเพชร และองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร ร่วมแก้ไขปัญหาโดยนำรถแม็คโครมาขุดลอก ของริมถนนเพื่อที่จะวางท่อเร่งระบายน้ำ ออกจากพื้นที่
ด้านการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม นายกเทศบาลตำบลสลกบาตรเปิดเผยว่านายธานี ธัญญาโภชน์ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชรพร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการในการแก้ไขปัญหาโดยวางแผนการขุดลอกเปลี่ยนทางน้ำฟลัดเวย์เป็นระยะทาง 10 กม. ปลายทางระบายน้ำอยู่ที่แม่น้ำปิง แต่เนื่องจิตติดขัดทั้งข้อกฎหมายและโฉนดที่ดิน ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการเวนคืนที่ดิน หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการนี้แล้วก็จะสามารถดำเนินการ ตามแผนโครงการได้ทันทีขณะเดียวกันในวันนี้มีเกษตรกรชาวนาจำนวน 30 รายได้เดินทางมาพบนายกเทศมนตรีตำบลสลกบาตรเนื่องจากมีพื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำท่วมขังเป็นพื้นที่เพาะปลูกข้าวประมาณ 1,000 ไร่ ที่จะได้รับความเสียหาย เกี่ยวกับกรณีนี้นายกเทศมนตรีได้แก้ปัญหาให้กับชาวบ้านโดยการเปลี่ยนทิศทางน้ำไม่ให้ไหลเข้าสู่พื้นที่ทางการเกษตร ซึ่งชาวบ้านก็ได้รับความพอใจและได้เดินทางกลับ