เปิดสภาเทศบาลเมืองกำแพงเพชรสมัยแรกปี 60 คึกคักตรวจสอบเข้มข้น
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 10.00 น.ที่ห้องประชุมสภาเทศบาลเมืองกำแพงเพชรชั้น 4 อาคารเทศบาลเมืองกำแพงเพชร สภาเทศบาลเมืองกำแพงเพชรได้เปิดประชุมสภาสมัยสามัญสมัยแรกประจำปี พ. ศ. 2560 โดยนายปรีชา วิศาลศักดิ์ประธานสภาเทศบาลเมืองกำแพงเพชรอนุญาตให้นายกนกศักดิ์ รามบุตร เลขานุการสภาเทศบาลเมืองกำแพงเพชร ได้อ่านประกาศสภาเทศบาลเมืองกำแพงเพชร เรื่องเรียกประชุมสภาเทศบาลสมัยสามัญสมัยแรกประจำปีพุทธศักราช 2560 ทั้งนี้ตามมติที่ประชุมสภาเทศบาลเมืองกำแพงเพชร สมัยสามัญ สมัยแรกประจำปี พ. ศ. 2559 เมื่อวันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ 2559 ได้กำหนดการประชุมสภาเทศบาลสมัยสามัญสมัยแรกประจำปี พ. ศ. 2560 ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นต้นไปโดยมีกำหนดไม่เกิน 30 วันอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาลพ. ศ. 2496 แก้ไขเพิ่มเติมถึง(ฉบับที่ 13) พ. ศ. 2552 จึงให้เรียกประชุมสภาเทศบาลสมัยสามัญสมัยแรกประจำปีพ.ศ. 2560 ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นต้นไป โดยมีกำหนดไม่เกิน 30 วัน
ในการประชุมสภาในครั้งนี้ ในที่ประชุมประกอบไปด้วยนายชัยวัฒน์ ศุภอรรถพานิชนายกเทศมนตรีเมืองกำแพงเพชร นายเสกสรร สุวรรณวัฒนา นางโชติกา ฐิตะชนัคภัค รองนายกเทศมนตรีเมืองกำแพงเพชร และสมาชิกฝ่ายสภานิติบัญญัติ สมาชิกสภาเทศบาลเมืองกำแพงเพชรเข้าร่วมประชุมจำนวน 16 ที่ นั่งลาประชุม 2 ที่นั่ง จากจำนวนทั้งหมด 18 ที่นั่ง
การประชุมสภาในครั้งนี้ก็ต่างก็ทำหน้าที่ ในสภาที่ประชุม เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมาชิกสภาได้เปิดอภิปรายถึงประเด็นต่างๆ โดยมีวาระในการประชุมจำนวน 11 ญัตติมี เช่นรายงานผลการประชุมสภาในสมัยที่ผ่านมา และรายงานผลการดำเนินงานในรอบปีงบประมาณพ. ศ. 2559 นอกจากนี้ก็มีญัตติขออนุมัติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคําชี้แจงงบประมาณรายจ่ายประจำปี และขออนุมัติโอนเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีไปตั้งจ่ายในรายการใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการจำเป็นเร่งด่วนของพี่น้องประชาชนในการพัฒนาท้องถิ่นในปัจจุบัน
และในการประชุมในครั้งนี้สมาชิกสภานิติบัญญัติสภาเทศบาลเมืองกำแพงเพชรได้มีมติในที่ประชุมถึง 16 เสียง อภิปรายญัตติงบประมาณขออนุมัติจ่ายขาดเงินสะสมเทศบาล จำนวน 16 ล้านบบาท ที่จะนำไปดำเนินการด้านโครงสร้างพื้นฐานตกไป 2 ญัตติ เนื่องจากในที่ประชุมได้ให้เหตุผลต่อฝ่ายบริหาร ถึงการขอเวลาทำหน้าที่ในการตรวจสอบความจำเป็นเร่งด่วนและความต้องการของพี่น้องประชาชนให้อย่างละเอียดและรอบคอบอีกครั้ง เนื่องจากในญัตติเดียวกันมีโครงการ รวบรวมกันถึง 8 และ 7 โครงการ จึงทำให้ทั้งสองญัตตินั้นตกไป อย่างไรก็ตามทางด้านฝ่ายบริหารก็จะได้ดำเนินการ การมีส่วนร่วมกับสภาฯ ให้มากขึ้น เพื่อที่จะนำแผนการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานเข้าสู่สภาในการประชุมครั้งต่อไป