“หมู่บ้านรักษาศีล 5” (ระยะที่ 3) จังหวัดกำแพงเพชร
วันที่ 16 สิงหาคม 2559 เวลา 13.00 น.ที่หอปะชุมวัดคูยาง พระอารามหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร คณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” นำโดย พระธรรมมังคลาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 7 วัดพระธาตุศรีจอมทอง จ.เชียงใหม่ พระธรรมรันมงคล เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร ซึ่งมีหน้าที่ในการกำกับดูแล ให้คำปรึกษา แนะนำ แก้ไขปัญหาอุปสรรค เพื่อให้การดำเนินงานตามโครงการฯดังกล่าวสัมฤทธิ์ผลตามวัตถุประสงค์ กำหนดแผนปฏิบัติงานและปฏิทินการดำเนินงาน ตามที่กำหนดไว้ในโครงการฯ เร่งรัดติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการฯให้บรรลุเป้าหมาย อย่างมีประสิทธิภาพ รวบรวมสรุปผลและรายงานผลการดำเนินงานเสนอประธานอำนวยการ และการดำเนินการอื่นๆตามที่ได้รับมอบหมาย วันนี้ได้ประเมินโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” (ระยะที่ 3) จังหวัดกำแพงเพชร
โดยมีพระธรรมภาณพิลาส เจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร เจ้าอาวาสวัดคูยาง พระราชวชิรเมธี เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุ พระมหาวิโรจน์ วิโรจโน เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร ร่วมกับพระสังฆาธิการ จากพระอารามวัดมหานิกายต่างๆในจังหวัดกำแพงเพชร และ นายสุรพล กรีถาวร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกำแพงเพชร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในโครงการฯทั้ง 11 อำเภอของจังหวัดกำแพงเพชร รับการประเมิน
จังหวัดกำแพงเพชรจากทั้ง 11 อำเภอ นั้น มีประชากรนับถือศาสนาพุทธ รวม 725,158 คน ที่ได้ดำเนินการตามหัวข้ออบรม 8 หัวข้อ คือ ศีลธรรมและวัฒนธรรม สุขภาพอนามัย สัมมาชีพ สันติสุข ศึกษาสงเคราะห์ สาธารณสงเคราะห์ กตัญญูกตเวทิตาธรรม และสามัคคีธรรม โดยมอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกำแพงเพชร ร่วมกับคณะสงฆ์ หน่วยงานราชการ สถานศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรภาคเอกชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรเครือข่ายชาวพุทธ ได้ขับเคลื่อนโครงการเพื่อสนับสนุนนโยบายดังกล่าว โดยกำหนดเป้าหมายทุกตำบล ทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ พร้อมทั้งตั้งเป้าตัวชี้วัด ให้เกิดสัมฤทธิผลอย่างเป็นรูปธรรม ภายใน 4 ปี ตั้งแต่ปี 2557 ถึง 2560
จากสถานการณ์บ้านเมืองในห้วงเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบปัญหามากมาย ประกอบด้วยการกระทำผิดกฎหมาย ปัญหาอาชญากรรม การทำลายทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม การระบาดของสิ่งเสพติด และอบายมุข การแตกแยกทางความคิด การเห็นประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม และการจาบจ้วงดูหมิ่นสถาบันหลักของชาติ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ล้วนเกิดจากการขาดสติ จิตสำนึก ศีลธรรมและคุณธรรมจริยธรรมอันจะส่งผลให้สังคมเกิดความขัดแย้ง
เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เจ้าพระคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช มีดำริที่จะเสริมสร้างและสมานฉันท์ของคนในชาติ ให้เกิดความสงบ สันติสุข มีความสามัคคีกลมเกลียวกัน สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยให้พุทธศาสนิกชนได้น้อมนำหลักศีล 5 มาประพฤติปฏิบัติในการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยเน้นการรณรงค์ส่งเสริม และสนับสนุนให้มี “หมู่บ้านรักษาศีล 5” ขึ้นในทุกส่วนของประเทศ ..
สอดคล้องกับนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำหนดพื้นที่เป้าหมาย สร้างความปรองดองสมานฉันท์ แก่ประชาชนในชาติ โดยดำเนินการพร้อมกันทั้ง 76 จังหวัด ซึ่งมีวัตถุประสงค์ของโครงการหมู่บ้านศีล 5 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เพื่อเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ลดปัญหาความขัดแย้ง สร้างความมั่นคง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ให้กับประชาชนในประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้นำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาใช้ในการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข และเพื่อปลูกฝังจิตสำนึกและสร้างความตระหนัก รักและเชิดชูสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ให้เป็นสถาบันหลักของประเทศอย่างมั่นคง//พิพัฒน์ จงมีความสุข รายงาน