เพลิงไหม้อาคารเก่ามหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร

เกิดเหตุเพลิงไหม้ห้องควบคุมระบบจ่ายไฟอาคารการแพทย์ทางเลือกภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชรเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 23 สิงหาคม 2559 ร้อยตำรวจเอกวิโรจน์ กัณทะมาลา พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร ได้รับแจ้งเกิดเพลิงไหม้อาคารภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร จึงพร้อมรถดับเพลิงเทศบาลตำบลนครชุมจำนวน 2 คัน และเทศบาลเมืองกำแพงเพชร จำนวน 1 คัน องค์การบริหารส่วนตำบลนครชุม จำนวน 1 คัน เข้าทำการดับไฟ โดยใช้เวลานานประมาณกว่า 1 ชั่วโมง เพลิงจึงได้สงบลง

ที่เกิดเหตุเป็นห้องเก็บของและห้องควบคุมไฟฟ้า อยู่ทางด้านขวามือของอาคารชั้นเดียวอาคารการแพทย์ทางเลือก โปรแกรมสาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร ภายในได้ติดตั้งแผงควบคุมการจ่ายไฟฟ้าของอาคาร และเป็นที่เก็บเครื่องครัว เอกสาร สิ่งของต่าง ๆ ภายในห้อง โดยเพลิงได้ลุกไหม้เผาผลาญห้องเก็บของอาคารที่มีอายุกว่า 20 ปีอย่างรวดเร็วจนเสียหายทั้งหมด ในเบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินค่าความเสียหายได้

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายสาคร อาษาภา พนักงานรักษาความปลอดภัยที่ดูแลป้อมยามประตูทางเข้าใกล้อาคารที่เกิดเหตุ ทราบว่า ระหว่างเกิดเหตุตนได้กลิ่นคล้ายสายไฟไหม้ เมื่อสำรวจดูโดยรอบพบว่ามีกลุ่มควันลอยขึ้นมาจากหลังคาห้องเก็บของอาคารดังกล่าว และมีเสียงประทุคล้ายกับไฟลัดวงจรดังมาหนึ่งครั้ง จากนั้นไฟได้ลุกไหม้ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ได้พยายามใช้ถังดับเพลิงดับเข้าดับไฟ แต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ จึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และรถดับเพลิง นอกจากนี้ยังมีคนเห็นประกายไฟเกิดจากสายไฟด้านนอกบนอาคารอีกด้วย 

เบื้องต้น คาดสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้อาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากเป็นอาคารเรียนเก่าและเป็นห้องติดตั้งแผงควบคุมวงจรไฟฟ้าทั้งหมดของอาคาร และมีสายไฟใหญ่ติดตั้งอยู่ซึ่งไฟไหม้จนเปลือกหุ้มสายไฟละลาย เห็นเส้นลวดทองแดงเจ้าหน้าที่กั้นที่เกิดเหตุไวเพื่อ ให้กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจที่เกิดเหตุเพื่อลงความเห็นการเกิดเพลิงไหม้ที่ชัดเจนอีกครั้ง

สำหรับอาคารเรียนที่เกิดเพลิงไหม้เป็นอาคารการแพทย์ทางเลือก ของโปรแกรมวิชาสาธารณะสุขศาสตร์ ในขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ภายในอาคาร  ในส่วนห้องที่เกิดเพลิงไหม้นั้นเป็นห้องสำหรับเก็บเอกสาร อุปกรณ์การเรียน อีกทั้งยังเป็นจุดติดตั้งแผงควบคุมวงจรไฟฟ้าทั้งหมดของอาคารเรียนดังกล่าว หลังเกิดเหตุนักศึกษาและอาจารย์ที่ทราบข่าวต่างพากันมาช่วยขนย้ายอุปกรณ์การเรียนและเอกสารสำคัญออกจากอาคารเพื่อป้องกันการเสียหายทั้งหมด