ศาลรับคำร้อง “สิงห์โตทองไรซ์” ฟ้อง อดีต ปธ.บอร์ด อคส.

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์  ตีแผ่

ศาลรับคำร้อง “สิงห์โตทองไรซ์” ฟ้อง อดีต ปธ.บอร์ด อคส.

เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2560 เวลา 10:54 น. ผู้สื่อข่าวkppnews  ได้ติดตาม เว็บไซต์ออนไลน์ประชาชาติธุรกิจออนไลน์  ที่พาดหัวไม้ข่าว เป็นที่สนใจของนักธุรกิจค้าข้าวชาวกำแพงเพชรอย่างมาก โดยพาดข้อความว่า  “ศาลรับคำร้อง “สิงห์โตทองไรซ์” ฟ้อง 157 จินตนาอดีต ปธ.อคส.”

ทั้งนี้เนื้อหาของข่าวได้ระบุว่า ศาลรับคำร้อง “สิงห์โตทองไรซ์” ฟ้อง อดีต ปธ.บอร์ด อคส. “จินตนา ชัยยวรรณาการ” พร้อมพวก ผิดมาตรา 157 เรื่องไม่คืนหลักประกัน 400 ล้านบาท กับไม่จ่ายค่าเช่าคลัง กรณีทำข้าวถุงในอดีต

นายมนต์ชัย รุ่งชาญชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท สิงห์โตทองไรซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ศาลจังหวัดนนทบุรีได้ประทับฟ้องคดีดำหมายเลข อ.4238/2558 ซึ่งเป็นคดีที่บริษัท สิงโตทองไรซ์ คอร์ปอเรเชั่น-บริษัทโรงสีสิงห์โตทองไรซ์-บริษัทสิงห์โตทอง อาร์ซีซีไรซ์ ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางจินตนา ชัยยวรรณาการ อดีตประธานคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) พร้อมพวกรวม 2 คน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 หลังจากนี้ศาลจะนัดสืบพยานโจทก์-จำเลยในเดือนกันยายนนี้

กรณีฟ้องร้องครั้งนี้เกิดจากเรื่องการระงับการคืนหลักทรัพย์วางค้ำประกันค่าเช่าคลังทั้งหมด ตามที่บริษัทสิงห์โตทองได้นำมาวางเป็นหลักประกันกับองค์การคลังสินค้า แต่เมื่อสิ้นสุดผลผูกพันตามที่โจทก์ยืนยันว่า ได้ดำเนินการตามสัญญาครบถ้วนแล้ว และบริษัทได้ขอคืนหลักทรัพย์ค้ำประกัน ปรากฏจำเลยทั้ง 2 คน กลับร่วมกันละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อบริษัทสิงห์โตทอง

“เหตุที่ผมต้องฟ้องมาตรา 157 ก็เพราะมีพฤติกรรมปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ สั่งการโดยมิชอบ โดยไม่คืนหนังสือค้ำประกันทั้งหมด ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 400 ล้านบาท และไม่ชำระค่าเช่าคลัง อคส.ค้างอยู่ ประมาณ 300-400 ล้านบาท การกระทำดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะภาพลักษณ์ของบริษัทต่อสายตาของหน่วยงานและสถาบันการเงิน ทำให้บริษัทไม่ได้รับความน่าเชื่อถือ เสียหายมานานกว่า 2 ปีแล้ว และไม่ว่าผลการพิจารณาของศาลจะออกมาเป็นอย่างไร ทางบริษัทมั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรม เพราะเราเสียหายทางธุรกิจและชื่อเสียง” นายมนต์ชัยกล่าว

ด้าน นางจินตนา ชัยยวรรณาการ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อดีตประธานคณะกรรมการ อคส. กล่าวว่า การดำเนินการในกรณีนี้เป็นไปตามมติบอร์ด อคส. ที่ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2555-2556 ซึ่งขณะนั้นได้ร้องเรียนเรื่องข้าวสารบรรจุถุงเมื่อเดือนกรกฎาคม 2556 ไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งชี้ว่า “มีมูล”

ขณะที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีการทำหนังสือมาถึง อคส. ให้มีการตรวจสอบการดำเนินการ ทำให้บอร์ด อคส.สมัยนั้นมีความเห็นว่า ให้ยุติโครงการ ดังนั้นเมื่อมาเข้ารับงานประธานบอร์ด อคส.ต่อ จึงดำเนินการตามมติที่ค้างมา ทั้งหมดนี้ขอยืนยันว่า เป็นการทำตามมติเดิมที่ต่อเนื่องกันมา “ไม่หนักใจ มั่นใจว่าทุกอย่างจะดำเนินการไปตามกระบวนการของศาล การทำงานเป็นไปตามหลักการและเหตุผล เมื่อมติบอร์ดเดิมมีความเห็นเช่นนั้น ดำเนินการต่อเนื่องตามมติบอร์ด” มีรายงานข่าวเข้ามาว่า ศาลได้ให้ประกันตัวจำเลยทั้ง 2 โดยให้วางหลักประกัน 320,000 บาท

ที่มาประชาชาติธุรกิจออนไลน์

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1498640657