ผู้การฯแจงเหตุสังคมสงสัย สั่งย้าย ผกก.ขาณุฯ ด้าน ผอ.กตต.เผยดำเนินคดีกับเด็ก 8 ขวบ แนวทางสั่งไม่ฟ้อง
วันที่ 21 กรกฎาคม 2559 เกี่ยวกับกรณีผู้บัญชาการตำรวจภาค 6 ได้มีคำสั่งให้ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรขาณุวรลักษบุรีไปช่วยราชการตำรวจภูธรภาค 6 โดยขาดจากตำแหน่งเดิมเนื่องจากรายงานผลคดีเด็กหญิง 8 ขวบ 2 คนวิ่งเล่นฉีกบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์ออกเสียงประชามติที่หน่วยออกเสียงประชามติหน่วยที่ 5 โรงเรียนวชิรสารวิทยา ภายในวัดหงส์ทอง หมู่ที่ 5 บ้านเหนือ ตำบลสลกบาตร อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา และในการสั่งย้ายผู้กํากับขาณุวรลักษบุรีในครั้งนี้ มีคำถามจากสังคมอย่างกว้างขวาง ถึงกรณีความผิด เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงศ์ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชรเปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาประชุมมอบนโยบายที่ตำรวจภูธรภาค 6 โดยให้หัวหน้าสถานีทุกสถานีผู้บังคับการฯ ทุกจังหวัดในเขตภาค 6 ไปร่วมประชุมและมีการมอบนโยบายว่า ถ้ามีเหตุการณ์สิ่งใดก็ตามที่เกิดขึ้นในภาค 6 เกี่ยวมีผลกระทบต่อสถานการณ์ออกเสียงประชามติ ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 7 สิงหาคม 2559 ให้ท้องที่ที่รับผิดชอบรายงานโดยด่วนทางโทรศัพท์ ต่อผู้บังคับการฯผู้บัญชาการฯ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติฯโดยตรงในการที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมาเวลา 11.30 น. ไม่ได้มีเหตุการณ์ ฉีกบัญชีรายชื่อของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงประชามติ ทางเจ้าหน้าที่อนุกรรมการออกเสียงประชามติประจำอำเภอ ได้เดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรขาณุวรลักษบุรี เวลา 20 .00 น.ของค่ำของวันเดียวกัน หลังจากนั้น พ.ต.อ.อิทธิ ชำนาญหมอผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรขาณุวรลักษบุรี พร้อมด้วยชุดสืบสวน ได้ดำเนินการปฏิบัติหน้าที่ในการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดไม่ได้มีความบกพร่องต่อการปฏิบัติหน้าที่ แต่ไม่ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามที่ มีมติในการประชุมเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา จนกระทั่งในช่วงเย็นของวันที่ 17 กรกฎาคม 2559 หลังเกิดเหตุ 2 วัน จึงมีการรายงาน ซึ่งถือว่าล่าช้ามากในเช้าวันที่ 18 กรกฎาคม 2559 ก็ได้มีคำสั่งจาก พล.ต.ท.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 มีหนังสือคำสั่งเลขที่ 144/2559 ลงวันที่ 18 ก.ค.ช่วยราชการ(ศปก.)ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจภาค 6 ขาดจากตำแหน่งเดิม และมีคำสั่งให้ พ.ต.อ.สุทัศน์ มณสวัสดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร รักษาราชการแทนผู้กำกับขาณุวรลักษบุรี
และในวันที่ 17 กรกฎาคม 2559 พล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงศ์ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร ได้ลงไปติดตามคลี่คลายคดีนี้ด้วยตนเอง และทราบว่าผู้ที่ก่อเหตุทำให้ราชการเสียทรัพย์ในครั้งนี้เป็นเด็กหญิงอายุ 8 ขวบ 2 คนจึงได้เชิญตัวมา และบันทึกถ้อยคำที่เกิดจากความซุกซนและรู้เท่าไม่ถึงการณ์และไม่ได้มีเจตนาที่จะทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ต่อมา วันที่ 20 กรกฎาคม 2559 เวลา 17.30 น.เจ้าหน้าที่จาก กกต.ก็ได้ได้เข้าแจ้งความในฐานะผู้เสียหายต่อ ร.ต.อ.นพเก้า ดวงคำ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรขาณุวรลักษบุรี
ผู้สื่อข่าวได้ติดตามคดีนี้พบว่า พ.ต.อ.อิทธิ ชำนาญหมอผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรขาณุวรลักษบุรี หลังจากเกิดเหตุได้มีหนังสือลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2559 ถึงคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดกำแพงเพชร และพและได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์เมื่อเย็น วันที่ 20 กรกฎาคม 2559 เวลา 17.30 น.เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายสุรพงษ์ ธนสังข์นุชิต ผู้อำนวยการการเลือกตั้งจังหวัดกำแพงเพชร เปิดเผยว่ากรณีการดำเนินคดีกับเด็กอายุ 8 ขวบที่มาทำลายบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเรื่องนี้ ทางสำนักงานกกต.ได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2559 ต่อพนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้วซึ่งกรณีที่ไปดำเนินการเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2559 หลังเกิดเหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2559 เนื่องจากกรณีนี้ทางสำนักงาน กกต.จังหวัดกำแพงเพชรได้ทำหนังสือหารือไปยังสำนักงาน.กกต.กลางเกี่ยวกับใครเป็นผู้เสียหายที่จะไปแจ้งความร้องทุกข์ ซึ่งได้รับตอบมาเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2559 ว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการออกเสียงประจำเขตออกเสียงจังหวัดกำแพงเพชร ที่จะไปแจ้งความร้องทุกข์ เมื่อได้รับหนังสือตอบกลับมาแล้ว ก็ได้นัดประชุมเร่งด่วนเมื่อประชุมแล้วมีมติมอบให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดฯหรือพนักงานสอบสวนของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกำแพงเพชร ไปดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์แทน จึงได้ไปดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ในวันและเวลาดังกล่าวส่วนกรณีเด็กอายุ 8 ขวบแล้วจะถอนแจ้งความได้ไหมไม่แจ้งได้ไหม กรณีนี้เมื่อเป็นทรัพย์ของทางราชการทางพนักงานจะต้องปฏิบัติการแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายส่วนกรณีจะฟ้องหรือไม่ฟ้องนั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการเจ้าของคดี ที่จะมีความเห็นเด็กอายุไม่ถึง 10 ปี และไม่มีเจตนานั้น แนวทางน่าจะเป็นสั่งไม่ฟ้อง หากพนักงานเราไม่ไปดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ก็จะเข้าข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ได้