2 จิ้งจอกสาวใช้นมเปรี๊ยวมอมยาเสี่ยแม่สอด รูดทรัพย์ เฉียดล้านบาท
หนุ่มแม่สอดมาเที่ยวหาญาติที่กำแพงเพชร หลังเที่ยวผับ ถูกจิ้งจอกสาวมอมยารูดทรัพย์ไปเฉียดล้านบาท
วันที่ 7 มิถุนายน 2560 เวลา 9.00น. ร.ต.ท.ไกรวิชญ์ มณฑาแดง รองสารวัตร(สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร ได้รับแจ้งเหตุ ชายถูกมอมยารูดทรัพย์ในรีสอร์ทแห่งหนึ่งกลางเมือง ที่เกิดเหตุเป็นรีสอร์ท 2 ชั้น แห่งหนึ่ง ถนนเทศา2 ซอย1 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ที่ห้องพักชั้นสองเลขที่ 3/2 อายุ 49 ปี ผู้เสียหาย อยู่ในอาการสภาพมึนงง
เบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ของคืนวันที่ 6 มิถุนายน 2560 ผู้เสียหายได้ไปนั่งดื่มสุราด้วยกัน 2 คนกับน้องชาย ที่ผับโรงแรมดังกลางเมืองกำแพงเพชรระหว่างที่ดื่มกิน มีผู้หญิง 2 คน นั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะที่นั่งดื่ม ทำทีตีสนิทก่อนจะหลอกล่อหว่านล้อมให้หลงเชื่อว่า เลิกกับแฟนและถูกเพื่อนทิ้ง ไม่มีรถกลับและให้ไปส่งที่บ้านพัก ตนได้ระวังตัวเพราะสวมใส่เครื่องประดับมีค่าเยอะ แต่ด้วยความเห็นใจพอผับเลิก ทั้งหมดก็ขึ้นรถ โดยผู้เสียหายไปส่งน้องชายที่บ้านในตัวเมืองกำแพงเพชร และกลับไปที่พักรีสอร์ทที่เปิดไว้ เนื่องจากทำธุรกิจอยู่ที่อำเภอแม่สอด มาเที่ยวหาครอบครัวที่จังหวัดกำแพงเพชร เมื่อมาถึงที่พัก สาวมหาภัยทั้ง 2 คนที่นั่งรถมาด้วยก็ยังไม่ยอมไปไหน และขอนอนพักด้วย ผู้เสียหายได้ปฏิเสธ พร้อมบอกว่าไปไหนจะไปส่งให้ ระหว่างนั้นสองสาวทำทีมีน้ำใจ ไปซื้อนมเปรี๊ยวมาให้ดื่ม หลังจากดื่มไป แล้วก็หลับไปโดยไม่รู้ตัว ตอนเช้าน้องชายที่นัดหมายไว้ 08.00 น.ได้มาเคาะห้องเรียก ก็พบว่าถูกมอมยา ทรัพย์สินเครื่องประดับ สร้อยคอหนัก 10บาท คล้องพระเลี่ยมทอง 3 องค์ สร้อยทองเรทข้อมือหนัก 5 บาท แหวนเพชร แหวนทับทิมล้อมเพชร .เงินสดประมาณ 30,000 บาท นาฬิกาโลเร็กซ์ล้อมเพชร กล้องฟลุ้งฟลิ้ง รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 1ล้านบาท สูญหายทิ้งเหล้าไว้ครึ่งขวด ให้ดูต่างหน้า ซึ่งผู้เสียหายให้การว่าเป็นของ 2 จิ้งจอกสาวทิ้งไว้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว คงต้องเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะต้องให้ความสนใจในการติดตามคดี และชุดสืบสวนที่จะต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิด หาเบาะแสที่สถานบริการที่เหยื่อถูกหลอกล่อมา จนถึงรีสอร์ทว่า ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด รักษาความปลอดภัยไว้ด้วยหรือไม่ซึ่งจะเป็นการหาหลักฐาน ติดตามตัวภัยสังคม สองสาวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีการก่อเหตุ อาชญากรรมนอกเหนือรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการฆ่ากัน หรือชิงทรัพย์กัน ในรูปแบบที่รุนแรงมากขึ้น ฉะนั้นประชาชนผู้บริสุทธิ์ จึงจำเป็นที่จะต้องระมัดระวังตัวเอง ไม่หลงตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ ในยุคที่บ้านเมืองเศรษฐกิจตกต่ำ เต็มไปด้วยปัญหาอาชญากรรม